เพื่อนบ้านป้ารัชตนา ที่ถูกรถชนขาหักสองข้างตรงทางม้าลาย ผวาไม่กล้าข้ามถนนจ ตำรวจยังตามจับคนชนไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีเพจกลุ่มคลองสามได้มีการลงคลิปวิดีโอรถกระบะสีดำชนป้ารัชตนา คงกำเนิด อายุ 50 ปีขณะข้ามทางม้าลายเยื้องกับหมู่บ้านพฤกษา13 ม.4 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีจนลงไปนอนหมดสติบริเวณกลางถนนขณะที่ยืนรอข้ามทางม้าลายโดยภายในคลิปวิดีโอนั้นหลังจากกระบะคันสีดำชนเสร็จแล้วก็ได้ขับรถหลบหนี้ไปโดยไม่หันรถกลับไปดูคนที่ถูกชนแต่อย่างใดจนกระทั่งผู้บาดเจ็บได้เข้ารับการผ่าตัดเนื่องจากขาทั้งสองข้างหักผิดรูปเหตุเกิดเมื่อเวลา 05.00.น ของวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาจนบัดนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง ยังไม่สามารถจับตัวคนขับรถกระบะสีดำมาดำเนินคดีทางกฏหมายได้เลย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตามความคืบหน้าของเรื่องราวดังกล่าวที่บ้าน 37/1249 หมู่บ้านพฤกษา13 ม.4 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบว่าป้ารัชตนา คงกำเนิด ที่ได้นับการผ่าตัดขาที่หักสองข้างได้กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้านเป็นวันแรกโดยมีเพื่อนบ้านเข้ามาดูอาการและได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจจนบัดนี้ยังตามจับคนชนไม่ได้
โดยป้ารัชตนา ได้กล่าวว่าตั้งแต่เกิดเหตุรถกระบะสีดำชนตนเองจนต้องไปนอนรักษาอาการโดยขาทั้งสองข้างต้องผ่าตัดและต้องใช้เงินส่วนตัวที่เก็บมาใช้รักษาตัวเองจนเงินหมดแล้ว อีกทั้งตนไม่ได้ทำงานเลยเงินจะให้ลูกทั้ง 2 ไปโรงเรียนก็ไม่มีจนลูกทั้ง 2 ต้องออกไปหางานทำเสริมเพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเรียนหนังสืออีก โดยเหตุการณ์นี้เกิดมาตั้งแต่ 1 ตุลาคม จนถึงวันนี้จะครบเดือนอยู่แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังตามจับคนชนไม่ได้ทั้งทีกล่องวงจรปิดเห็นรถกระบะที่ชนอย่างชัดเจนมาก อีกทั้งทางลูกชายของตนได้เดินทางไปสอบถามกับร้อยเวรเจ้าของคดีก็ได้แจ้งว่ามีตำรวจกำลังตามให้อยู่ จึงฝากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามคนชนมารับผิดชอบด้วยเนื่องจากตอนนี้ตนเป็นหัวหน้าครอบครัวเพียงคนเดียวและลำบากมากในตอนนี้
ขณะที่ทางเพื่อนบ้านหลายครัวเรือนของป้ารัชตนา ที่แวะเวียนมาเยี่ยมดูอาการได้บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าชาวบ้านหลายครัวเรือนในหมู่บ้านพฤกษา13 นี้ต่างหวาดผวารถกระบะที่ชนแล้วนี้เป็นอย่างมากจนไม่มีใครกล้าข้ามถนนบริเวณดังกล่าวแล้วเพราะตำรวจยังจับไม่ได้ อีกทั้งขอฝากไปทางเจ้าหน้าที่ให้เร่งช่วยติดตามคนชนมาดำเนินคดีโดยเร็วเพราะหวั่นจะไปทำซ้ำกับชาวบ้านอีกเพราะมีพฤติกรรมชนแล้วนี้นั้นเอง
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ปทุมธานี รายงาน