"มะละกอ" ผลไม้เทวดา! กินดิบ-กินสุก ประโยชน์ครบจบในลูกเดียว
ประโยชน์ของมะละกอ กินดิบในส้มตำก็ดี กินสุกก็ช่วยต้านโรค บำรุงสุขภาพรอบด้าน
มะละกอ ถือเป็นผลไม้ยอดนิยมที่อยู่คู่ครัวไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะนำ มะละกอดิบ มาตำส้มตำรสแซ่บ หรือทาน มะละกอสุก หวานฉ่ำเป็นของว่างก็ล้วนถูกปากใครหลายคน แต่ทราบหรือไม่ว่าภายใต้ความอร่อยนี้ มะละกอซ่อนสรรพคุณทางยาและคุณค่าทางโภชนาการไว้อย่างมหาศาล ทั้งช่วยบำรุงร่างกายและป้องกันโรคร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มะละกอดิบในส้มตำ มีดีมากกว่าความอร่อย
หลายคนอาจคิดว่าประโยชน์ของมะละกออยู่ที่ผลสุกเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว มะละกอดิบ ที่เรานิยมนำมาทำส้มตำ มีเอนไซม์สำคัญที่ชื่อว่า "ปาเปน" (Papain) สูงมาก ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยย่อยโปรตีน ทำให้กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักเกินไป และช่วยทำความสะอาดลำไส้ ขจัดคราบโปรตีนเก่าๆ ที่ตกค้างได้ดี
อย่างไรก็ตาม การทานมะละกอดิบในเมนูส้มตำ ควรระวังเรื่องเครื่องปรุงรส ทั้งความเค็มจากน้ำปลาหรือปลาร้า และความหวานจากน้ำตาล หากปรุงรสจัดเกินไปอาจได้รับโซเดียมและน้ำตาลเกินความจำเป็น ดังนั้นควรสั่งรสชาติกลางๆ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากมะละกออย่างเต็มที่
มะละกอสุก ผู้ช่วยย่อยและระบายชั้นยอด
สำหรับ มะละกอสุก นั้นขึ้นชื่อเรื่องการเป็นยาระบายอ่อนๆ ตามธรรมชาติ เพราะอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ใครที่มีปัญหาท้องผูกเป็นประจำ การทานมะละกอสุกหลังอาหารจะช่วยให้ระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติ ลดความเสี่ยงของการเกิดริดสีดวงทวารได้อย่างดีเยี่ยม
สารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยต้านมะเร็งและบำรุงหัวใจ
ในเนื้อมะละกอ โดยเฉพาะมะละกอสุกที่มีสีเหลืองส้ม อุดมไปด้วย สารไลโคปีน (Lycopene) และเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง งานวิจัยระบุว่าสารเหล่านี้มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก รวมถึงช่วยบำรุงหัวใจ ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจขาดเลือดได้
บำรุงสมอง เสริมความจำให้แม่นยำ
นอกจากการบำรุงร่างกายภายนอกแล้ว มะละกอยังมีวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อระบบประสาท ช่วยบำรุงสมองและเสริมสร้างความจำ เหมาะสำหรับวัยทำงานที่ต้องใช้ความคิดหนักๆ หรือผู้สูงอายุที่ต้องการชะลอความเสื่อมของสมอง ช่วยให้สมองผ่อนคลายและลดความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์
ความแตกต่างของประโยชน์ ระหว่าง "ดิบ" และ "สุก"
หากจะสรุปให้เห็นภาพชัดเจน มะละกอดิบ จะโดดเด่นในเรื่องของเอนไซม์ปาเปนที่ช่วยย่อยโปรตีนและทำความสะอาดลำไส้
ในขณะที่ มะละกอสุก จะเน้นไปที่การได้รับวิตามินซี สารไลโคปีน และเส้นใยอาหารที่ช่วยเรื่องการขับถ่ายและบำรุงผิวพรรณ ดังนั้นการเลือกทานจึงขึ้นอยู่กับความต้องการของร่างกายในช่วงเวลานั้นๆ
สรุปแนวทางการทานมะละกอเพื่อสุขภาพ
ไม่ว่าจะดิบหรือสุก มะละกอก็เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มหาศาล หากต้องการช่วยเรื่องการย่อยและการล้างลำไส้ มะละกอดิบคือคำตอบ แต่หากต้องการบำรุงผิวพรรณ แก้ท้องผูก และต้านโรคร้าย มะละกอสุกคือทางเลือกที่ดีที่สุด การทานสลับกันไปอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ครบถ้วนและแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก