แม่บ้านเมืองปทุม ร้องสื่อ ศาลสั่งคู่กรณีชดใช้ 2.5 แสน แต่ยังเงียบ งงจะแจ้งความ ทนายบอกจะโดนหมิ่นประมาท
แม่บ้านเมืองปทุม ร้องสื่อ ศาลสั่งคู่กรณีชดใช้ 2.5 แสน แต่ยังเงียบ งงจะแจ้งความ ทนายบอกจะโดนหมิ่นประมาท
วันที่ 29 มิ.ย.65 ที่สมาคมนักข่าวปทุมธานี นางอำพร โยปัญญา อายุ 66 ปี อาชีพแม่บ้าน ชาว ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ปัจจุบันพักอยู่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว กรณีนางสาวนฤมล ศรีระชาติ อายุ 41 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ไม่ยอมชดใช้หนี้ 250,000 บาท ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดยโสธร ลงวันที่ 21 มกราคม 2564
นางอำพร โยปัญญา กล่าวว่า ตนเองกับนายเฉลียว ศรีระชาติ อาชีพขับรถแท็กซี่รับจ้าง อดีตสามี อยู่กินฉันสามีภรรยา ตั้งแต่ปี 2550 โดยนายเฉลียว ศรีระชาติ มีบุตรที่เกิดจากภรรยา คือ นางสาวนฤมล ศรีระชาติ ซึ่งเป็นครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ต่อมานายเฉลียว ศรีระชาติ ได้ซื้อรถยนต์แท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า เลขทะเบียน มฏ 2062 กรุงเทพมหานคร จากนายนิรันดร์ วรรณเศรษฐ์ 350,000 บาท วางมัดจำ 4,000 บาท
ซึ่งตนเองได้ตกลงร่วมชำระ 40,000 บาท ส่วนนายเฉลียว ชำระ 60,000 บาท และได้กู้เงินของตนเอง อีก 250,000 บาท เพื่อชำระส่วนที่เหลือ ต่อมาสามีถึงแก่ความตาย นางสาวนฤมล ศรีระชาติ ได้ยึดถือครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวไว้เรื่อยมา ตนเองได้ทวงถามให้นางสาวนฤมล ศรีระชาติ คืนรถให้แก่ตนเพื่อนำไปขายแบ่งตามส่วนให้กับตนตามที่นายเฉลียว ศรีระชาติ กู้ไป แต่นางสาวนฤมล ศรีระชาติ กลับเพิกเฉย จึงได้มีการฟ้องร้องกันตามเอกสารหลักฐานพยาน ระหว่างตนเองโจทก์ กับนางสาวนฤมล ศรีระชาติ จำเลย คดีหมายเลขดำที่ ม53/2563 คดีหมายเลขแดงที่ ม4/2564
โดยศาลจังหวัดยโสธร ได้พิพากษาให้จำเลย ชำระเงินแก่โจทก์ 250,000 บาท และออกหนังสือสำคัญฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า คดีหมายเลขดำที่ ม53/2563 คดีหมายเลขแดงที่ ม4/2564 ระหว่าง นางอำพร โยปัญญา โจทก์ นางสาวนฤมล ศรีระชาติ จำเลย เรื่องกรรมสิทธิ์ ร่วมยืม โดยศาลจังหวัดยโสธรได้อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยื่นอุทธรณ์ และบัดนี้พ้นกำหนดระยะเวลายืนอุทธรณ์แล้ว คดีถึงที่สุดแล้ว จึงออกหนังสือสำคัญฉบับนี้ไว้เป็นหลักฐาน ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2564 นายนริศ เพชรมณี ผู้พิพากษาศาลจังหวัดยโสธร แทน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดยโสธร
จากเอกสารทั้งหมดนี้ตนมองว่า นางสาวนฤมล ศรีระชาติ จงใจขัดคำสั่งศาลชัดเจน ตนเองจึงได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ไว้เป็นหลักฐาน
นางอำพร โยปัญญา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากที่ศาลพิพากษาแล้วก็ยังไม่ได้เงินคืน ซึ่งก็ทุกข์ทรมานใจมาตลอดเพราะไม่มีเงินเลย ปรึกษาทนายที่เคยว่าความให้ ก็บอกว่าเงินแค่นี้ถ้าไม่ได้ ก็ให้ทำบุญไป ถ้าเราไปแจ้งความก็จะโดนข้อหาหมิ่นประมาท ตนเองก็ไม่ทราบว่าไปหมิ่นประมาทเขาตรงไหน จึงตัดสินใจให้สื่อช่วยแจ้งสังคมให้รับทราบว่า คำพิพากษาของศาลนั้นเป็นการหมิ่นประมาทอะไรของกระบวนการยุติธรรม