‘ทนาย’ ยัน ‘ทักษิณ’ ต้องมาศาลสู้คดี ม.112 เจ้าตัวประสงค์ เข้าฟังการพิจารณาด้วยตนเอง
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกคดีดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณจำเลย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีต่างประเทศประเทศเกาหลีใต้ พาดพิงดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว โดยในวันนี้ นายทักษิณ เดินทางเข้ามาฟังการพิจารณาสืบพยานด้วยตนเอง
ต่อมา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของ นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้เป็นการนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ของอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 ที่เป็นโจทก์ฟ้อง นายทักษิณ ในข้อหาความผิดมาตรา 112 โดยทางโจทก์จะนำพยานประมาณ 3 ปากที่เบิกไว้ จากทั้งหมด 10 ปาก โดยใช้เวลาสืบพยาน 3 วัน และตนในฐานะทนายฝ่ายจำเลย ก็จะมีหน้าที่ถามค้าน
เมื่อถามว่า นายทักษิณ จำเป็นต้องมาฟังการสืบพยานทุกนัดหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นหน้าที่ของ นายทักษิณ ที่จำเป็นมา เนื่องจากคดีนี้จำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวอยู่แล้ว ต้องเข้ามาปรากฏตัวต่อศาล ก็ต้องดูอีกว่าทางศาลอาญาจะมีข้อกำหนดในการพิจารณาคดีหรือไม่
เมื่อถามว่า ฝ่ายจำเลย จะมีการยื่นคำร้องขอพิจารณาลับหลังหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายพิจารณาความอาญานั้น อัตราโทษจะต้องไม่เกิน 10 ปี แต่คดีนี้อัตราโทษสูงกว่า 10 ปี อาจจะไม่เข้าข้อยกเว้น แต่หากมีเหตุจำเป็น ถ้าจำเลยมีทนายความอยู่แล้ว ก็อาจจะขอพิจารณาลับหลังได้
แต่ในเบื้องต้น นายทักษิณ ประสงค์ที่จะเข้าฟังการพิจารณาด้วยตนเอง และกระบวนการทั้งหมดของคดีนี้มีทั้งหมด 7 นัด เป็นพยานฝ่ายจำเลย 14 ปาก สืบพยานจำเลยวันแรก 15 ก.ค. 4 นัด และพยานโจทก์ 10 ปาก 3 นัด วันที่ 1-3 ก.ค. การสืบพยานจะครบทั้งหมด 7 นัด หรือเสร็จสิ้นกระบวนการก่อน 7 นัดก็ได้ อยู่ที่กระบวนการ โดยจะนัดสืบพยานครั้งสุดท้ายในวันที่ 23 ก.ค.
เมื่อถามว่า ฝ่ายจำเลยยังติดใจส่วนของคลิปวิดีโอที่ นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ในส่วนนี้ฝ่ายจำเลยติดใจแน่นอน และในวันนี้ก็จะมีการพิสูจน์ในประเด็นนี้ด้วย และจะทำให้เห็นว่าคลิปดังกล่าว มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ มีการเก็บหลักฐานมาอย่างไร.