เปิดใจ 2 คนไทย หนีตายแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนจีนฝั่งกัมพูชา
(11มิ.ย.68) เวลา 16.00 น. พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริฤกษ์ชัย เป้ามณี รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เข้าสอบสวน นายเอ(นามสมมติ) เป็นชาวสมุทรสาคร อายุ 39 ปี และนายบี (นามสมมติ) ชาวนครราชสีมา อายุ 43 ปี โดยได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ตม.ว่า ได้วิ่งหนีจากพวกคนจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ออกมาจากบ้านหลังใหญ่ 3 ชั้น ประตูสีเหลือง ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณด่านชายพรมแดน
นายบี ให้ข้อมูลว่า ได้เดินทางข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติไปร่วมทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คอยสแกนใบหน้า มานานกว่า 2 เดือน แต่กลับไม่ได้เงินเดือน กระทั่งเมื่อวานนี้ได้ทะเลาะกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน และมีการใช้กำลังจนโดนซ้อม ก่อนตัดสินใจคว้ากรรไกรตัดเล็บแทงสวนออกไป 2 ครั้ง แล้วก็วิ่งหนีกลับออกมาจนถึงด่านพรมแดนจนโดนเจ้าหน้าที่ ตม.ปอยเปต จับตัวส่งให้ เจ้าหน้าที่ ตม.ไทย
ส่วน นายเอ บอกว่า เมื่อคืนเวลา 22.00 น. เดินทางมาถึงที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อตลาดโรงเกลือ ซึ่งก่อนที่จะเดินทางมาได้นำบัญชีธนาคารส่วนตัวทั้งหมด 3 บัญชีติดมาด้วยเพื่อนำไปไว้ใช้ในการสแกนใบหน้า รับเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเมื่อคืนที่เดินทางมาถึงก็รอสักพักก็มีชายขับรถจักรยานยนต์มารับแล้วพาไปยังพื้นที่ชายแดน เลี้ยวเข้าไปในป่า จากนั้นได้ขึ้นเรือโฟมข้ามคลองข้ามจากฝั่งประเทศไทยไปยังในฝั่งประเทศกัมพูชา
นายเอ เล่าต่อไปว่า จากนั้นก็จะมีรถจักรยานยนต์ 3 ล้อมารับขับไปประมาณ 10 - 15 นาทีก็ถึงจุดหมายในเมืองปอยเปต พบว่า เป็นบ้านหลังใหญ่ สูง 3 ชั้น ประตูบ้านสีเหลือง ซึ่งในบ้านหลังนั้นมีคนไทยอีกจำนวน 100 กว่าคน มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย คนแก่และเด็ก ถูกขังรวมกันอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่ตนไม่ยอมเข้าไปในบ้าน ซึ่งก็มีคนคุมในบ้านออกมาตาม
นายเอ บอกด้วยว่า จังหวะนั้นก็มีคนที่โดนพามาส่งทำให้มีการเปิดประตูรั้วใหญ่จึงได้ตัดสินใจวิ่งหนีกลับออกมาในเวลา ประมาณ 01.00 น. จนมาถึงที่บริเวณก่อนถึงด่านพรมแดนก็โดนจับตัวมาส่งให้เจ้าหน้าที่ไทยอีกเช่นกัน
ทั้งนี้ยังมีผู้หญิงอีก 2 คนซึ่งโดนจับตัวมาส่งนั้นในทางตรวจสอบพบว่ามีข้อมูลสำคัญซึ่งทาง ตำรวจ ตม.สระแก้ว ได้ทำการส่งตัวต่อให้ สภ.คลองลึก เพื่อทำการเปรียบเทียบปรับตามกระบวนการเข้าประเทศและจะได้สอบสวนขยายผลอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวเวิร์คพอยท์23