โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

บอร์ด รฟท.รับทราบทบทวนหลักการ 'ไฮสปีด 3 สนามบิน' เคลียร์ 2 ปมด้านการเงิน

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าฯการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการรฟท.รับทราบให้ทบทวนหลักการของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ภายหลังนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางการแก้ปัญหาของโครงการฯได้ข้อสรุปว่าต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อขอทบทวนหลักการของโครงการฯ ควบคู่ประกอบความเห็นจากอัยการสูงสุดด้วย

นายอนันต์ กล่าวต่อว่า การทบทวนหลักการในครั้งนี้มี 2 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย 1.การชำระค่าสิทธิ์แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ 2.การสร้างไปจ่ายไป เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาทั้ง 2 ประเด็นไม่เคยมีการเสนอต่อครม.พิจารณาเห็นชอบ

ซึ่งเป็นเพียงการเห็นชอบในที่ประชุมคณะกรรมการ กพอ.เท่านั้น โดยที่ผ่านมาทางอัยการสูงสุดมีความเห็นให้ทบทวนในประเด็นดังกล่าว

สำหรับเงื่อนไขหลักการของ 2 ประเด็น ดังนี้ 1.การชำระค่าสิทธิ ARL (Airport Rail Link) จากเดิม เอกชนคู่สัญญาต้องชำระค่าสิทธิ ARL จำนวน 10,671.09 ล้านบาท ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท. ) ภายใน 2 ปี หลังลงนามในสัญญาร่วมลงทุนฯ เป็นเอกชนคู่สัญญาต้องชำระค่าสิทธิ ARL จำนวน 10,671.09 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยจำนวน 1,060.04 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น11,731.13 ล้านบาท

โดยแบ่งชำระ ค่าสิทธิ ARL ออกเป็น 7 งวด ได้แก่ งวดที่ 1-6 งวดละ 1,067.11 ล้านบาท และงวดที่ 7 จำนวน 5,328.47 ล้านบาท ภายในวันที่ 24 ตุลาคม ของแต่ละปี

2.การปรับวิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน จากเดิมจ่ายเมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูงฯ โดยรัฐจะแบ่งจ่ายเป็นเวลา 10 ปี ปีละเท่าๆ กัน รวมเป็นจำนวน 149,650 ล้านบาท

เปลี่ยนเป็นจ่ายเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงานก่อสร้างที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท. ) ตรวจรับ วงเงินไม่เกิน 120,000 ล้านบาท หรือการสร้างไปจ่ายไป

ขณะเดียวกันเอกชนต้องวางหลักประกันเพิ่มเติมจากสัญญาเดิม รวมเป็นจำนวน 160,000 ล้านบาท (สำหรับค่างานโยธาและค่าระบบรถไฟฟ้า) เพื่อรับประกันว่าจะก่อสร้างและเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงฯ ได้ภายใน 5 ปี

ทั้งนี้กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างจะทยอยตกเป็นของภาครัฐ (รฟท.) ทันทีตามงวดของการจ่ายเงิน

นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ตามขั้นตอนหลังจากคณะกรรมการ รฟท. รับทราบแล้ว จะเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) และนำเข้า ครม. พิจารณาต่อไป

"ในช่วงที่มีการยุบสภาจะกระทบต่อโครงการฯจนเกิดความล่าช้าหรือไม่นั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับทางอีอีซีเป็นผู้พิจารณา ซึ่งจะต้องดูเรื่องข้อกฎหมายด้วย ส่งผลให้สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ล่าช้า เนื่องจากเป็นพื้นที่ทับซ้อนโครสร้างร่วมกับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย- จีน ระยะที่ 1อย่างไรก็ดีคาดว่าในปี 2569 จะได้เห็นโครงการนี้เดินหน้า เพราะเป็นโครงการที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอีอีซี" นายอนันต์ กล่าว

นอกจากนี้ในประเด็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมีแนวทางให้ทางเอกชนผู้รับสัมปทานเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะที่ 2 ที่เชื่อมต่อจังหวัดตราดนั้น เป็นเพียงแนวทางของกระทรวงคมนาคม

ถึงแม้ว่ารฟท.เคยมีการศึกษาแล้ว ซึ่งจะต้องพิจารณาดูอีกครั้ง โดยยืนยันว่าปัจจุบันยังไม่ได้มีการนำเงื่อนไขนี้ไปหารือกับเอกชน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...