โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ผลประโยชน์องค์กร มาก่อน ‘คีย์’ พลิกการบินไทยฟื้นแกร่ง ‘ปิยสวัสดิ์’ย้ำไร้สภาพรัฐวิสาหกิจ คือ ‘อิสระ’

The Better

อัพเดต 03 ต.ค. 2567 เวลา 15.57 น. • เผยแพร่ 03 ต.ค. 2567 เวลา 10.44 น. • THE BETTER
‘การบินไทย’ กลับเข้าตลาดฯไตรมาส2ปี68 พร้อม 5 กลยุทธ์พาธุรกิจบินให้สูงกว่าเก่า สู่เป้าหมายส่วนแบ่งตลาดสายการบินเจ้าบ้านมากกว่า 40% ตั้งความหวังบอร์ดกรรมการฯ เซฟองค์กรในอนาคต

ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟู และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) แถลงแผน ‘การบินไทยเผยทิศทางใหม่ที่บินไกลกว่าเดิม พร้อมความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ’ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา กล่าวว่าหลังบริษัทฯ เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในปี 2563 พร้อมนำกิจการออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 2564 โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ‘การบินไทย’ ดำเนินแผนการฟื้นฟู ทั้งการชำระหนี้ การเจรจาลดหนี้ และการขยายระยะเวลา รวมถึงให้สิทธิ์เจ้าหนี้กระทรวงการคลังในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 25,000 ล้านบาท พร้อมเริ่มดำเนินการปรับโครงสร้างทุนที่ประกอบด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน และการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่ ตามแผนฟื้นฟูฉบับปัจจุบัน ในปี 2565

จากการดำเนินงานตามแผนฯ ในปี2567 การบินไทย ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฯ การลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสมและนัดปรุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาวันที่ 8 พ.ย.นี้ โดยภายในวันที่ 31 ธ.ค.2567 จะดำเนินการแปลงหนี้เป็นทุน และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแล้วเสร็จ

โดยในช่วงไตรมาสแรกปี2568 ผู้บริหารแผนอนุมัติงบการเงินสำหรับปี 2567 พร้อมประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการบรืษัทฯ ตามแผนฟื้นฟู และเตรียมนำการบินไทย ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการและกลับไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นำไตรมาส2 ปี 2568

ปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า “ช่วงระหว่างทำแผนฟื้นฟูฯ การบินไทยเป็นธุรกิจเอกชนการบินน่าจะเป็นรายเดียวของโลกในช่วงนั้นที่ไม่มีเงินเข้ามาแม้แต่บาทเดียว ด้วยในขณะนั้นไม่ได้มีสภาพเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว แต่เมื่อมองผ่านไปกลับไปเรื่องดีที่นำไปสู่การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่อย่างจริงจัง”

สำหรับ การปรับโครงสร้างองค์กรของการบินไทย ประกอบด้วย

  • การปรับลดขนาดองค์กร ด้านจำนวนพนักงานในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 16,000 คนจากก่อนหน้าเข้าแผนฟื้นฟูฯ มีจำนวนราว 25,000 คน
  • การปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจกลุ่มธุรกิจจากไทยสมายล์ เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงานและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
  • การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เช่น แอปพลิเคชัน Thai Airways Mobile App เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานภายใน และระบบ HR Core Value มาใช้ในการคัดเลือกพนักงาน
  • การปรับโครงสร้างทางการเงิน เจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้โดยไม่ตัดหนี้ (Hair Cut) แต่ปรับปรุงเงื่อนไขการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ บริหารจัดการทรัพย์สิน และต้นทุนในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน

“ในช่วงปรับโครงสร้างองค์กร ทั้งการลดคนรวมไปถึงความสมัครใจลดเงินเดือนของพนักงานการบินไทยเพื่อให้องค์กรอยู่รอดได้นั้น ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ที่ร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อก้าวข้ามความท้าทายต่าง ๆ มาด้วยกัน” ปิยสวัสดิ์ ย้ำ

พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้ การบินไทยยังบรรลุเป้าหมายแผนการดำเนินงานตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย

  • การเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 3.37 แสนล้านบาท ไปเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565
  • การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจจนทำให้ EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามสัญญาเช่าเครื่องบิน ตั้งแต่กรกฎาคม 2566 ถึงมิถุนายน 2567 เท่ากับ 29,292 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่แผนฟื้นฟูกิจการกำหนดไว้ที่ไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาทในรอบ 12 เดือนย้อนหลัง
  • การดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ โดยไม่เกิดเหตุผิดนัด ปัจจุบันส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินเฉพาะกิจการ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ยังคงติดลบ 40,427 ล้านบาท

ทั้งนี้ การบินไทยจึงเร่งดำเนินงานตามแผนปรับโครงสร้างทุนเพื่อให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของการบินไทยกลายเป็นบวก ผ่านการแปลงหนี้เป็นทุน 2 ส่วน คือ แปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้เป็นทุนภาคบังคับ และให้สิทธิแก่เจ้าหนี้เพื่อแปลงหนี้เป็นทุนเพิ่มเติมโดยความสมัครใจ รวมถึงจะมีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลตามที่แผนฟื้นฟูกิจการกำหนด ได้แก่

  • ผู้ถือหุ้นเดิมของการบินไทยก่อนการปรับโครงสร้างทุน
  • พนักงานการบินไทย และบุคคลในวงจำกัด (Private Placement)

ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของทุนให้กับการบินไทย และเตรียมความพร้อมสำหรับการนำหุ้นการบินไทยกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้ง โดยภายหลังการปรับโครงสร้างทุนภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้ คาดว่ากระทรวงการคลังจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แต่สัดส่วนการถือหุ้นจะลดลง เพื่อเปิดโอกาสให้กับนักลงทุนรายอื่น ๆ

ปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า “หลังการบินไทยออกจากเป็นรัฐวิสาหกิจทำให้คล่องตัวขึ้น เพราะไม่มีกฎระเบียบเข้ามากำกับในยุคธุรกิจการบินแข่งขันสูงบนน่านฟ้าเสรี ที่ต้องใช้การตัดสินใจทุกอย่างเร็วขึ้น และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การบินไทย ผ่านพ้นมาได้ ถึงในปัจจุบันยังสะสมเงินได้มากกว่า 8 หมื่นล้านบาท”

พร้อมสริมต่อ ในส่วนของพนักงานการบินไทยในปัจจุบันมีอยู่ราว 15,000-16,000 คนในปัจจุบัน ซึ่งมีสัดส่วนลดไปราว 50% เทียบก่อนหน้าเข้าแผนฟื้นฟูฯ อยู่ที่ราว 25,000 คนนั้น จะต้องใช้งบประมาณด้านบุคลากรไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาทต่อเดือน แต่ปัจจุบันใช้งบฯอยู่ที่ 700 ล้านบาทต่อเดือน คิดเป็นสัดส่วนพนักงานฝ่ายปฏิบัติการสนับสนุน 10% ส่วนที่เหลือเป็นการว่าจ้างพนักงานให้บริการจากภายนอก (Outsource) ซี่งจะปรับจำนวนพนักงานบริการเพิ่มขึ้นตามปริมาณเที่ยวบินและอื่นๆ โดยในปีนี้คาดมีพนักงานไม่ต่ำกว่า 17,000 คน ตามแผนธุรกิจและการตลาดของการบินไทยที่วางไว้

ปิยสวัสดิ์ กล่าาวทิ้งท้าย ต่อคำถามผู้สื่อข่าวในประเด็นการแทรกแซงเชิงนโยบายจากภาครัฐจะกระทบการบินไทยเหมือนในอดีตที่ผ่านมาหรือไม่นั้น "คงต้องขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ต่อไป คือ กระทรวงการคลัง เจ้าหนี้ที่จะแปลงหนี้เป็นทุน สถาบันการเงิน หุ้นกู้ที่จะแปลงหนี้เป็นทุน ในการเลือกกรรรมการบริหารบริษัทฯ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการองค์กรที่ดีได้ในอีกสิบปีข้างหน้า เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับกิจการ"

