โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ไทยน้ำทิพย์ฯ ยื่นไฟลิ่ง เสนอขายหุ้น IPO 612.45 ล้านหุ้น รอปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น

Thairath Money

อัพเดต 07 พ.ค. เวลา 12.06 น. • เผยแพร่ 07 พ.ค. เวลา 12.06 น.
ภาพไฮไลต์

บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TNCC ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 612,451,687 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท โดยมี บล.ฟินันซ่า เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้ในการลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจของบริษัทฯ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไปสำหรับการดำเนินงานของบริษัท

ทั้งนี้ TNCC เป็นผู้นำในตลาดการประกอบธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-Alcoholic Ready-to-Drink หรือ NARTD) ประเภทเครื่องดื่มอัดลม (Carbonated Soft Drinks หรือ CSD) ชั้นนำในประเทศไทย โดยได้รับสิทธิในการจัดเตรียม บรรจุ จัดจำหน่าย และจำหน่ายเครื่องดื่มครอบคลุม 63 จังหวัดจากทั้งหมด 77 จังหวัดในประเทศไทย ภายใต้สัญญาระหว่างบริษัทฯ กับ The Coca-Cola Company และ Schweppes Holdings Limited

อีกทั้งบริษัทยังถือหุ้นทางอ้อม 100% ใน Lao Coca-Cola Bottling Co., Ltd. (LCCB) ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่ม (Bottler) ซึ่งประกอบธุรกิจในประเทศลาวภายใต้สัญญาในลักษณะเดียวกันกับสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับ The Coca-Cola Company และ Schweppes Holdings Limited

โดยเครื่องดื่มที่บริษัทได้รับอนุญาตในการจัดเตรียม บรรจุ จัดจำหน่าย และจำหน่ายในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มในประเทศไทย และ/หรือ ในสปป.ลาว รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โคคา-โคล่า แฟนต้า สไปร์ท ชเวปส์ มินิทเมด เอแอนด์ดับบลิว (เฉพาะในประเทศไทย) ฟิวซ์ที และน้ำทิพย์

บริษัทยังได้เข้าทำสัญญาหลายฉบับ (เช่น สัญญาซื้อขายหุ้น สัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น และสัญญาจองซื้อหุ้น) กับ CC Cambodia Holdings Pte. Ltd. (CCCH) Coca-Cola Indochina Pte. Ltd. (CCIC) และ Swire Beverages (South East Asia) Pte. Ltd. (SWB) ซึ่งล้วนเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย Swire Coca-Cola Limited หนึ่งในผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่ม (Bottler) ของ The Coca-Cola Company รายใหญ่ที่สุดในโลก ส่งผลให้ Swire Coca-Cola กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทางอ้อมของบริษัทฯ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในประเทศไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ได้เข้าซื้อหุ้น 30% ในบริษัทย่อยของ Swire Coca-Cola ที่เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่ม (Bottler) ในประเทศกัมพูชา และบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเข้าลงทุน 30% ของทุนก่อตั้ง (Charter Capital) ทั้งหมดในบริษัทย่อยของ Swire Coca-Cola ที่เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่ม (Bottler) ในประเทศเวียดนาม

ในปี 2567 บริษัทได้จำหน่ายเครื่องดื่มที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายจำนวนรวม 404 ล้านยูนิตเคส มีศูนย์กระจายสินค้ามากกว่า 50 แห่ง และโรงงานผลิตเครื่องดื่มจำนวน 5 แห่งในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มในไทย จำนวนพนักงาน (รวมการจ้างแรงงาน Outsource ตามความต้องการในฤดูกาลผลิต) มากกว่า 8,000 คน มีเครือข่ายที่ใช้ในการกระจายเครื่องดื่มที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มที่ให้บริการร้านค้าประมาณ 495,000 แห่งในไทย

มีฐานลูกค้าหลากหลายในไทย ประกอบด้วย (1) ร้านค้าแบบดั้งเดิม เช่น ร้านค้าส่งแบบดั้งเดิม (ร้านยี่ปั๊ว) ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (ร้านโชห่วย) เป็นต้น และ (2) ร้านค้าแบบสมัยใหม่ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต เช่นเดียวกับในประเทศลาว กลุ่มลูกค้าของ LCCB ประกอบด้วยเครือข่ายร้านค้าและผู้จัดจำหน่ายในลักษณะใกล้เคียงกันกับกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยของบริษัทฯ

บริษัทมีโรงงานผลิตเครื่องดื่ม 5 แห่งในไทย สายการผลิต 22 สาย กำลังการผลิตรวมสูงสุด 564 ล้านยูนิตเคสต่อปี และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งมากกว่า 50 แห่ง ประกอบด้วยคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และรถขนส่งสินค้าที่มีเทคโนโลยีเทเลเมติกส์ (Telematics) และกล้องปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทันสมัยและยานพาหนะรวมกันมากกว่า 1,500 คันสำหรับประกอบธุรกิจในประเทศไทย ส่วนในลาว โครงสร้างห่วงโซ่อุปทานของ LCCB ประกอบด้วยโรงงานผลิตเครื่องดื่ม 1 แห่ง พร้อมทั้งมีคลังสินค้าและรถขนส่งสินค้า

โครงสร้างผู้ถือหุ้น อันดับ 1 คือ SWB ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งในสิงคโปร์ เป็นบริษัทย่อยของ SWP ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKSE) ถือหุ้นทั้งหมดทางอ้อมผ่าน Swire Beverage Holdings Limited และ Swire Coca-Cola SWB ถือหุ้น 55.59% ใน TNCC ซึ่ง SWB ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับ Bevsite ซึ่งผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่ถือหุ้นใน Bevsite มีสิทธิจะขายหุ้น (Put Option) จำนวน 276,342,760 หุ้น ให้แก่ SWB ซึ่งคาดว่าจะทำรายการในวันแรกที่หุ้นของบริษัทฯ เริ่มเทรดผ่านการซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หากมีการทำรายการดังกล่าวสัดส่วนหุ้นของ SWB หลัง IPO จะลดเหลือ 54.54%

อันดับ 2 คือ TNTL ถือหุ้น 29.95% หลัง IPO จะลดเหลือ 26.95% โดย TNTL เป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ที่มีผู้ถือหุ้นในชั้นสุดท้าย คือบุคคลในครอบครัวสารสิน ครอบครัวบุญสูง และครอบครัวเคียงศิริ ผลประกอบการทางการเงินปี 2565-2567 บริษัทมีรายได้รวม 35,989.2 ล้านบาท 39,295.0 ล้านบาท และ 41,314.2 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 3,083.24 ล้านบาท 3,374.41 ล้านบาท และ 4,379.08 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิร้อยละ 8.6 ร้อยละ 8.6 และร้อยละ 10.6 ตามลำดับ โดยรายได้หลักราว 59% มาจากสินค้าโคคา-โคล่า

บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังจัดสรรสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...