โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

งูคิดสั้น กัดตัวเองตาย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพจดัง Nick Wildlife เฉลยแล้ว

Khaosod

อัพเดต 16 ธ.ค. 2566 เวลา 09.48 น. • เผยแพร่ 16 ธ.ค. 2566 เวลา 09.48 น.
Nick Wildlife เฉลยข้อเท็จจริง งูคิดสั้น กัดตัวเองตาย เป็นเรื่องจริงหรือไม่

งูคิดสั้น กัดตัวเองตาย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพจดัง Nick Wildlife เฉลยแล้ว ชี้เป็นงูสิงไม่มีพิษ กัดตัวเองไม่ตาย คาดถูกรถทับ ดิ้นทุรนจนกัดตัวเอง

วันที่ 16 ธ.ค.2566 นายนิรุทธ์ ชมงาม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสัตว์เลื้อยคลาน หัวหน้าและผู้ก่อตั้งกลุ่มอสรพิษวิทยา ออกมาตอบคำถาม กรณีมีคนเห็นงูตัวหนึ่งนอนตายอยู่ โดยพบว่า ปากของงูตัวนั้นกำลังกัดลำตัวของตัวเองอยู่ จึงมีการตั้งข้อสงสัยกันว่า พฤติกรรมดังกล่าว เป็นการฆ่าตัวเองตายหรือไม่ โดยนายนิรุทธ์ ตอบคำถามดังผ่าน Nick Wildlife ดังนี้

งูคิดสั้น กัดตัวเองดับ!!ทำไมมันจึงทำเช่นนั้น?

วันนี้จะมาอธิบายประเด็นที่เป็นกระแสร้อนแรงที่ อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช บังเอิญมีคุณตาคุณยายคู่หนึ่ง ท่านตื่นมาตอนเช้าแล้วเผอิญไปเจองูตัวหนึ่งนอนตายอยู่ข้างถนน ที่หน้าแปลกใจก็คืองูตัวนั้นมันมีพฤติกรรมการกัดตัวเองนอนตายอยู่แบบนั้น คือตรงนี้ป็นเรื่องพบเห็นได้ไม่บ่อย คุณตาเขาบอกว่าเจ้างูตัวนี้มันคืองูสิงดง และการที่มันกัดตัวเองแบบนี้เนื่องจากว่ามันต้องการฆ่าตัวตาย ซึ่งเหตุการแบบนี้อาจจะนำพาโชคลาภมาให้

แต่คราวนี้หลายๆ ท่านก็มีความสงสัยว่าเจ้างูตัวนี้มันจะฆ่าตัวตายไปเพื่ออะไร มันไปน้อยอกน้อยใจใครมาก็เลยทำการสอบถามเพจ Nick Wildlife ซึ่งทางเราต้องทำหน้าที่ในการอธิบายประเด็นนี้นั้นก็คือความกระจ่างเข้าใจกัน

ประเด็นแรก - ที่คุณตาบอกว่าเจ้างูตัวนี้ก็คืองูสิงดงจริงๆ ไม่ใช่แต่มันเป็นงูสิงตาโตหรือว่างูสิงธรรมดา คือเป็นงูในกลุ่มเดียวกัน ความแตกต่างจริงๆ แล้วงูสิงดงเป็นงูสิงที่มีขนาดใหญ่มากๆ สามารถยาวได้ถึงเกือบๆ 4 เมตรในตัวที่โตเต็มวัย ซึ่งจะต่างจากงูสิงธรรมดาที่เวลาโตเต็มที่อาจจะยาวประมาณสัก1.5 เมตรเท่านั้นเอง

งูสิงไม่มีพิษ กัดตัวเองไม่ตาย

แต่อย่างไรก็ตามงูสิงทั้งสองชนิดนี้คืองูที่ไม่มีพิษ ไม่มีอันตราย ดังนั้นประเด็นที่บอกว่าการกัดตัวเองเพื่อฆ่าตัวตายจึงไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด เพราะว่ามันไม่มีพิษกัดไปก็ไม่ตาย