“จำเป็นที่จะต้องได้คนที่ดีเข้ามาอย่าเป็นแบบเดิมที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบมากมายตามขั้นตอนต่างๆ การตัดสินใจทำได้ช้า ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการแทรกแซงแต่งตั้งโยกย้ายในระดับต่างๆ แต่ทั้งนี้ การบินไทย อยู่ในธุรกิจที่แข่งขันสูงมาก เพราะฉะนั้นได้หากได้คนไม่ดีเข้ามาบริหาร บริษัทก็จะสู้กับสายการบินอย่างลุฟต์ฮันซ่า หรือ สิงคโปร์แอร์ไลน์ ไม่ได้”

‘Prepare for Takeoff’ ขอบฟ้าใหม่

ด้าน ชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวชี้วัดต่าง ๆ ที่สำคัญ อาทิ

  • ASK หรือ Available Seat Kilometers ตัวชี้วัดปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร
  • Aircraft utilization อัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน
  • Cabin factor อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร ที่ล้วนแล้วแต่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

“สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของการบินไทยในการกลับมาให้บริการอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง” ชาย กล่าว

สำหรับ ความสำเร็จจากการปรับปรุงการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การปรับเส้นทางบินและความถี่ของเที่ยวบินให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด การพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร รวมถึงการยกระดับคุณภาพการบริการในทุก ๆ จุดสัมผัส ส่งผลให้การบินไทยมีจำนวนผู้โดยสาร ปริมาณการขนส่ง และรายได้เพิ่มขึ้น

โดยในปี 2566 มีผู้โดยสารรวมประมาณ 13.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 9 ล้านคนในปี 2565 และมีรายได้รวมสูงถึง 165,491.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 105,212.3 ล้านบาทในปี 2565

“วันนี้ การบินไทยพร้อมก้าวสู่ขอบฟ้าใหม่แห่งความภูมิใจ Fly for The New Pride เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่จะนำพาการบินไทยให้ทะยานโลดแล่นบนท้องฟ้าได้ไกลกว่าเดิม พร้อมเชื่อมโยงความเป็นไทยสู่สากล ในการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่น่าประทับใจให้กับผู้โดยสาร และเรียกความไว้วางใจจากคนไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติให้กลับคืนมาอีกครั้ง ในฐานะสายการบินเจ้าบ้านที่จะต้องมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 40% ในอนาคต จากในปี2566 มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 27%”

พร้อมดำเนินการด้วย 5 กลยุทธ์สู่เส้นทางการเติบโตครั้งใหม่ของการบินไทย ประกอบด้วย

  • การเสริมสร้างเครือข่ายเส้นทางบินที่ครอบคลุม: เชื่อมต่อเที่ยวบินที่ราบรื่น และตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารทั่วโลก
  • การพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้โดยสาร: เน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเดินทาง และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน: เพื่อสร้างความยั่งยืนและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
  • การเสริมสร้างขีดความสามารถในการเพิ่มช่องทางรายได้ใหม่: เพื่อกระจายแหล่งที่มาของรายได้ และลดการพึ่งพารายได้จากธุรกิจการบินเพียงอย่างเดียว
  • การมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม: เพื่อสร้างคุณค่าอันยั่งยืนให้กับธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

