โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

'สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5' เชื่อมบึงกาฬ-บอลิคำไซ ฮับโลจิสติกส์ใหม่

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันนี้ (25 ธันวาคม 2568) นับเป็นหนึ่งในวันประวัติศาสตร์ โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิด สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) อย่างเป็นทางการ ร่วมกับ ฯพณฯ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและภริยา ณ บริเวณกลางสะพานมิตรภาพ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ

สำหรับ สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 นี้ ไม่ได้เป็นเพียงการก่อสร้างทางกายภาพ แต่เป็นการประกาศการเปิด "จุดผ่านแดนถาวร" ที่เชื่อมโยงประเทศไทยสู่ สปป.ลาว และเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของภาคอีสานตอนบนและภูมิภาคอินโดจีนทั้งหมด

ทำไมสะพานแห่งนี้ถึง "พลาดไม่ได้"

'สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5' ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมระหว่าง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ กับ เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว นั้น ไม่ใช่แค่การสร้างสะพาน แต่เป็นการเติมเต็ม "จิ๊กซอว์" เศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งในภูมิภาค เชื่อม 3 ประเทศ (ไทย-ลาว-เวียดนาม) ในเส้นทางที่สั้นที่สุด

จุดเปลี่ยนสะพานแห่งนี้จะทำให้การขนส่งสินค้าจากไทย (บึงกาฬ) ผ่านลาว (บอลิคำไซ) ไปยัง ประเทศเวียดนาม (เมืองวินห์) เป็นไปอย่างรวดเร็วและประหยัดที่สุด ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่เปิดโอกาสให้สินค้าไทยเข้าสู่ตลาดเวียดนามตอนกลาง และขยายต่อไปยังจีนตอนใต้ได้ง่ายขึ้น

สำหรับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 จะพลิกโฉมจังหวัดบึงกาฬจากจังหวัดชายแดนธรรมดาให้กลายเป็น "ศูนย์กลางโลจิสติกส์" และจุดผ่านแดนสำคัญ ทำให้เกิดการจ้างงาน การลงทุน และการขยายตัวของเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างมหาศาล คาดการณ์ว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนได้หลายหมื่นล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสทองของการท่องเที่ยวแบบ "ไร้รอยต่อ" ระหว่างไทยและลาวจะง่ายขึ้นมาก นักท่องเที่ยวสามารถข้ามไปสัมผัสเสน่ห์ของแขวงบอลิคำไซ ต่อไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ ของลาวหรือเวียดนามได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

ทำความรู้จัก "สะพานมิตรภาพ 5"

'สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5' มีจุดเชื่อม คือ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ (ต.ไคสี) - เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว มีความยาว 1,350 เมตร ขนาด 2 ช่องจราจร มูลค่าโครงการ: ประมาณ 3,787 ล้านบาท (ร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลไทยและ สปป.ลาว) โดยกำหนดเปิดวันที่ 25 ธันวาคม 2568 (ประกาศเปิดจุดผ่านแดนถาวรแล้ว)

กระทรวงมหาดไทยได้ลงนามประกาศเปิด "จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5" ฝั่งไทยที่บ้านดอนยม ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ แล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2568 เวลา 06.00 – 22.00 น. เป็นต้นไป ทำให้มีผลทางกฎหมายในการผ่านเข้าออกราชอาณาจักร

สำหรับประชาชนและยานพาหนะทั่วไป จะเริ่มเปิดให้ใช้สัญจรจริงได้ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไปโดยจะเปิดทำการตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น. ทุกวัน

อัตราค่าบริการ

ในช่วงแรกจะยังไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านสะพาน เนื่องจากอยู่ระหว่างรอการดำเนินการทางด้านกฎหมาย หากจะเริ่มดำเนินการเก็บค่าธรรมเนียม กรมทางหลวงจะดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป

รูปแบบ 'สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5'

ปัจจุบันกรมทางหลวงได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยตัวสะพานข้ามแม่น้ำโขงมีขนาด 2 ช่องจราจร ความยาว 1,350 เมตร

เชื่อมต่อถนน 4 ช่องจราจร ความยาวรวมถนน 16.340 กม. ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.บึงกาฬ เชื่อมเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว

แนวเส้นทางไทย-ลาว

จุดเริ่มต้นโครงการแยกจาก ทล.222 ถนนเชื่อมต่อสายสำคัญ ระหว่าง จ.สกลนคร และบึงกาฬ เชื่อมต่อเส้นทางตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor – EWEC) ไปยังท่าเรือน้ำลึก ที่เมืองวุงอ่าง และเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม

ฟากแนวเส้นทางฝั่ง สปป.ลาว เชื่อมต่อถนนหมายเลข 13 ต่อไปยังถนนหมายเลข 8 เส้นทางจาก สปป.ลาว ไป เมืองวินห์ เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม และเชื่อมต่อประเทศจีนตอนใต้ ผ่านทางหลวงอาเซียนหมายเลข 1 (AH1) ประเทศเวียดนาม จะช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทาง การท่องเที่ยว และสนับสนุนให้มูลค่าการค้าชายแดน ไทย-สปป.ลาว ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...