โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

มูก่อนรวยก่อน! เปิดพิกัดเฮง ต้อนรับปีมะเมีย 2569

สยามรัฐ

อัพเดต 19 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ต้อนรับศักราชใหม่ ปีมะเมีย 2569 ปีแห่งพลัง ความเร็ว และโอกาสใหม่ หลายคนเลือก “ตั้งหลักชีวิต” ด้วยการตั้งเป้าหมาย วางแผนอนาคต หรือเสริมพลังใจด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศรัทธา

หนึ่งในความเชื่อที่สืบทอดกันมาในสังคมไทย–จีน เมื่อถึงปีนักษัตรมะเมีย หรือ ปีม้า คือการไหว้ขอพร “เจ้าพ่อกวนอู” และ “เจ้าพ่อม้า” ม้าคู่บุญผู้เกื้อหนุนเรื่องการงาน การเดินทาง และความก้าวหน้า ขณะเดียวกัน สายศรัทธายังนิยมเสริมดวงด้วยการสักการะ “พระธาตุประจำปีมะเมีย” ตามคติล้านนา เพื่อเริ่มต้นปีอย่างมั่นคงและมีพลัง

มูก่อน รวยก่อน ปีนี้เราจะพาไปเปิดพิกัดมูสำคัญ ต้อนรับปีมะเมีย 2569 ให้ดวงปังตั้งแต่ก้าวแรกของปี !!

ขอพร “เจ้าพ่อกวนอู–เจ้าพ่อม้า” เสริมบารมีและความก้าวหน้า

ตามความเชื่อของชาวจีน “เทพเจ้ากวนอู” ได้รับการนับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม ความซื่อสัตย์ ความกล้าหาญ และความยุติธรรม เป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่ได้รับความเคารพศรัทธาอย่างสูง ทั้งในประเทศจีนและประเทศไทย ผู้คนนิยมขอพรในเรื่องหน้าที่การงาน การเลื่อนตำแหน่ง การเอาชนะอุปสรรค รวมถึงการเป็นผู้นำที่มีบริวารซื่อสัตย์และเกื้อหนุน

ลักษณะเด่นของเทพเจ้ากวนอู คือใบหน้าสีแดง หนวดเครายาว ดวงตาคมเข้มดั่งตานกฮูก สวมชุดทหารปักลายมังกร ที่บั้นเอวคล้องกระบี่ ถือ “ง้าวรูปเสี้ยวจันทร์ลายมังกร” เป็นอาวุธ ข้างกายมีขุนพลคู่ใจและบุตรบุญธรรมยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ พร้อมปกป้องและออกรบ

ในประเทศไทยมีศาลเจ้ากวนอูหลายแห่ง แต่หนึ่งในศาลที่เก่าแก่และเป็นที่รู้จักมากที่สุด คือ "ศาลเจ้ากวนอู ตลาดเก่าเยาวราช" ซึ่งมีอายุกว่าศตวรรษและยังคงความเข้มขลังจวบจนปัจจุบัน

ภายในศาลประดิษฐานรูปเคารพ “เทพเจ้ากวนอู” หรือ “เจ้าพ่อกวนอู” ในชุดขุนพลเต็มยศ ประทับบนบัลลังก์ ด้านหนึ่งคือ “กวนเป๋ง” บุตรบุญธรรม ถือ “ตราประทับ” ประจำตัวของท่าน อีกด้านคือ “จิวฉอง” ทหารคู่ใจ ถืออาวุธประจำกาย นอกจากนี้ยังมีขุนพลผู้ดูแลม้า ซึ่งทำหน้าที่ดูแล “ม้าเซ็กเธาว์” หรือที่เรียกกันว่า “เจ้าพ่อม้า” ม้าคู่บุญของกวนอู

ศาลเจ้ากวนอูแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2435 โดย พระยาอาชาชาติ (เจ้าพระยาคลัง) พ่อค้าชาวจีนผู้มีชื่อจีนว่า อี้ชาน แซ่เฉิน หลังเดินทางไปราชการที่ประเทศจีนและกลับมายังสยาม ท่านได้สร้างศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้น เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจีนที่มาตั้งรกรากในประเทศไทย

แต่เดิมใช้ชื่อว่า “ศาลเจ้าสีเทียนกง” แปลว่า ตำหนักของกวนตี้ หรือกวนอู โครงสร้างศาลทำจากหินที่นำเข้าจากประเทศจีน บริเวณประตูศาลมีสัญลักษณ์ “สวัสดิกะ” หรือกากบาทปลายหัก ซึ่งเรียกว่า “วั่น” หมายถึง ความยั่งยืนและความเจริญรุ่งเรือง เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ป้องกันสิ่งไม่ดีและเสริมสิริมงคลแก่ผู้มาเยือน