รื้อจัดซื้อใหม่/เลิกสวัสดิการตั๋วฟรี VIP

ชาย กล่าวต่อถึงแผนปรับปรุงฝูงบินให้สอดคล้องกับกลยุทธ์เครือข่ายเส้นทางบิน โดยในสิ้นปี 2567 จะมีเครื่องบินทั้งหมด 79 ลำแบ่งเป็น ลำตัวกว้าง 59 ลำ และลำตัวแคบ 20 ลำ โดยในปี 2572 วางแผนเพิ่มฝูงบินเป็น 143 ลำ แบ่งเป็นลำตัวกว้าง 91 ลำ และ ลำตัวแคบ 52 ลำ พร้อมวางเป้าหมายลดเครื่องบินใมห้เหลือ 4 แบบ ในรุ่น B777-300ER, รุ่น A350, รุ่น B787, รุ่น A320 และในปี 2576 จะมีฝูงบินเพิ่มเป็น 160 ลำ แบ่งเป็นลำตัวกว้าง 98 ลำ และลำตัวแคบ 52 ลำ

“แผนจัดหาเครื่องบินระยะยาว จะดำเนินการอย่างสุจริตโปร่งใส มีธรรมาภิบาล โดยบริษัทจะออกเอกสารเชิญยื่นข้อเสนอราคา (RFP) รวมถึงรวมถึงเจรจาต่อราคาโดยตรงกับผู้ผลิตเครื่องบินทั้งหมด” ชาย กล่าวพร้อมเสริมอีกว่า

“ในช่วงที่ผ่านมามีเสียงสะท้อนถึงพนักงานการบินไทยอยู่บ่อยครั้งว่ากินหรูอยู่สบาย แต่จากการปรับเป็นบริษัทเอกชนแล้ว ยังได้ปรับสิทธิประโยชน์พนักงานด้านบัตรโดยสารใหม่ด้วย”

โดยการบินไทยได้ 'ยกเลิก' การออกบัตรโดยสาร 4 ประเภทเดิม ดังนี้

  • บัตรโดยสารสำรองที่นั่งไม่ได้ (R2 100%) ของอดีตพนักงานคู่สมรส และบุตรอายุต่ำกว่า 25ปี ที่ยังไม่ได้สมรส
  • บัตรโดยสารสำรองที่นั่งได้ (R1 100%) ให้กับ อดีตผู้บริหารระดับ EVP ,SVP คู่สมรสและบุตรอายุมาเกิน35ปี ไม่จำกัดสถานภาพสมรส อดีตผู้บริหารระดับ VP, MD คู่สมรส และ บุตรอายุมาเกิน35ปี ไม่จำกัดสถานภาพสมรส
  • พนักงานระดับ9 ขึ้นไป และ นักบินอาวุโส
  • พนักงานระดับ 10 ขึ้นไปและกัปตัน

สำหรับ การออกบัตรโดยสาร ZED (Zonal Employee Discount) บัตรโดยสารลดราคาแบบสำรองที่นั่งได้สำรองที่นั่งไม่ได้ในเส้นทางบินบริษัทฯ ทั้งในและต่างประเทศ ของพนักงานและอดีตพนักงาน คู่สมรส บุตร แบละ บิดามารดา ได้ไม่เกิน 6 ฉบับ/คน/ปี

ครึ่งแรกปี67 ขนผู้โดยสารกว่า 7 ล้านคน

ด้าน เฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เสริมว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา นับเป็นปีแห่งความสำเร็จ โดยสร้างผลกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 28,123.3 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการกิจการ และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ นอกจากนี้ ในครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมีผลกำไรต่อเนื่อง

“แม้ไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 เป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจสายการบิน บริษัทฯ และบริษัทย่อยยังคงมีรายได้สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2567 เพิ่มขึ้น 12,630.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน” เฉิดโฉม กล่าว

โดยหลักมาจากการกลับมาให้บริการเที่ยวบินประจำรวมถึงเปิดเส้นทางการบินใหม่เพิ่มขึ้นภายหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) คลี่คลายและการยกเลิกมาตรการการจำกัดการเดินทางของหลาย ๆ ประเทศ ทำให้มีผู้โดยสารรวมในช่วงครึ่งปีแรก ของปี 2567 จำนวน 7.68 ล้านคน และมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 78.1%

