โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ค้าปลีกไทยหวั่นภาษีสหรัฐฯ ทำพิษ ดึงสินค้าจีนทะลักเข้ามาอีก แนะรัฐเร่งจัดเก็บภาษีนำเข้าตั้งแต่บาทแรก

THE STANDARD

อัพเดต 22 เม.ย. เวลา 05.48 น. • เผยแพร่ 22 เม.ย. เวลา 05.48 น. • thestandard.co
ค้าปลีกไทยหวั่นภาษีสหรัฐฯ ทำพิษ ดึงสินค้าจีนทะลักเข้ามาอีก แนะรัฐเร่งจัดเก็บภาษีนำเข้าตั้งแต่บาทแรก

สมาคมค้าปลีก หวั่นภาษีสหรัฐฯ สร้างความปั่นป่วนเศรษฐกิจไทย ถ้าภาครัฐเจรจาไม่สำเร็จ กระทบส่งออกแน่ และผลพวงที่ตามมาการบริโภคในประเทศจะหดตัวลงไปด้วย แถมสินค้าจีนอาจทะลักเข้ามามากกว่าเดิม คาดกระทบค้าปลีกไทยโตชะลอตัวอยู่ที่ 3.4%

ณัฐ วงศ์พานิช ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์เศรษฐกิจโลกปั่นป่วนจากการที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายๆ ประเทศรวมถึงไทยด้วย แม้ตอนนี้สหรัฐฯ จะเลื่อนการเก็บภาษีออกไป 90 วัน เพื่อเจรจาเราต้องรอดูว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป

ถ้าหากไทยเจรจาไม่สำเร็จ ภาคส่งออกที่มูลค่ากว่า 9 แสนล้านบาทจะได้รับผลกระทบแน่นอน จากนั้นจะเริ่มเห็นการบริโภคหดตัวลง ผู้คนในประเทศไม่มีความเชื่อมั่นจะซื้อรถหรือซื้อบ้านก็ต้องคิดหนักกว่าเดิม รวมไปถึงการท่องเที่ยวที่ขยายตัวลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่กลับมา ในครึ่งปีหลังจะต้องหานักท่องเที่ยวจาก รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี และตะวันออกกลางมากขึ้น

จากความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคค้าปลีกลดลง โดยอุตสาหกรรมค้าปลีกที่มีมูลค่าประมาณ 4 ล้านล้านบาท คาดว่าจะเติบโตแบบชะลอตัวอยู่ที่ 3.4% ในปี 2568 ถ้าเทียบกับปี 2566 เติบโตอยู่ที่ 5.9%

ส่วนปัจจัยที่ทำให้ปีนี้โตช้าเป็นเพราะมีปัญหาทางเศรษฐกิจเข้ามากดดัน การส่งออกจะลำบากขึ้นจากภาษีสหรัฐฯ จากนั้นรายได้ของชนชั้นกลางก็จะลดลง ส่วนการจับจ่ายก็จะชะลอตัวลงและต้นทุนสินค้าบางกลุ่มก็จะเพิ่มขึ้น รวมถึงการแข่งขันรุนแรงกับแพลตฟอร์มค้าปลีกต่างชาติอย่าง E-Commerce แต่ค้าปลีกยังเป็นภาคหลักๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าเป็นห่วง คือ ภาษีสหรัฐฯ อาจทำให้สินค้าจีนเกิดปัญหาโอเวอร์ซัพพลายและมีโอกาสเข้ามาในไทยมากขึ้น จากเดิมแล้วสินค้าจีนนั้นทะลักเข้ามาอยู่แล้ว

โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าแอ็กเซสซอรีและเครื่องหนัง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นสินค้าต้นทุนต่ำ ไม่มีคุณภาพ ราคาถูกที่เข้ามาผ่านทางอีคอมเมิร์ซและผู้ประกอบการรายย่อยข้ามแดน แน่นอนว่ากระทบต่อผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ที่มีอยู่กว่า 3.3 ล้านราย หากสู้ไม่ไหวอาจต้องถึงขั้นปิดกิจการ

ขณะเดียวกันภาครัฐต้องเร่งแก้ปัญหาสินค้าจากต่างประเทศที่ล้นทะลักมาไทย เริ่มจากการนำระบบเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำ เข้าช่วยตรวจสอบสินค้านำเข้า 100% แทนการสุ่มตรวจ และจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 7% กับสินค้าออนไลน์นำเข้าที่มีมูลค่าตั้งแต่บาทแรก

และควรเร่งปราบธุรกิจนอมินี ที่สวมสิทธิคนไทยเข้ามาทำร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และโรงแรมศูนย์เหรียญ เพื่อป้องกันการไหลออกของเม็ดเงิน และป้องกันการสวมสิทธิการใช้ไทยเป็นฐานผลิตสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ

