โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภาพยนตร์

รวมบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจากผู้กำกับและเหล่านักแสดง SLR

Major Group

เผยแพร่ 06 เม.ย. 2565 เวลา 17.00 น. • Majorcineplex
รวมบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจากผู้กำกับและเหล่านักแสดง SLR

 

SLR  (M Pictures)

วันเข้าฉาย:  21 เมษายน2565

แนวภาพยนตร์: Horror

นักแสดง:  นนน-กรภัทร์เกิดพันธุ์,เฌอปรางอารีย์กุล,นนท์-ศดานนท์ดุรงคเวโรจน์ และ นพพันธ์บุญใหญ่

ผู้กำกับภาพยนตร์: เลิศศิริบุญมีและ วุฒิชัยวงศ์นภดล

โปรดิวเซอร์:  ก้องเกียรติโขมศิริ

เรื่องย่อ

“แดน” (นนน-กรภัทร์) นักศึกษาหนุ่มคณะภาพถ่าย ที่สอบธีสิสกับอาจารย์เอมมาเป็นปีแล้ว แต่ยังไม่ผ่านเสียที จนในที่สุด อาจารย์เอมได้ให้กล้อง SLR ให้ถ่ายงานที่ดีที่สุดมาส่ง แดนกำลังจะค้นพบว่า มันเป็นบททดสอบของกล้องปีศาจ ซึ่งเขาไม่มีทางหนี นอกจากจะต้องเลือกว่าจะยอมตามมัน หรือจะสู้กับมัน และเขากำลังจะลากแฟนและเพื่อนของเขาอย่าง “น้ำ” (เฌอปราง) และ “เกรท” (นนท์-ศดานนท์) เข้ามาร่วมชะตากรรมอันน่าสะพรึงกลัว ซึ่งรายล้อมไปด้วยความตายจากกล้องนรกนี้ด้วย

 

 

ผู้กำกับมาร์ค-เลิศศิริบุญมี

จุดเริ่มของSLR ทราบว่ามาจากมาร์คเลย

-ผมเป็นคนชอบดูหนังตั้งแต่ยังเด็กเลย ติดตามทุกแนว ผมเรียนจบด้านฟิล์มที่ New York Film Academy จนตอนกลับมาทำงานที่เมืองไทยได้มีโอกาสเจอ คุณเอ็ด เป็นคนรักหนังเหมือนกันจนเกิดภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง “หลง” ฉายทางทรู ออริจินอล เมื่อปี 2012

จากหลง มาสู่“SLR” ระยะเวลาค่อนข้างนานทำไมถึงยังใจจดใจจ่อกับเรื่องนี้

-ระหว่างที่รอการทำหนัง ผมก็ทำงานทั่วไปของผมอยู่เรื่อย งานหนังเป็น Passion คนอื่นอาจเอาเวลาว่างไปปาร์ตี้หรือทำอย่างอื่น แต่สำหรับผมและเอ็ดเราหลงใหลงานภาพยนตร์ เป็นความสุขของเราจริง ๆ ถ้าเราไม่ทำก็จะคาใจไปเรื่อย ๆ

ทำไมเรื่องที่2 ถึงเลือกทำแนวสยองขวัญ

-ผมอยากเสนออะไรที่อยู่ในประเภทสยองขวัญที่ไม่ใช่แนว cliché (ทั่วไป)หรือ cookie-cutter (ซ้ำซาก) ก็เลยอยากเสนอไอเดียการทดสอบตัวเอง อาจมีเรื่องของการสะท้อนในสิ่งที่ตัวเองต้องการอะไรรวดเร็ว take shortcut  หาทางลัดในชีวิต แต่เรามาในรูปแบบของกล้อง SLR ที่จะมาขโมยชีวิตของคุณไป

นิยามของ“SLR”

