โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

สามีฟ้องร้องภรรยาหลังจากโดนปฏิเสธบริจาคตับเพื่อช่วยชีวิต อ้าง “ทอดทิ้งโดยมีเจตนาร้าย”

เดลินิวส์

อัพเดต 30 ธันวาคม 2568 เวลา 2.28 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
หนุ่มชาวเกาหลีใต้ฟ้องร้องภรรยาหลังจากที่เธอปฏิเสธ ไม่ยอมเป็นผู้บริจาคอวัยวะในการปลูกถ่ายตับเพื่อช่วยชีวิตเขาที่กำลังป่วยหนัก โดยกล่าวหาว่าเธอทอดทิ้งเขาโดยไม่ประสงค์ดี

เมื่อไม่นานมานี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกรณีของชายชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งตัดสินใจยื่นฟ้องภรรยาต่อศาลในข้อหาทอดทิ้งโดยเจตนาร้าย หลังจากที่เธอปฏิเสธที่จะบริจาคตับส่วนหนึ่งเพื่อรักษาชีวิตของเขาจากโรคร้าย

เรื่องของสองสามีภรรยาได้รับความสนใจอย่างมากในประเทศและกลายเป็นหัวข้อที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก หลังจากที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งนำเรื่องราวของพวกเขามาตีแผ่

สามีภรรยาคู่นี้อยู่ในช่วงวัย 30 ปี แต่งงานกันมาได้ 3 ปีและมีลูกเล็กด้วยกัน 2 คน ชีวิตที่สงบสุขของทั้งคู่ต้องพลิกผันเมื่อฤดูหนาวปีที่แล้ว หลังจากฝ่ายสามีได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคตับชนิดหายากที่เรียกว่าโรคตับแข็งจากท่อน้ำดีอักเสบปฐมภูมิ (Primary Biliary Cirrhosis) ซึ่งทางแพทย์แจ้งว่า หากไม่ได้รับการปลูกถ่ายตับที่เหมาะสม เขาจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงหนึ่งปีโดยประมาณ

ระหว่างที่สามีรอรายชื่อผู้บริจาคตับ พ่อแม่ของเขาก็ทุ่มเทเงินทองเพื่อรักษาแบบไม่อั้น และมีภรรยาคอยดูแลอยู่เคียงข้างตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เวลาของเขาก็เริ่มนับถอยหลังลงเรื่อยๆ จนกระทั่งแพทย์ตรวจพบว่าภรรยาของเขามีค่า HLA Compatibility (ค่าทางพันธุกรรมที่ใช้ระบุความเข้ากันได้ของเนื้อเยื่ออวัยวะ) สูงถึง 95% และสามารถเป็นผู้บริจาคได้

แต่แล้วเหตุการณ์ก็เกิดการพลิกผัน เมื่อฝ่ายภรรยาแจ้งต่อแพทย์และครอบครัวสามีว่า เธอมี “ภาวะกลัวเข็มและของมีคมอย่างรุนแรง” และไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดเพื่อบริจาคตับได้

หลังจากหายจากตกใจ ฝ่ายสามีก็เริ่มพูดจาถากถางความพยายามในการดูแลของภรรยา โดยบอกว่าสิ่งที่เธอทำมาทั้งหมดนั้นไร้ความหมาย และบอกให้เธอฆ่าเขาเสียเลยจะดีกว่า เพราะเธอแค่ต้องการเห็นเขาตาย

ฝ่ายพ่อแม่สามีก็เริ่มกดดันเธอเช่นกัน โดยถามว่าเธอต้องการเห็นสามีและพ่อของลูกตายไปต่อหน้าต่อตา ทั้งที่เธอสามารถช่วยเขาได้หรืออย่างไร

ขณะที่ทุกอย่างดูเหมือนจะสิ้นหวัง โชคดีก็กลับมาหาฝ่ายสามีอีกครั้ง ในที่สุดก็พบผู้ป่วยสมองตายและเป็นผู้บริจาคอวัยวะที่เหมาะสม สามีได้รับการปลูกถ่ายตับจนประสบความสำเร็จ

แต่เรื่องราวกลับไม่จบลงเพียงเท่านั้น หลังจากพักฟื้นจนหายดี ฝ่ายสามีก็เริ่มสืบหาความจริงเกี่ยวกับอาการกลัวเข็มของภรรยา และพบว่าเธอเคยเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งและตรวจเลือดหลายครั้งโดยไม่มีปัญหาใดๆ

เมื่อถูกสามีคาดคั้น ในที่สุดฝ่ายภรรยาก็ยอมรับว่า อาการหวาดกลัวเข็มและของมีคมที่เธออ้างนั้น จริงๆ แล้วเป็นเพราะเธอมีภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดอย่างมาก และกลัวว่าหากเกิดอะไรขึ้นก็อาจทำให้ลูก ๆ ของเธอต้องขาดแม่ไป

แต่คำอธิบายนี้ไม่สามารถทำให้สามีหายโกรธได้ เขาจึงยื่นฟ้องเธอในข้อหา “ทอดทิ้งโดยเจตนาร้าย” และละเลยหน้าที่ในฐานะคู่สมรส

เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างร้อนแรงบนโลกออนไลน์ในเกาหลีใต้ แต่สุดท้าย ศาลได้ตัดสินเข้าข้างฝ่ายภรรยา โดยให้เหตุผลว่า การบริจาคอวัยวะเป็นเรื่องส่วนบุคคลและสิทธิในร่างกายของตนเอง ไม่สามารถถือเป็นหน้าที่หรือข้อผูกมัดได้ แม้ว่าจะเป็นคู่สมรสกันก็ตาม

นอกจากนี้ คำตัดสินยังยอมรับว่าการปฏิเสธของฝ่ายหญิงนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของความกังวลที่สมเหตุสมผลต่อสวัสดิภาพของบุตร

สถานีโทรทัศน์ SBS ของเกาหลีใต้รายงานว่า ท้ายที่สุด ทั้งคู่ก็ตกลงที่จะหย่าร้างกัน โดยฝ่ายภรรยาเป็นผู้ได้สิทธิดูแลบุตรทั้งสองคน แต่เธอยังคงให้ความช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับการพักฟื้นเพื่อรักษาตัวและฟื้นฟูร่างกายของอดีตสามีต่อไป

ที่มา : odditycentral.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...