เลขาฯ ประกันสังคม–ผู้ว่าฯ อ่างทอง ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ทุพพลภาพ เดินหน้า “สปส. มอบสุข”
เลขาฯ ประกันสังคม-ผวจ.อ่างทอง นำทีมตรวจเยี่ยมผู้ทุพพลภาพ ตามโครงการ "สปส. มอบสุข" เชิญชวนสมัครเป็นผู้ประกันตน ยามเจ็บป่วยได้รับความช่วยเหลือทั้งเงิน-สุขภาพ
วันที่ 24 ธ.ค.68 นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยนายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายไพบูลย์ ศุภบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นางสาวมาลากาลัญ ห่อประทุม ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นางสาวปารินทร์ วิโลโรจน์ ประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานพื้นที่จังหวัดอ่างทอง และนายชิโนรส จันทรทิพย์ ผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 1 นักกายภาพบำบัด พยาบาลวิชาชีพจากโรงพยาบาลโพธิ์ทองและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประกันตนที่อยู่ในภาวะทุพพลภาพ จำนวน 3 ราย ในพื้นที่ อ.โพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยว่า การลงพื้นที่ของโครงการ สปส. มอบสุขครั้งนี้ เพื่อพบปะและให้กำลังใจแก่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 ในจังหวัดอ่างทอง ที่ได้รับความช่วยเหลือตามสิทธิ์ต่าง ๆ พร้อมทั้งนำนักกายภาพบำบัดให้คำปรึกษาด้านการฟื้นฟูร่างกายอย่างเหมาะสม ตลอดจนมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น มีผู้ประกันตนที่อยู่ในภาวะทุพพลภาพทั่วประเทศจำนวน 22,996 ราย ขณะที่ปัจจุบันสำนักงานประกันกันสังคมจังหวัดอ่างทองมีผู้ประกันตนทุพพพลภาพอยู่ในความดูแลจำนวนทั้งสิ้น 148 ราย
“อยากเชิญชวนประชาชนสมัครเป็นผู้ประกันตน เพื่อจะได้รับความช่วยเหลือหากได้รับบาดเจ็บจนทุพพลภาพ โดยเฉพาะมาตรา 40 สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระและไม่มีนายจ้าง สามารถส่งเงินสมทบได้ตั้งแต่เดือนละ 70, 50 หรือ 100 บาท เพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์ทดแทนการขาดรายได้ 5 ด้าน อีกทั้งปัจจุบันยังอยู่นะหว่างปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สิทธิครอบคลุมมากขึ้น”
ด้านนายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า หน่วยงานที่ในจังหวัดอ่างทองทั้งสาธารณสุข อสม. รพ.สต. หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน เหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง ให้ความสำคัญกับการบำบัดฟื้นฟูร่างกาย และสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นแก่ผู้ทุพพลภาพตามสิทธิอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดหาถุงยังชีพและปรับปรุงที่พักอาศัยเพิ่มเติม จึงขอฝากผู้มีอาชีพอิสระ หรือลูกจ้าง ให้สมัครเป็นผู้ประกันตน ซึ่งถือเป็นวงเงินที่สำคัญที่ทำให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ภายหลังเจ็บป่วยและได้รับการดูแลจากภาครัฐเป็นอย่างดี
สำหรับ ผู้ประกันตนที่อยู่ในภาวะทุพพลภาพ จำนวน 3 ราย ได้แก่
- รายที่ 1 นายหนูจร อายุ 48 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพจากโรคติดเชื้อไวรัสที่จอประสาทตา ทำให้ตาบอดทั้งสองข้าง สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานร้อยละ 99 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 4,135.50 บาท ตลอดชีวิต
- รายที่ 2 นายสุมนต์ อายุ 55 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพจากภาวะเส้นเลือดสมองอุดตัน แขนและขาช้ายอ่อนแรง สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานร้อยละ 50 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 3,900 บาท ตลอดชีวิต
- รายที่ 3 นายวีระ อายุ 53 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 39 ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน สูญเสียขาทั้งสองข้างระดับโคนขา และควบคุมระบบขับถ่ายไม่ได้ สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานร้อยละ 50 ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2551 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 2,400 บาท ตลอดชีวิต
#ภูมิภาค-45