-ตรงตัวเลยคือ Single Lense Reflex  ใช้กล้อง SLR ตัวผมเจอเรื่องนี้ด้วยตัวเองคือ อาม่าไม่ยอมให้ผมถ่ายรูปในงานแต่งงาน ท่านให้เหตุผลว่าเดี๋ยวพลังของฉันจะหาย ตอนนั้นเราก็ตกใจว่าฉันทำอะไรผิด แต่ความเชื่อก็คือความเชื่อ มันอาจดูดพลังไปได้ ผมกับเอ็ดเลยมานั่งคิดกันว่าถ้าเราคิดในเชิงวิทยาศาสตร์ กล้องก็คือกล่อง ๆ หนึ่งที่เก็บภาพ ภาพคือแสง แสงคือพลัง แสดงว่าพลังของเราส่วนหนึ่งได้ถูกเก็บในแผ่นฟิล์มไปแล้ว เลยมาเป็น SLR กล้องที่สะท้อนตัวเองเข้าไปและไปเก็บในฟิล์ม

ทำไมถึงเลือกนนน/เฌอปราง,ศดานนท์และอ้นมาเล่นเรื่องนี้

-ก่อนจะได้ 4 คนนี้ ผมเจอนักแสดงหลายสิบชีวิตที่เก่งแตกต่างกันไป แต่สุดท้ายแล้วมาลงที่ 4 คนนี้ ผมตั้งสถานการณ์สมมติให้พวกเขาเล่น เอากล่อง ๆ หนึ่งให้เขาเลือกว่าคุณจะตายหรือไม่ตาย ซึ่งแต่ละคนก็มีความกระตือรืนร้นที่จะทำให้ได้ ผมได้เห็นการแสดงจริงของแต่ละคน อย่าง ศดานนท์ โชว์ออกมาแบบแนวตลกร้าย เขามอบอะไรให้เราได้เห็นโดยที่คาดไม่ถึงว่าเขาจะแสดงออกมาได้ และลองเล่นอีกแบบให้เราดูด้วย เขาสมควรแล้วที่จะได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากเวทีสุพรรณหงส์  

ขณะที่เฌอปรางได้เห็นว่าเขาปล่อยให้ศดานนท์และนนนพูดไปก่อน แต่เขาไตร่ตรองอยู่ว่าจะทำยังไง แล้วพอเขาพูดออกมาดูมีน้ำหนัก ซึ่งผมกับเอ็ดก็พูดกันว่าเฌอปรางเหมาะมาก เพราะเขาเป็นที่จะต้องคอยช่วยให้ แดน (แสดงโดย นนน) หลุดพ้นจากหายนะครั้งนี้ คาแร็คเตอร์ของ น้ำ (เฌอปราง) ต้องเชื่อในแดนว่าแดนจะต้องทำได้ และเมื่อเพื่อนเจอปัญหาเขาต้องช่วยเขาคิดและหาทางออกให้ได้ ต้องเป็นทั้งเพื่อนที่ดีและกึ่งเป็นนักสืบในตัว และใช้เซนส์ในการค้นหาคำตอบ

คาแร็คเตอร์ “แดน” ของ นนน ต้องพิสูจน์ให้ครอบครัวและอาจารย์เห็นให้ได้ว่าเขาทำได้ อาจารย์ที่มอบโอกาสในชีวิตให้กับเขา ชีวิตของเขาต้องผ่านบททดสอบจิตใจ ต้องชั่งน้ำหนักตลอดเวลา มาถึงวันแรกที่เห็นบุคลิกของนนน เหมือนเขามาเพื่อทำให้ได้ ดูมั่นใจ ในส่วนของ อ้น-นพพันธ์ เขามาแบบ silence but deadly (เงียบแต่อันตราย) เขาไม่ได้มา fanfare (ประโคม) เขาตรงกับคาแร็คเตอร์ของอาจารย์เอมแบบครบเลย

พอมาทำสยองขวัญท้าทายไหม

-ถ้าเราลองทำอะไรครั้งแรกในชีวิตมันก็ต้องท้าทาย ทุกอย่างในเรื่องเป็นจุดทดสอบของทีมงาน แต่ Key Message ของ SLR ก็อยู่ในเรื่อง ก็อยากให้สนุกกับมัน เพราะหนังก็ทำเพื่อความบันเทิงเอาใจคนที่ชอบแนวนี้ ถามว่าเรากดดันไหม ผมกับเอ็ดเป็นคนที่ไม่อยากทำหนังจากมุมของเราอย่างเดียว ในทีมต้องมีการรวมไอเดียหลากหลายเพื่อให้สำเร็จและนำพาเรื่องดี ๆ เรื่องหนึ่งไปสู่ผู้ชมให้ได้

