โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

KCG เปิดตัว "KCG Logistics Park" ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าตามกลยุทธ์สู่เป้าหมายการเติบโต 1 หมื่นล้านบาท

Stock2morrow

อัพเดต 11 ก.ย 2567 เวลา 03.54 น. • เผยแพร่ 10 ก.ย 2567 เวลา 07.00 น. • Stock2morrow
KCG เปิดตัว

KCG เปิดตัว "KCG Logistics Park" ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าตามกลยุทธ์ "From Great to Growth" บริหารห่วงโซ่อุปทานจากต้นน้ำยันปลายน้ำ สู่เป้าหมายการเติบโต 1 หมื่นล้านบาท

บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์สัญชาติไทย เผยกลยุทธ์ "From Great to Gowth" บริหารห่วงโซ่อุปทานด้วยนวัตกรรมรักษาสินค้าคุณภาพสู่มือลูกค้าเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการทุ่มงบประมาณก่อสร้าง "KCG Logistics Park" " ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าแห่งใหม่กว่า 350 ล้านบาทที่พร้อมเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้ เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายการเติบโต 10,000 ล้านบาท พร้อมชูกลยุทธ์ "From Great to Growth" ทั้งความเป็นเลิศด้านคุณภาพ เทคโนโลยีเพื่อการเติบโต และการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตอย่างยังยืน

[ผลประกอบการ Q2/2024 ของ KCG]

คุณดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

"จากผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มียอดขายรวม 1,688.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% และมีกำไรสุทธิ 94.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรวมแล้ว สามารถทำรายได้เติบโตในเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) มียอดขาย 1,022.6 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 60.6% ถือเป็นยอดขายอันดับ 1 ในตลาดดังกล่าว ส่วนตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับประกอบอาหารและเบเกอรี่และอื่นๆ รวมทั้งตลาดผลิตภัณฑ์บิสกิต สามารถทำยอดขายสูงสุดติด 5 อันดับแรก ได้ทั้งสิ้น ซึ่งแม้ว่าไตรมาส 2 ของปีนี้จะเป็นช่วงโลว์ซีซัน ประกอบกับความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์โลกและการค้าโลกที่อาจจะชะลอตัว แต่ KCG สามารถทำรายได้เติบโตสวนกระแส”

ภาพรวมผลประกอบการ 2566

ยอดขายรวม 7,157.0 ล้านบาท เติบโต 16.2% มีกำไรสุทธิ 305.9 ล้านบาท เติบโต 26.9%

ทั้งกำไรสุทธิและรายได้จากการขายถือว่าเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 65 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งธุรกิจ 2501

- ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) มียอดขาย 4,086.5 ล้านบาท เติบโต 15.0%

- ผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่และอื่นๆ (FBI) มีรายได้ 2,061.1 ล้านบาท เติบโต 15.3%

- ผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits) มีรายได้ 1,009.3 ล้านบาท เติบโต 23.9%

ผลประกอบจำแนกตามช่องทางการจำหน่ายปี 2566

- ผู้ประกอบการ (B2B) มียอดขาย 2,892.7 ล้านบาท เติบโต 14.2%

- ผู้บริโภคทั่วไป (B2C) มีรายได้ 3,938.6 ล้านบาท เติบโต 17.7%

- สินค้าส่งออก (Export) มียอดขาย 325.7 ล้านบาท เติบโต 18.1%

[3 เทรนด์ที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารห่วงโซ่อุปทานยุคใหม่]

คุณดำรงชัย กล่าวว่า KCG เล็งเห็น 3 เทรนด์ที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารห่วงโซ่อุปทานยุคใหม่ ซึ่ง KCG ได้นำเทรนด์ดังกล่าวมาต่อยอดในการสร้างกลยุทธ์การบริหารห่วงโซ่อุปทาน ผ่านการสร้างศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park แห่งนี้ โดย 3 เทรนด์ดังกล่าวประกอบด้วย

