โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

หนัง 'F1' ของ Apple ทำเงินทั่วโลกกว่า 500 ล้านเหรียญ: ทำกำไรให้บริษัทเป็นเรื่องแรก

BT Beartai

อัพเดต 28 ก.ค. เวลา 08.30 น. • เผยแพร่ 28 ก.ค. เวลา 08.30 น.
หนัง 'F1' ของ Apple ทำเงินทั่วโลกกว่า 500 ล้านเหรียญ: ทำกำไรให้บริษัทเป็นเรื่องแรก

เว็บไซต์ 9to5Mac ได้รายงานว่า ‘F1: The Movie’ ภาพยนตร์ของ Apple Original Film แผนกที่รับผิดชอบด้านการผลิตภาพยนตร์ภายใต้แบรนด์ Apple และจัดจำหน่ายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกโดย Warner Bros. ประสบความสำเร็จด้านรายได้อย่างสูง ภายหลังจากเปิดตัวทั่วโลกเมื่อสุดสัปดาห์ระหว่างวันที่ 27 – 29 มิถุนายน 2025 ด้วยรายได้ 146.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าที่หลายสื่อคาดการณ์ไว้

รายงานดังกล่าวระบุว่า ‘F1: The Movie’ ทำรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 500 ล้านเหรียญ เป็นที่เรียบร้อย มาอยู่ที่ 509 ล้านเหรียญ ภายหลังจากฉายในระดับโลกประมาณ 1 เดือน (นับถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 2025) โดยเป็นรายได้ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 165 ล้านเหรียญ และรายได้จากต่างประเทศ อยู่ที่ 344 ล้านเหรียญ

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ‘F1: The Movie’ ใช้ทุนสร้างมหาศาลกว่า 300 ล้านเหรียญ แต่ตัวภาพยนตร์ได้รับการลดหย่อนภาษีและได้รับเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์จำนวนมาก ซึ่งทำให้ทุนสร้างจริง ๆ นั้นอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีจุดคุ้มทุนอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

F1 The Movie

นั่นหมายความว่า ‘F1: The Movie’ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่สร้างผลกำไรให้กับ Apple ภายหลังจากทุ่มงบลงทุนมหาศาลไปกับโปรเจกต์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลายเรื่อง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ ดังนี้

  • ‘Killers of the Flower Moon’ (2023) ของ มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese) : ทำรายได้ทั่วโลกสุทธิ 158.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
  • ‘Napoleon’ (2023) ของ ริดลีย์ สกอตต์ (Ridley Scott) : ทำรายได้ทั่วโลกสุทธิ 221.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
  • ‘Argylle’ (2024) ของ แมทธิว วอห์น (Matthew Vaughn) : ทำรายได้ทั่วโลกสุทธิ 96.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
  • ‘Fly Me to the Moon’ (2024) : ทำรายได้ทั่วโลกสุทธิ 42.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ด้วยความสำเร็จระดับนี้ อาจทำให้ Apple และ Warner Bros. ตัดสินใจส่ง ‘F1: The Movie’ ยืนโรงฉายต่อไปอีกระยะ ก่อนที่จะถึงกำหนดฉายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิง Apple TV+ ในเดือนตุลาคม 2025 นี้

F1 The Movie

ผลงานต่อไปของ Apple Original Film ในปี 2025 คือ ‘Highest 2 Lowest’ ซึ่งเป็นการกลับร่วมงานกันอีกครั้งระหว่างผู้กำกับระดับตำนาน สไปก์ ลี (Spike Lee) และนักแสดงเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์อย่าง เดนเซล วอชิงตัน (Denzel Washington)

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...