คราวนี้ถ้าเกิดกัดแล้วไม่ตาย ไม่ได้ฆ่าตัวตายแล้วจะกัดตัวเองไปทำไม ตรงนี้จากประสบการณ์ในการทำงานต้องบอกว่าเคยเห็นปรากฏการณ์แบบนั้นเช่นกัน ก็คือบางครั้งเราอาจจะมีการขับรถไปตามท้องถนน หรือมีการเดินสำรวจก็อาจจะสามารถพบเห็นปรากฏการณ์นี้ได้

เคยมีครั้งหนึ่งที่เรามีการสำรวจแล้วก็พบกับงูตัวหนึ่งนอนตายกัดตัวเองอยู่เช่นกัน เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรไปรับชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ลิงก์ในคอมเมนต์ (คลิป)

พฤติกรรมในการกัดตัวเองของงูก็จะมีมาจากหลากหลายสาเหตุ เช่นการจะเป็นความเครียด หรืออาจจะมีอาการทางระบบประสาท และก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หรืออาจจะมีอาการบาดเจ็บเช่นถูกทำร้ายมารู้สึกเจ็บจะเป็นปฏิกิริยาในการป้องกันตัวโดยการแว้งมากัด ที่ในบางครั้งกัดไม่เเม่นแล้วก็กัดไปโดนตัวเองเข้าก็มีให้เป็นอยู่บ่อยๆ

เวลาเราเข้าไปจับงู แต่เหตุการณ์นี้สันนิษฐานว่าสิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากเจ้างูตัวนี้มันมีการเลื้อยออกหากินไปตามปกติเหมือนทุกๆวัน แต่บังเอิญวันนี้อาจจะถูกรถทับ คือคุณตาบออกว่ามันไม่น่าใช่รถทับเพราะบนตัวเขาไม่ได้มีบาดแผล ไม่ได้มีร่องรอยอะไรเลย

บ่อยครั้งเวลางูถูกรถที่มีขนาดเล็กเช่น มอเตอร์ไซต์ทับจะไม่ปรากฏร่องรอยบาดแผลบริเวณลำตัว แต่ภายในอาจจะบอบช้ำมากๆ คือบางตัวภายนอกสวยงามมากแต่ว่าภายในคือกระดูกหักบ้าง มีเลือดออกภายในบ้างแล้วก็ตายในที่สุด

ทุรนทุรายก่อนตาย จนต้องกัดตัวเอง

คือตรงนี้ผมสันนิษฐานว่าเกิดจาก งูเลื้อยข้ามถนนแล้วก็โดนรถทับอาจจะเป็นรถขนาดเล็ก เช่น มอเตอร์ไซต์ เพียงแต่ว่ามันจะยังไม่จะยังไม่ตายในทีเดียว

งูเป็นสัตว์ที่มีธาตุทรหดสูง เวลาถูกรถทับ ถูกตี เขามักมีความทนทานกว่าจะตายใช้เวลานาน เนื่องจากเป็นสัตว์เลือดเย็นสมองต้องการออกซิเจนเข้ามาเลี้ยงน้อยกว่าสัตว์เลือดอุ่น


ดังนั้นบางทีกว่าจะตายกินระยะเวลาไปนานและภาวะก่อนจะตาย บางครั้งคือมีอาการทุรนทุราย อาการนี้จะเป็นอาการที่เหนือการสังการของสมอง และงูจะดิ้นหมุนไปหมุนมาทุรนทุราย ตอนนั้นงูจะเริ่มอ้าปาก แล้วอะไรก็ตามที่ผ่านปากเข้าไปเขาอาจจะกัดได้ในทันที

ปัญหาอีกปัญหาหนึ่งลักษณะโครงสร้างฟันของงูจะมีลักษณะที่ปลายแหลมมันมีการงุ้มเข้าไปในช่องปาก สาเหตุที่เป็นแบบนี้เวลาเขาจับเหยื่อพอเขี้ยวเกี่ยวปุ๊บจะเป็นการดึงเข้ามาทำให้เหยื่อดิ้นหลุดได้ยาก

สมมติว่าเขามีอาการทุรนทุรายแล้วกัดตัวเอง แน่นอนเขาจะดึงปากออกได้ยากเช่นกัน แลเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการแบบนี้ คือ กัดค้างอยู่จนตายนั่นเอง

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเพจ : Nick Wildlife

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...