1. ผู้บริโภคมีความต้องการในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย (360 Degrees Product Trend) มีความพิถีพิถันกันในการพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน โดยบริษัทฯ จะต้องมั่นใจได้ว่าทุกผลิตภัณฑ์จะถูกเก็บรักษา และส่งมอบด้วยมาตรฐานคุณภาพที่ดีที่สุด

2. การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) บริษัทฯ ต้องให้ความสำคัญกับแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ใน 3 ปัจจัยหลักได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social, Governance, ESG) ในทุกกระบวนการของห่วงโซ่อุปทาน

3. การนำเทคโนโลยีมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (Digitalization & Automation) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหาร เกิดความแม่นยำ รวดเร็วในการบริหารระบบความท้าทาย ทั้งนี้องค์กรยังคงมองหา และพิจารณาการลงทุนเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันและลดต้นทุนในระยะยาว

[ชูกลยุทธ์ “From Great to Growth" ผ่านการสร้าง KCG Logistics Park]

KCG เชื่อว่าการบริหารห่วงโซ่อุปทานและคลังสินค้า หรือ Supply Chain & Inventory Management

เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจ โดยเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของบริษัทฯ (7 Business Pillars) ห่วงโซ่อุปทานจึงเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยมก่อนไปถึงมือผู้บริโภคและสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยังยืนได้

ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าเป็นสิ่งสำคัญระหว่างการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพของ KCG กับการจัดส่งสินค้าที่ KCG มีทั้งหมดกว่า 50 แบรนด์ ให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วปลอดภัยและรักษาคุณภาพรองสินค้าไว้อย่างดี เราจึงทุ่มงบลงทุน 350 ล้านบาท ในการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าแห่งใหม่ที่ได้มาตรฐานระดับสากลเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจพร้อมทั้งตอบโจทย์เรื่องการสร้างความยั่งยืนไปพร้อมกัน โดยใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า "From Great to Growth"

กลยุทธ์ From Great to Growth เป็นการนำเทรนด์ของการบริหารห่วงโซ่อุปทานมาผนวกกับความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์ 66 ปีที่เรามี KCG มีความสามารถในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคที่เป็นตัวต้นน้ำอยู่แล้ว

ดังนั้นการเก็บรักษาและส่งสินค้าไปให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างรวดเร็วปลอดภัยที่เป็นปลายน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้ ทำให้ KCG สามารถรักษาคุณภาพได้ตั้งแต่ดันน้ำอันปลายน้ำได้อย่างครบวงจร โดยใช้ KCG Logistics Park เป็นศูนย์กระจายสินค้า และคลังสินค้าแห่งความยั่งยืนและนวัตกรรม เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตให้องค์กร

[เป้าหมายของ KCG Logistics Park]

กลยุทธ์ From Great to Growth ที่ใช้ในการบริหารห่วงโซ่อุปทานและคลังสินค้า ผ่าน KCG Logistics Park จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทางธุรกิจแบบก้าวกระโดดสู่รายได้ 10,000 ล้านบาท ใน 35 ปีข้างหน้า และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยลดค่าเช่าคลังสินค้าภายนอกได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ในมุมของธุรกิจ KCG Logics Park ยังมีความมุ่งมันในการเป็นตัวกลางในการขนส่งสินค้า KCG แก่ผู้ประกอบการรายย่อย และช่วยตอบสนองโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ กลยุทธ์ From Great to Growth ประกอบไปด้วย 3 กลยุทธ์ย่อย ได้แก่

1. สร้างการเติบโตจากความเป็นเลิศด้านคุณภาพ (Quality Excellence for Growth)

2. สร้างการเติบโตจากเทคโนโลยี (Tech for Growth)

3. สร้างการเติบโตจากการรักษาสิ่งแวดล้อม (Green for Growth)

#Stock2morrow #สื่อและสังคมของนักลงทุน #KCG

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...