โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ระงับเหยื่อโอนเงินทัน 18 ราย ยอดเงินกว่า 3 ล้านบาท พร้อมเปิดสถิติรอบสัปดาห์นี้

สวพ.FM91

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ระงับเหยื่อโอนเงินทัน 18 ราย ยอดเงินกว่า 3 ล้านบาท พร้อมเปิดสถิติรอบสัปดาห์นี้ เร่งปิดกั้นเว็บไซต์หลอกลวง ป้องกันความเสียหายเพิ่ม
ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. เปิดสถิติคดีและความเสียหายในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีการดำเนินการสืบสวนจับกุมพร้อมช่วยเหลือเหยื่อจากการถูกหลอกลวงภายใต้ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ตั้งแต่วันที่ 21-27 ธ.ค.68 มีคดีที่รับแจ้งเข้ามาผ่านทาง Thaipoliceonline จำนวน 6,899 คดี มูลค่าความเสียหาย 485,096,067 บาท (เฉลี่ยประมาณ 69.30 ล้านบาทต่อวัน) ซึ่งคดีที่รับแจ้งรอบนี้เพิ่มขึ้นจากห้วงวันที่ 14-20 ธ.ค. 68 จำนวน 56 คดี และพบว่ามูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นกว่า 58,131,239 บาท พบว่าแม้ภาพรวมจำนวนคดีจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ความเสียหายกลับพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก สะท้อนว่าแม้จำนวนครั้งที่เกิดเหตุจะเพิ่มขึ้นไม่มากแต่ความรุนแรงต่อคดีสูงขึ้น มิจฉาชีพสามารถหลอกเงินจำนวนมากได้สำเร็จในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปลายปีที่มีคนใช้จ่ายและได้รับโบนัส

หากนับเชิงปริมาณของคดีที่มีการแจ้งเข้ามา อันดับ 1. ยังคงเป็นการหลอกซื้อขายสินค้าออนไลน์ แต่รอบนี้มีจำนวนมากถึง 73.8 เปอร์เซ็นต์ โดยคนร้ายเน้นหลอกคนจำนวนมาก กระจายตัวกว้าง แม้ว่ามูลค่าต่อคดีจะไม่สูงนัก แต่ก็ยังเป็นภัยคุกคามวงกว้าง เป็นคดีที่เกิดขึ้นง่ายและมีความถี่สูงมากเมื่อเทียบกับคดีประเภทอื่น ขณะที่อันดับ 2. คือการหลอกโอนเงินเพื่อรับรางวัลฯ และอันดับที่ 3. คือการหลอกให้โอนหารายได้พิเศษ เช่นเดียวกับสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่หากเทียบในเชิงมูลค่าความเสียหายพบว่าอันดับคดีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยอันดับ

1. ที่ก่อให้เกิดมูลค่าความเสียหายสูงสุด กลับมาเป็นของ คดีหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกันอันดับ2. เป็นการหลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้พิเศษ ที่แซงขึ้นมา ส่วนอันดับ 3. การข่มขู่ท่างโทรศัพท์ ปรากฏเป็นประเภทคดีใหม่ที่ขยับอันดับขึ้นมาแทนที่คดีหลอกโอนเงินเพื่อรับรางวัลฯ

ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ACSC) ได้สรุปรายงานสถิติประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา (21-27 ธ.ค.68) ในส่วนแพลตฟอร์มดิจิทัลและอินเทอร์เน็ต ดังนี้

1. สถิติการรับแจ้งความรายแพลตฟอร์มดิจิทัล พบว่า FACKBOOK 4,422 เคส (เพิ่มขึ้น 1,044 เคส หรือ 30.9%), LINE 876 เคส (ลดลง 64 เคส หรือ 6.8%) และ TIKTOK 326 เคส (เพิ่มขึ้น 73 เคส หรือ 28.9%)

2. สถิติการปิดกั้น ตรวจพบ 5,828 URLs ดำเนินการปิดกั้นแล้ว 5,493 URLs (คิดเป็น 94.3%) โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม FACKBOOK มีการปิดกั้นเฉลี่ยวันละ 742 URLs นอกจากนี้ ในกลุ่มการหลอกลวงด้านการลงทุนและการลงทุนที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ตรวจพบ 1,047 URLs ปิดกั้นแล้ว 1,015 URLs (คิดเป็น 96.9%)

โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเคสรับแจ้งผ่านทางศูนย์ ACSC และสามารถประสานงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน ประกอบกับประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าตรวจสอบพร้อมช่วยเหลือเหยื่ออย่างทันท่วงที โดยเป็นการเข้าตรวจสอบทั้งหมด 10 เคส และเราสามารถช่วยเหลือรวมทั้งระงับการโอนเงินของผู้เสียหายก่อนจะโอนเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพได้ทั้งหมดจำนวน 18 ราย คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 3,700,105 บาท สามารถจับกุมได้ 2 คดี

สำหรับเคสการช่วยเหลือที่น่าสนใจและมีมูลค่าสูง ได้แก่

เคสที่1 เจ้าหน้าที่ warroom ศูนย์ ACSC ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี เข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย เป็นหญิงวัย 57 ปี หลังพบว่ากำลังโอนเงินเข้าบัญชีม้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบไปพบผู้เสียหายก่อนระงับการโอนเงิน พร้อมแจ้งให้ทราบว่ากำลังถูกมิจฉาชีพหลอก โดยคนร้ายชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนผ่านทางไลน์ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปลงทุน มูลค่าความเสียหายรวม 2,410,300 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ผู้เสียหายรวบรวมพยานหลักฐานและเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

เคสที่2 เจ้าหน้าที่ warroom ศูนย์ ACSC ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุโขทัย เข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย เป็นหญิงวัย 63 ปี หลังพบว่ากำลังโอนเงินเข้าบัญชีม้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบไปพบผู้เสียหายพร้อมอธิบายเหตุการณ์ให้ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอก ให้หยุดโอนเงินทันที โดยเคสนี้ผู้เสียหายพบโฆษณารับสินค้าทดลองฟรีผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะถูกชักชวนเข้ากลุ่มไลน์เพื่อร่วมเล่นกิจกรรมแล้วถูกหลอกให้โอนเงินไปเรื่อยๆ โดยในช่วงแรกได้รับผลตอบแทน มิหนำซ้ำยังสามารถถอนเงินออกมาได้จริง ต่อมาเมื่อโอนเงินจำนวนมากขึ้น กลับไม่สามารถถอนเงินได้ คนร้ายอ้างว่าทำรายการผิดพลาดต้องโอนเงินเพิ่ม ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายอีก รวมมูลค่าความเสียหาย 934,005 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐานและพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...