แผนทยอยจ่ายหนี้

ขณะที่ แผนฟื้นฟูกิจการที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบการขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 กำหนดให้ในการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฯ บริษัทฯ ต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อรองรับการแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฯ เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Mandatory Conversion) จำนวนไม่เกิน 14,862,369,633 หุ้น ในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น

โดยเจ้าหนี้กลุ่มที่ 4 หรือกระทรวงการคลัง จะได้รับการชำระหนี้เงินต้นคงค้างเต็มจำนวนในสัดส่วนร้อยละ 100 ในขณะที่เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18 – 31 ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับการชำระหนี้เงินต้นคงค้างในอัตราร้อยละ 24.50 ของมูลหนี้เงินต้นคงค้างทั้งหมด

นอกจากนี้ เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ยังสามารถใช้สิทธิแปลงหนี้เงินต้นคงค้างเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้เพิ่มเติมโดยความสมัครใจ (Voluntary Conversion) จำนวนไม่เกิน 4,911,236,813 หุ้น ได้ในสัดส่วนที่ต้องการแต่จะต้องไม่เกินภาระหนี้ตามแผนฯ ของตน

อีกทั้ง เจ้าหนี้กลุ่มที่ 4 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ตามแผนฯ ยังได้รับสิทธิแปลงดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยความสมัครใจ จำนวนไม่เกิน 1,903,608,176 หุ้น โดยกำหนดให้ใช้สิทธิในการแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักเป็นหุ้นสามัญเต็มจำนวนของมูลหนี้เท่านั้น ไม่สามารถเลือกใช้สิทธิบางส่วนได้ ในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น

และเพื่อความสำเร็จของการปรับโครงสร้างทุนภายใต้แผนฯ รวมทั้งเป็นการรักษาเสถียรภาพด้านราคาหุ้นของการบินไทยภายหลังกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้บริหารแผนได้กำหนดมาตรการ Lock-up ห้ามเจ้าหนี้ที่ได้รับหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากการแปลงหนี้เป็นทุนขายหุ้นดังกล่าวจนกว่าจะครบระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่หุ้นของการบินไทยกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยหลังจากวันที่ครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันที่หุ้นของการบินไทยกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงจะให้เจ้าหนี้ที่ได้รับหุ้นจากการแปลงหนี้เป็นทุนแต่ละรายสามารถขายหุ้นในส่วนดังกล่าวของตนได้จำนวนไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นที่ตนถูกห้ามขาย

และสำหรับกระบวนการถัดไปในเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ประกอบด้วย การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 9,822,473,626 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 59.01 ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด รวมทั้งหุ้นที่เหลือจากกระบวนการ Voluntary Conversion (หากมี) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของการบินไทยก่อนการปรับโครงสร้างทุน (โดยไม่จัดสรรและเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้การบินไทยมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ) พนักงานของการบินไทย และบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามลำดับ

โดยจะเสนอขายในราคาที่ผู้บริหารแผนเห็นสมควรแต่จะต้องไม่ต่ำกว่า 2.5452 บาทต่อหุ้น โดยได้มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 และคาดว่าจะมีการออกรายงานประเมินมูลค่ายุติธรรมโดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2567 ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการใช้สิทธิของเจ้าหนี้ในการแปลงหนี้เป็นทุนในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ต่อไป

อนึ่ง การบินไทย เป็นสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service Airline) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2503 และมีฐานปฏิบัติการหลักที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ

  • การบินไทยเป็นสายการบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับ 5 ในทวีปเอเชีย และอันดับ 43 ของโลก โดยพิจารณาจากปริมาณการขนส่งผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างประเทศ (คิดเป็นล้านคน-กิโลเมตร) ของปี 2566

ปัจจุบัน มีเครือข่ายเส้นทางบินที่ให้บริการครอบคลุมกว่า 62 จุดบิน ใน 27 ประเทศทั่วโลก โดยแบ่งเป็น 54 จุดบินในต่างประเทศ และ 8 จุดบินภายในประเทศ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...