ปิดตำนาน 'หลินฮุ่ย-ช่วงช่วง' 20 ปีการทูตแพนด้า
กลายเป็นข่าวเศร้ากับการสูญเสีย หลินฮุ่ย แพนด้ายักษ์เพศเมีย อายุ 21 ปี 6 เดือน ที่อยู่ในส่วนจัดแสดงแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ภายใต้โครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย เมื่อเวลา 01.10 น. วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา สาเหตุการตายยังต้องรอการชันสูตรจากเจ้าหน้าที่จากประเทศจีนที่จะเดินทางมาชันสูตรที่เมืองไทยในเร็วๆ นี้
“หลินฮุ่ย” เป็นที่รู้จักของคนไทยมาตั้งแต่ช่วงปี 2546 คู่กับ “ช่วงช่วง” แพนด้ายักษ์คู่แรกที่สาธารณรัฐประชาชนจีนส่งมายังประเทศไทย ในฐานะทูตสันถวไมตรีเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ถือเป็นแพนด้าคู่สุดท้ายที่ประเทศจีนอนุมัติให้ออกนอกประเทศ โดยก่อนหน้านี้มีแพนด้าอยู่ในประเทศต่างๆ เพียง 5 ประเทศเท่านั้น
การส่งแพนด้าช่วงช่วง-หลินฮุ่ย มายังประเทศไทยเกิดขึ้นหลัง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นได้เดินทางไปราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2544 และเริ่มเจรจาขอแพนด้าจากประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสัมพันธไมตรีระหว่าง 2 ประเทศ จนในที่สุดรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนยินดีมอบแพนด้า 1 คู่ให้ประเทศไทยในลักษณะให้ยืมระยะเวลา 10 ปี
วันที่ 12 ตุลาคม 2546 ที่ จ.เชียงใหม่ ได้จัดพิธีต้อนรับแพนด้าช่วงช่วง-หลินฮุ่ย อย่างยิ่งใหญ่ตามประเพณีล้านนาที่เรียกว่า ฮ้องขวัญ ถนนทุกสายขึ้นป้ายต้อนรับอย่างสมเกียรติ ตามมาด้วยการประกวดตั้งชื่อทั้งไทยและพื้นเมืองให้ช่วงช่วงว่า เทวัญและคำอ้าย ส่วนหลินฮุ่ยได้ชื่อว่า เทวีและคำเอื้อย
ตามประวัติ ช่วงช่วง เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2543 เกิดจากแพนด้าตัวผู้ชื่อชิงชิง และแพนด้าตัวเมียชื่อไป่แฉว ส่วน หลินฮุ่ย เกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2544 เกิดจากแพนด้าตัวผู้ชื่อพ่านพ่าน และแพนด้าตัวเมียชื่อถางถาง ทั้งคู่เติบโตอยู่ที่ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ เขตอนุรักษ์วู่หลง เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน
การมาของแพนด้าคู่นี้ส่งผลดีอย่างมากต่อกระแสการท่องเที่ยว สวนสัตว์เชียงใหม่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศที่เดินทางมาชมหลินฮุ่ย-ช่วงช่วงจนกลายเป็นกระแสแพนด้าฟีเวอร์ในขณะนั้น และยิ่งมีกระแสมากขึ้นเมื่อช่วงช่วง-หลินฮุ่ย ได้ให้กำเนิดลูกแพนด้ายักษ์ ชื่อว่าหลินปิง ในปี 2552 จากการผสมเทียมและนับว่าเป็นแพนด้าตัวแรกของโลกที่เกิดในประเทศเขตศูนย์สูตร ในเดือนนอกฤดูผสมพันธุ์ของแพนด้า
วัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการสูญเสียหลินฮุ่ยว่า เป็นแฟนคลับคนหนึ่งของหลินฮุ่ย-ช่วงช่วง เพราะทำหน้าที่ผู้ปกครองพาลูกไปเข้าแถวดูแพนด้าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ไปบ่อยมากและรู้สึกรักเสียเอง ในแง่ของการท่องเที่ยวครอบครัวแพนด้าคือตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวและเยาวชนได้ดีที่สุด ทำให้สวนสัตว์เชียงใหม่เป็นจุดเช็กอินของเมืองในฐานะแหล่งเรียนรู้ชีวิตสัตว์ที่ให้ความสุขทุกคน ไม่มีสัตว์ชนิดใดมาแทนที่แพนด้าได้
“ผมอยากให้นำแพนด้ากลับมาเป็นขวัญใจของคนไทยอีกครั้งถ้าทำได้ เพราะการที่เด็กไทยได้มีโอกาสเห็นแพนด้าตัวเป็นๆ จะไม่มีอีกแล้ว แพนด้าเป็นสัตว์น่ารัก ดูกี่ทีก็สดใสและสนุกสนาน ด้วยคาแร็กเตอร์เฉพาะตัว เคยไปดูที่เฉิงตูบ้านเกิดแพนด้าที่จีน มีแพนด้าเยอะมาก แต่ไม่ว้าวเท่าที่บ้านเรา เพราะเรามีพระเอกนางเอกแค่ 2 ตัว ไม่ต้องแย่งซีนกันเอง ตลอดมาสวนสัตว์เชียงใหม่เลี้ยงแพนด้าได้ดี สถานที่สวยงามสะอาด ในความเห็นผมยังอยากได้อยู่ และมีดีกว่าไม่มี หากทำได้เราน่าจะขอลูกแฝดตัวใดตัวหนึ่งของหลินปิงมาเป็นตัวแทน ให้กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปเลย” วัลลภระบุ
