โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

วอนรัฐฯ มอบพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กฟื้นใจในภาวะวิกฤติ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่

เดลินิวส์

อัพเดต 26 ธันวาคม 2568 เวลา 22.18 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
วอนพรรคการเมืองมอบสวัสดิการหนังสือ 3 เล่มในบ้านเด็กเล็ก เป็นของขวัญวันเด็ก และจัดให้มีพื้นที่พักใจเด็ก ทุกศูนย์พักพิงในภาวะวิกฤติ

แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. วอนรัฐฯ มอบพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กฟื้นใจในภาวะวิกฤติ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ในสถานการณ์ภัยพิบัติและความขัดแย้งจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สถานการณ์มหาอุทกภัยภาคใต้ และวิกฤติอื่นๆ ด้วยเด็กเป็นกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง ความสูญเสีย ความหวาดกลัว และความไม่มั่นคงในชีวิตประจำวัน อาจทิ้งร่องรอยบาดแผลทางใจ ที่ส่งผลต่อพัฒนาการระยะยาว หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม แต่การใช้หนังสือและกิจกรรมการอ่าน ช่วยให้ผลกระทบเชิงลบที่มีต่อเด็กดีขึ้นทุกด้าน ทั้งเป็นการเยียวยาในระยะสั้น และเป็นการวางรากฐานระยะยาวให้เด็กสามารถมีความคิดยืดหยุ่น แข็งแกร่ง กลับมาเติบโต เรียนรู้ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความหวังอีกครั้ง

นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวว่า “ทุกภาคส่วนมีบทบาทสำคัญในการร่วมกันปกป้องเด็กๆ ให้มีความเข้มแข็ง พร้อมก้าวต่อไปการออกแบบพื้นที่ที่เป็นมิตรกับเด็ก (Child-Friendly Spaces : CFS) ถือเป็นกลไกสำคัญในการคุ้มครอง ฟื้นฟู และส่งเสริมพัฒนาการของเด็กอย่างรอบด้าน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา พื้นที่ที่เป็นมิตรกับเด็ก (CFS) คือพื้นที่ปลอดภัยที่ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการและศักยภาพของเด็กเป็นศูนย์กลาง เด็กสามารถเข้ามาใช้พื้นที่เพื่อเล่น เรียนรู้ แสดงออกทางความคิดและความรู้สึก รวมถึงได้รับการดูแลทางจิตใจจากผู้ใหญ่ที่มีความเข้าใจ แผนงานยุทธศาสตร์สร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. จึงนำเสนอข้อมูลสำคัญจากหนังสือ “ปลูกกล้ากลางไฟ : แนวทางการดูแลจิตใจและเลี้ยงดูเด็กในภาวะสงคราม” เขียนโดย รศ.เทอดพงศ์ ทองศรีราช และคณะ จากภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่อ้างอิง คู่มือ Operation Guidance for Child Friendly Spaces ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่เรียบง่ายสำหรับการฟื้นฟู เยียวยา และพัฒนาเด็ก โดยพื้นที่ขนาดเพียง 1x1 เมตร ที่ปูด้วยแผ่นรองนุ่ม มีหมอนหรือผ้าห่ม มีหนังสือและของเล่นเด็ก ซึ่งใช้ในค่ายผู้อพยพเลบานอน , ซีเรีย พบว่า เด็กที่ใช้มุมดังกล่าววันละ 15 นาที มีระดับฮอร์โมนความเครียดของร่างกายต่ำกว่าเด็กที่ไม่มีมุมสงบ เฉลี่ย 18% หลังจาก 4 สัปดาห์ และในทางจิตวิทยา มุมสงบ-มุมปลอดภัย ช่วยให้ระบบประสาทลิมบิกของสมองที่ควบคุมอารมณ์ พฤติกรรม แรงจูงใจ และความจำ สามารถสลับจากโหมดปลุกภัย (Hyper-Arousal) กลับสู่โหมดพักฟื้น (Rest-Digest)”

นางสุดใจ พรหมเกิด กล่าวต่อว่า “ในปี 2569 แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. จึงเสนอให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน บูรณาการจัดพื้นที่ปลอดภัยในศูนย์พักพิง ชุมชน โรงเรียน และพื้นที่วิกฤติ รวมถึงหนุนเสริมสนับสนุนนโยบายการขับเคลื่อน“สวัสดิการหนังสือ 3 เล่มในบ้านเด็กปฐมวัย” เพื่อเด็กจะได้มีสื่อที่มีคุณภาพ เหมาะสมวัย เ ตรียมความพร้อมทั้งด้านพัฒนาการและความยืดหยุ่น หากเกิดภาวะวิกฤติต่างๆ ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ ครู อาสาสมัคร และผู้ดูแลเด็ก เพื่อใช้การอ่านเป็นเครื่องมือเยียวยาใจเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ “พื้นที่ปลอดภัยที่มีหนังสือ” ไม่เพียงช่วยบรรเทาผลกระทบทางจิตใจในระยะสั้น แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้และการเติบโตอย่างเข้มแข็งในระยะยาว จึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกันส่งมอบพื้นที่แห่งความหวังให้กับเด็กไทย เพื่อให้ปีใหม่ไม่ใช่เป็นเพียงการเริ่มต้นของปีปฏิทิน แต่เป็นการเริ่มต้นอนาคตที่ปลอดภัยและงดงามของเด็กทุกคน”

สนใจข้อมูลการพัฒนาเด็กในภาวะวิกฤติ สามารถดาวน์โหลดและเปิดอ่านได้ในเล่ม “ปลูกกล้ากลางไฟ : แนวทางการดูแลจิตใจและเลี้ยงดูเด็กในภาวะสงคราม” ทาง www.happyreading.in.th หากประสงค์ข้อแนะนำในการพัฒนาเด็กด้วยการอ่านเพิ่มเติม ติดต่อเพจ “อ่านยกกำลังสุข”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...