​‘อินโดนีเซีย’ พบประชากร 86.6% มี ‘แอนติบอดีโควิด-19’

จาการ์ตา, 19 มี.ค. สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า — รัฐบาลอินโดนีเซียเปิดเผยผลสำรวจทางวิทยาเซรุ่ม ซึ่งจัดทำระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2021 และพบประชากรอินโดนีเซียอายุ 1 ปีขึ้นไปส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 86.6 มีแอนติบอดีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากการฉีดวัคซีนหรือหลังจากติดเชื้อไวรัสฯ

เมื่อวันศุกร์ (18 มี.ค.) อิวัน อาเรียวัน หนึ่งในคณะนักวิจัยของการสำรวจข้างต้น แถลงข่าวว่าตัวเลขดังกล่าวนับรวมร้อยละ 89.6 ของผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรก และร้อยละ 98.7 ของผู้ฉีดวัคซีนครบโดส

นอกจากนั้นการสำรวจยังพบว่าร้อยละ 73.9 ของผู้ที่อ้างว่าไม่เคยติดเชื้อไวรัสฯ และยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีแอนติบอดีโรคโควิด-19 อยู่ด้วย ซึ่งบ่งชี้ว่าเชื้อไวรัสฯ ได้ระบาดสู่ประชาชนจำนวนมากโดยไม่มีการตรวจพบ

การสำรวจดังกล่าวถือเป็นการสำรวจระดับประเทศครั้งแรกของอินโดนีเซีย ซึ่งมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามจากทุกจังหวัดของประเทศ จำนวน 20,622 คน โดยอินโดนีเซียจะดำเนินการสำรวจดังกล่าวทุก 6 เดือน

บูดี กูนาดี ซาดิกิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย ชี้ว่าการสวมหน้ากากอนามัยยังคงเป็นข้อบังคับ เพราะแอนติบอดีช่วยลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต แต่ไม่ได้ป้องกันการแพร่เชื้อของโรคโควิด-19

(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่บนรถไฟในเมืองโบโกร์ จังหวัดชวาตะวันตกของอินโดนีเซีย วันที่ 14 มี.ค. 2022)