ด้าน ประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทยคนแรก กล่าวไว้อาลัยหลินฮุ่ยว่า แม่แพนด้าในดวงใจของคนไทยทั้งประเทศมาอยู่เชียงใหม่ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ จนถึงตอนนี้อายุเกือบจะ 22 ปีแล้ว เปรียบไปก็เหมือนสมัยอากงอาม่า หอบเสื่อผืนหมอนใบจากเมืองจีนมาอยู่ประเทศไทย แต่แพนด้าช่วงช่วงกับหลินฮุ่ยพิเศษกว่านั้น มีพิธีต้อนรับอย่างอบอุ่นและยิ่งใหญ่ เป็นข่าวดังไปทั่วโลก วันนี้หลินฮุ่ยได้จากไป ในฐานะที่รู้จักดูแลกันมาตั้งแต่หลินฮุ่ยอายุ 2 ขวบ ก็ย่อมเสียใจและเสียดายเป็นธรรมดา
“ขอบคุณหลินฮุ่ยที่ให้ความสุขแก่คนไทยมาตลอด 20 ปี แพนด้าก็ยังคงเป็นสัตว์มหัศจรรย์ในสายตาของผมเสมอ ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่ๆ น้องๆ ชาวสวนสัตว์เชียงใหม่ที่ได้ดูแลหลินฮุ่ยมาอย่างเต็มที่แล้ว ความยากของการทำงานสวนสัตว์ก็อยู่ตรงนี้แหละ” ประเสริฐกล่าว
สาเหตุการตายของหลินฮุ่ยยังต้องรอเจ้าหน้าที่จากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางมาชันสูตรที่ประเทศไทย วุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า ทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว และเสียใจอย่างยิ่งที่สัตว์ที่เรารักเสียชีวิตไป แม้จะเป็นไปตามอายุขัยของสัตว์ชนิดนี้ แต่แพนด้าถือเป็นสัญลักษณ์คู่กันของเมืองเชียงใหม่และสวนสัตว์เชียงใหม่ เขาจากไปในปีสุดท้ายของโครงการวิจัยฯ เพราะจะครบ 20 ปีตามสัญญาในวันที่ 12 ตุลาคม 2566 จากนี้คงจะมีการประเมินโครงการอีกครั้งว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่อย่างไร แต่ที่ผ่านมาทางการจีนชื่นชมสวนสัตว์เชียงใหม่มาตลอดว่าเราดูแลแพนด้าได้ดีที่สุด ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคตที่สองประเทศจะหารือกัน ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดให้เข้าชมเฉพาะส่วนจัดแสดงแพนด้า มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 7 ล้านคน สร้างรายได้จนถึงปัจจุบันกว่า 300 ล้านบาท
ขณะที่ กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ช่วงช่วง-หลินฮุ่ย ถือเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันเป็นมิตรและยาวนานระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลจีนได้ส่งมาให้ไทยในรูปแบบยืมจัดแสดงที่สวนสัตว์เชียงใหม่ในฐานะทูตสันถวไมตรีไทย-จีน เป็นเวลา 20 ปี ตั้งแต่ปี 2546 ถือได้ว่าหลินฮุ่ยได้ทำหน้าที่ทูตสันถวไมตรีอยู่บนผืนแผ่นดินไทยมาเกือบ 20 ปี พร้อมได้ให้กำเนิดลูกแพนด้าหลินปิง ซึ่งได้ส่งกลับไปยังศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้า เมืองเฉิงตู ตามข้อตกลงกับจีนไปแล้ว กล่าวได้ว่า หลินฮุ่ยได้ช่วยสร้างภาพลักษณ์อันดีสำหรับประเทศจีนในสายตาคนไทย และสะท้อนให้เห็นถึงความไว้เนื้อเชื่อใจที่ทั้ง 2 ประเทศมีต่อกัน รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและระดับประชาชนระหว่างกันได้เป็นอย่างดี
“ไทยและจีนมีความสัมพันธ์อันดีกันมาอย่างยาวนาน มีความผูกพันทางสังคมและวัฒนธรรมระหว่างกัน ยิ่งไปกว่านั้นไทย-จีน ยังมีความสัมพันธ์ในภาพรวมที่มีพลวัตสูง และมีการแลกเปลี่ยนความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับ โดยจีนเป็นทั้งประเทศ คู่ค้าอันดับ 1 ของไทยติดต่อกันมาเป็นปีที่ 10 อีกทั้งยังป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับ 1 ของไทย ซึ่งการให้ยืมแพนด้าเพื่อการจัดแสดงในฐานะทูตสันถวไมตรีนี้ก็สะท้อนความร่วมมืออีกรูปแบบหนึ่งของไทย-จีนได้อย่างน่าสนใจ” โฆษก กต.ระบุ
การตายของ “หลินฮุ่ย” เป็นการปิดตำนานขวัญใจแพนด้ายักษ์ในเมืองไทย หลังก่อนหน้านี้ “ช่วงช่วง” แพนด้ายักษ์คู่ขวัญที่อยู่ในสวนสัตว์เชียงใหม่ได้จากไปเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 เนื่องมาจากภาวะหัวใจล้มเหลว ส่งผลให้อวัยวะภายในทั่วร่างกายขาดออกซิเจน
จากนี้ หากไม่มีการส่งแพนด้ายักษ์มาอีก ถือเป็นการปิดตำนานการทูตสันถวไมตรีผ่านแพนด้าของไทยกับจีน