อีกทั้งสมาคมค้าปลีกยังได้เสนอนำร่องมาตรการ Instant Tax Refund คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ให้กับนักท่องเที่ยวที่มียอดซื้อสินค้า ขั้นต่ำ 3,000 บาทขึ้นไป ต่อ 1 วันในร้านค้าเดียวกัน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับประเทศจีนที่ได้ประกาศใช้นโยบาย Instant Tax Refund 500 หยวน หรือประมาณ 2,500 บาท นำร่องที่เมืองท่องเที่ยวอย่างเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว

ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการค้าปลีกไทยต้องทำคือ ไม่เพียงแค่ต้อง อยู่รอด แต่ต้องยืนหยัด และตั้งรับ รุกกลับและปรับตัว เริ่มจากการสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อระหว่างช่องทาง Offline และ Online

ควบคู่กับนำเสนอสินค้า จัดโปรโมชั่นให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารายอย่างเฉพาะบุคคล ด้วยการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อบริหารจัดการสต็อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มยอดขาย ลดปริมาณสินค้าคงคลังที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า

สุดท้ายแล้วสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ได้เป็นหนึ่งในกระบอกเสียงสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดมาตรการปราบปรามผลกระทบสินค้านำเข้าราคาถูกและการสวมสิทธิ์นอมินีอย่างจริงจัง โดยได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง

พร้อมให้การสนับสนุนเอสเอ็มอี โดยเฉพาะวิสาหกิจรายย่อย (Micro SME) ผ่านการร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อจัดสรรพื้นที่จำหน่ายภายในห้างร้านและศูนย์การค้าของสมาชิก และนำเสนอมาตรการ Easy E-Receipt ให้กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อช่วยปลุกมู้ดการจับจ่ายให้คึกคักอีกครั้ง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE STANDARD

กัมพูชาไม่รับแผนที่ไทยที่จัดทำฝ่ายเดียว ชี้เป็นต้นตอปัญหาเรื้อรังชายแดน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อดีตที่ปรึกษาประธาน Fed เตือน! ความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่าน คือ ‘ตัวแปรสำคัญ’ เสี่ยงลากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

7 THINGS WE LOVE ABOUT CELEBRITY FASHION BRANDS แบรนด์แฟชั่นของเหล่าเซเลบริตี้ที่กำลังได้รับความนิยม

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อนุทิน ยกคณะเยือนอุดรธานี อวยอดิศักดิ์ ไทยสร้างไทย สส.คุณภาพ รอบหน้าขอชาวอุดร เลือกเป็นสส.ภูมิใจไทย

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ล4ชุด! เลขเด็ด “รัชนก มีโชค” ลุ้นงวด 16 มิ.ย.68

TOJO NEWS

ตร.ตามรวบ น้องผัวป่วยจิต คว้าจอบฟาดหัวพี่สะใภ้ดับ ก่อนลากศพทิ้งในป่ากล้วย

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์
วิดีโอ

ปักกิ่งรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่าน ตม. แล้วกว่า 2.3 ล้านคนในปีนี้ เพิ่มขึ้น 39.3% จากนโยบายอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าฟรี

BRIGHTTV.CO.TH

รวบแล้ว ‘ไอ้ต๊ะ’ หื่นข่มขืน ด.ญ. 10 ขวบ ขอโทษ! อ้างเสพยาแล้วมีอารมณ์

เดลินิวส์

สหราชอาณาจักรแนะนำพลเมืองหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังอิสราเอล

JS100

เสก โลโซ เตรียมเขย่าอิมแพค ขึ้นคอนเสิร์ตนอกเรือนจำครั้งแรก พร้อมวงมีนบุรี ชวนมากันเยอะๆ

Khaosod

ศึกข้อมูลชายแดนเดือด! กต.ไทยสวนกลับกัมพูชา ย้ำ JBC ไม่เคยคุยเรื่องแผนที่

The Better
วิดีโอ

ไอดอลผู้ทุบสถิติ “แพนเค้ก BNK48” เติบโตจากความผิดพลาด

Thai PBS

ข่าวและบทความยอดนิยม

ความคิดเห็นมากที่สุด

สาวถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง เข้าออก รพ.หลายวัน ชีวิตพัง งานพัง

Khaosod

น้ำตาไหลเลย 2หนุ่มสาวต่างด้าวลาออกกะทันหัน แบบไม่ค่อยเต็มใจ ก้มลงกราบเท้าเจ้านาย

Khaosod

ผู้ประกาศชื่อดังเดือด! อนาถใจ ‘กัมพูชา’ ยื่นศาลโลก แต่ ‘ไทย’ แย่งเก้าอี้ รมต.

เดลินิวส์

ไม่อยากกลับ! แรงงานกัมพูชาลั่น อยู่ไทยรายได้ดี วอน 2 ชาติคุยอย่างสันติ

PPTV HD 36

‘เมียหลวง-ผัวหลวง’ แทคทีมจับมือกัน รวบผัวนายกอบต.พาลูกจ้างสาวสวยเข้าม่านรูด

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น