ส่วน“ม้าเซ็กเธาว์” ม้าวิเศษคู่ใจของเทพเจ้ากวนอู ถือเป็นเจ้าพ่อม้า สร้างขึ้นโดย พลตำรวจตรี พระยาคทาธรบดีสีหราชบาลเมือง (เทียบ อัศวรักษ์) ซึ่งมีเชื้อสายตระกูล “หม่า” หรือ “เบ๊” ในภาษาจีนกลาง แปลว่า “ม้า”

ข้อมูลจากหนังสือ ไหว้เทพเจ้า 9 ศาลจีนมงคล ระบุว่า ตามความเชื่อ เทพเจ้ากวนอูเป็นเทพธาตุไฟ ผู้ที่เกิดธาตุน้ำ มาไหว้จะส่งเสริมดวงได้ดี ผู้ที่เกิดธาตุทอง หากเป็นข้าราชการจะช่วยเสริมความมั่นคง คนธาตุดินจะเกิดอำนาจบารมี คนธาตุไฟจะเพิ่มความมั่นใจ ส่วนคนธาตุไม้จะมีความรอบคอบมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ที่เกิดปีม้าหรือปีมะเมีย ยังนิยมมาไหว้ “เจ้าพ่อม้า” เพื่อเสริมดวงเป็นพิเศษ

การสักการะเจ้าพ่อกวนอู นิยมถวายซาแซ (เป็ด ไก่ หมู) น้ำชา กระดาษเงินกระดาษทอง ดอกไม้ ธูปเทียน และหากเป็นการขอพรด้านความสำเร็จ มักถวายเหล้าจีนเพิ่มเติม

ส่วน การไหว้เจ้าพ่อม้า นิยมใช้ผัก เช่น ผักบุ้ง ผักกาดหอม หรือผลไม้ เชื่อกันว่าจะช่วยเสริมดวงด้านการเดินทาง หากใครดวงตก เดินทางติดขัดหรือมีอุปสรรค ให้บูชาขุนพลผู้ดูแลม้าและม้าเซ็กเธาว์ จะช่วยให้การเดินทางราบรื่น ปลอดภัย

อีกหนึ่งความเชื่อที่น่าสนใจ คือ หากใครมีบุตรหลานเลี้ยงยาก ให้นำชื่อเด็กไปขอพรกับเจ้าพ่อม้า จากนั้นนำด้ายแดงผูกที่ขาม้า แล้วเขย่ากระพรวนหรือให้เจ้าหน้าที่เขย่าให้ เชื่อกันว่าเด็กจะว่านอนสอนง่ายและอยู่ในโอวาท

ไหว้พระธาตุประจำปีมะเมีย เสริมดวงตลอดปี

อีกหนึ่งความเชื่อที่สืบทอดจากอดีตจนถึงปัจจุบัน คือการไหว้พระธาตุเจดีย์ตามปีนักษัตร ซึ่งเป็นคติของชาวล้านนา เชื่อว่าจะช่วยป้องกันอันตราย เสริมสิริมงคล และนำมาซึ่งอายุยืนยาว โดยหากมีโอกาส ควรเดินทางไปสักการะพระธาตุประจำปีเกิดอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต

สำหรับผู้ที่เกิดปีมะเมีย พระธาตุประจำปีคือ พระเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา แต่หากไม่สะดวกเดินทางไปต่างประเทศ ก็สามารถสักการะ “ชเวดากองเมืองไทย” ได้ที่ พระบรมธาตุบ้านตาก จังหวัดตาก

(ขอบคุณภาพ - วัดพระบรมธาตุบ้านตาก)

ตามตำนานกล่าวถึง พระบรมธาตุบ้านตาก ว่า หลังพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน พระอรหันต์ได้นำพระเกศาธาตุ 4 องค์ มาประดิษฐานไว้ ณ สถานที่แห่งนี้ ต่อมา พระครูพิทักษ์บรมธาตุ (พระทองอยู่ สุริโย) อดีตเจ้าอาวาส ได้เดินทางไปนมัสการพระเจดีย์ชเวดากอง และกลับมาบูรณะพระธาตุองค์เดิม ให้มีรูปแบบเดียวกับชเวดากองแต่ย่อส่วนลง องค์เจดีย์ประธานสูง 23 เมตร มีพระเจดีย์ขนาดเล็กล้อมรอบ 16 องค์

การ “มู” อาจไม่ใช่การฝากชีวิตไว้กับปาฏิหาริย์เพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นการเริ่มต้นให้เชื่อมั่นในพลังภายใน และกล้าที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง เมื่อ “ศรัทธา” คู่กับ “ปัญญา” และลงมือทำอย่างจริงจัง ความเชื่อจะกลายเป็นแรงผลักดันที่มีทิศทาง ให้ปีมะเมีย 2569 เป็นปีแห่งการคว้าโอกาส สร้างความมั่นคง และต่อยอดความสำเร็จด้วยตัวเราเอง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...