โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

“ดาบแป๊ะ” เปิดใจ นาทีลั่นไกยิงไรเดอร์ อ้างแค่ป้องกันตัว | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

Ch7HD News - ข่าวช่อง7

อัพเดต 25 ม.ค. 2567 เวลา 13.15 น. • เผยแพร่ 25 ม.ค. 2567 เวลา 12.15 น. • TEROASIA
“ดาบแป๊ะ” เปิดใจ นาทีลั่นไกยิงไรเดอร์ อ้างแค่ป้องกันตัว | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจคุมตัวดาบแป๊ะยิงไรเดอร์ฝากขัง เจ้าตัวอ้างตกใจ จึงต้องยิงเพื่อป้องกันตัว ขณะที่พ่อเลี้ยงฝ่ายหญิงเล่านาทีระทึก บอกว่าไรเดอร์คลั่ง ปาขวดใส่-ถือมีดไล่ฟัน เสียใจทำดาบแป๊ะเดือดร้อน ย้อนไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ดาบแป๊ะเปิดใจ นาทีลั่นไกยิงไรเดอร์ อ้างแค่ป้องกันตัว

นี่เป็นภาพเหตุการณ์ที่ดาบแป๊ะ ตำรวจยศดาบตำรวจ สน.สุทธิสาร ใช้อาวุธปืนยิงนายธิติวัฒน์ หรือหมอก อายุ 25 ปี อาชีพไรเดอร์ เสียชีวิตหน้าบ้านในซอยรัชดาภิเษก 3 แยก 14 แขวงและเขตห้วยขวาง ช่วงเย็นวานนี้ กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ บันทึกภาพรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์ทอง มาจอดหน้าบ้าน ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะขว้างขวดเครื่องดื่มชูกำลังใส่รถ แล้วถือมีดปลายแหลมยาว 1 ฟุตวิ่งออกจากบ้าน แทงเข้าที่กระจกรถเก๋งข้างคนขับ จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนที่นายหมอกจะล้มลงเสียชีวิต

ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ตรวจสอบศพนายหมอก ถูกยิงเจาะลำคอ ส่วนดาบแป๊ะ รอมอบตัวในที่เกิดเหตุ ข้อมูลจากแม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายพาเพื่อนสาวมาอาศัยที่บ้านนานแล้ว แต่เป็นลักษณะไป ๆ มา ๆ ก่อนเกิดเหตุเห็นชาย 2 คนขับรถมาตามหาฝ่ายหญิง โดยคนขับอ้างว่าเป็นพ่อ

พ่อเลี้ยงเล่านาทีระทึก อ้างไรเดอร์อยู่ในอาการคลั่ง

ขณะที่นายนิ้ว (นามสมมุติ) พ่อเลี้ยงของฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นคนขับรถไปกับดาบแป๊ะ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและดาบแป๊ะไปทำงานด้วยกัน แต่ลืมโทรศัพท์ซึ่งมีข้อมูลสำคัญไว้กับลูกสาว จึงโทรไปหา เพื่อจะเข้าไปเอาโทรศัพท์มือถือที่ลูกสาวยืมไปประมาณสัปดาห์กว่า ๆ โดยสอบถามพิกัดที่ลูกสาวอยู่ เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกสาวอยู่ที่นี่ และได้ชวนดาบแป๊ะไปเอาโทรศัพท์เป็นเพื่อน ไปถึงที่เกิดเหตุระหว่างรอลูกสาวเอาโทรศัพท์มาให้ ปรากฎว่าผู้เสียชีวิต ขว้างขวดเครื่องดื่มชูกำลังลงมาจากชั้น 2 มาโดนรถ แล้วถือมีดยาวประมาณ 1 ฟุต วิ่งปรี่คล้ายคนคลั่งมาไล่ฟันจนต้องหนีเข้าไปในรถ จากนั้นผู้เสียชีวิตวิ่งไปหาดาบแป๊ะที่นั่งในรถ และเปิดกระจกรถเอามีดจ่อที่หน้าดาบแป๊ะ ดาบแป๊ะบอกคนตายว่า มีอะไรให้พูดกันดี ๆ และพยายามกดกระจกขึ้น แต่คนตายไม่หยุดแทง เป็นเหตุให้ดาบแป๊ะใช้ปืนยิง

เหตุการณ์นี้นายนิ้วบอกว่า หากเป็นตนก็คงตัดสินใจเหมือนกับดาบแป๊ะ ส่วนขณะเกิดเหตุ ทำไมไม่ขับรถหนีนั้น นายนิ้วชี้แจงว่า ตนเองไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะขับรถได้รู้สึกผิด ยอมรับว่าเป็นต้นเหตุของการสูญเสียในครั้งนี้

ดาบแป๊ะเปิดใจนาทีลั่นไก แค่ป้องกันตัว-ตกใจ

ล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง คุมตัวดาบแป๊ะ ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาภิเษกฝากขัง ผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อเท็จจริง ดาบแป๊ะพูดสั้น ๆ บอกแค่ว่า ผู้เสียชีวิตถือมีด วิ่งเข้ามาจะแทงตนจริง เกิดอาการตกใจ ยกปืนขึ้นยิงเพื่อป้องกันตัว ไปฟังเสียงดาบแป๊ะ ขณะถูกคุมตัวไปฝากขัง

แม่ไรเดอร์ยอมรับลูกชายเสพยา

ด้านแม่ของผู้เสียชีวิต บอกว่าลูกชายอารมณ์ร้อน และยอมรับว่าลูกชายเสพยา

ดาบแป๊ะเจอ 3 ข้อหาหนัก-ตำรวจค้านประกัน

พันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง ระบุว่า ตำรวจนำผู้ต้องหาไปฝากขังใน 3 ข้อหาคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองและที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในเมืองและที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และเป็นผู้ต้องหาเป็นตำรวจ พนักงานสอบสวนต้องทำคดีให้รัดกุมและรอบคอบ

ส่วนการสอบปากคำพยาน สอบปากคำไปแล้ว 6 ปาก ผู้ต้องหายังไม่ได้ให้การใด ๆ ในชั้นสอบสวน ขณะที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ไม่ขอออกความเห็น เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี แต่ยืนยันว่าแม้ผู้ต้องหาเป็นตำรวจ แต่ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35

ชมผ่าน YouTube https://youtu.be/VeA6FxLY2jo?feature=shared

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...