ความโดดเด่นของSLR

-ความสยองขวัญเรามีแน่ ๆ แต่เราต้องการทำให้แตกต่างออกไปในมุมมองที่แปลกใหม่ ผมกับเอ็ดมองว่าหนังเรื่องนี้เป็นแนวความขัดแย้งภายในของมนุษย์ เป็น Psychological Thriller ไม่ได้มีแต่ Horror อย่างเดียว ก็อยากให้ทุกคนมาชมหนังเรื่องนี้ที่สนุกและน่ากลัวด้วย และอยากให้สนับสนุนหนังไทย มาดูวิสัยทัศน์ของหลาย ๆ คนที่ร่วมทำหนังเรื่องนี้กันครับ

 

 

ผู้กำกับเอ็ด-วุฒิชัยวงศ์นภดล

ก่อนหน้านี้เคยผ่านงานกำกับภาพยนตร์มาก่อนหรือเปล่า

-เคยกำกับภาพยนตร์ดราม่า “หลง” ทางทรู ออริจินัล ปี 2012 จากนั้นก็ไปทำงานเกี่ยวโปรดักชั่นที่เราถนัด แต่ระหว่างทางก็รู้สึกอยากทำหนัง เวลาว่างก็จะคุยกับผู้กำกับ มาร์ค-เลิศศิริ บุญมี เกี่ยวกับหนัง “SLR” มาตลอด (Cluster Creative Entertainment) ของ สสว.  จนกระทั่งมีโอกาสได้มาคุยงานกับ เอ็ม พิคเจอร์ส  ก็พัฒนาบทอยู่พักใหญ่จนในที่สุดก็ได้มาเป็น SLR

ทำไมถึงเลือกกำกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญ

-เวลาเราทำหนัง เราจะเริ่มจากไอเดียที่คลิกก่อน เราเริ่มจากความเชื่อเก่า ๆ คนโบราณจะเชื่อว่าอย่าถ่ายรูปเพราะไม่อย่างนั้นจะดูดวิญญาณไป ผมกับมาร์คก็คิดกันว่าถ้าเรามีกล้องดูดวิญญาณจริง ๆ จะเป็นอย่างไรก็เลยพัฒนาเรื่องราวมาจากจุดนั้น ในส่วนของบทปรับกันมา 6 ร่างเพื่อให้สมบูรณ์มากที่สุด

ในส่วนของนักแสดงทำไมถึงเลือกนนน-กรภัทร์,เฌอปราง,ศดานนท์และอ้น-นพพันธ์

-ตอนแคสท์ติ้ง ฝ่ายแคสท์ติ้งส่งนักแสดงหญิงมาให้ผมหลายคนเลย หนึ่งในนั้นมี เฌอปราง ซึ่งผมและมาร์คตัดสินใจเลือกเขาเพราะรู้สึกว่าเฌอปรางสามารถเข้าถึงสิ่งที่ไม่ได้บอกในบท แต่เขาเข้าใจว่าตัวละคร “น้ำ” กำลังจะเจออะไร เขาเข้าถึงคาแร็คเตอร์ตัวละครที่เขียนไว้ ไม่คิดว่าเราจะได้เห็นในตอนแคสท์ติ้ง มีสิ่งที่ทำให้เราเซอร์ไพรส์  ในส่วนของ นนน-กรภัทร์ เราเห็นเขาในแง่มุมของความพยายาม ซึ่งมันตรงกับตัวละคร “แดน” แดนจะมีความพยายามในการเอาชนะความลำบากอะไรบางอย่างในเรื่อง นนนมีความต่อสู้ให้เราได้เห็นครับ

ศดานนท์ มาแคสท์เป็น “เกรท” และ “แดน” เขาเล่นได้ดีทั้ง 2 ตัวละครเลย  แต่เราเลือกให้เขาเป็นเกรท เพราะความ Flexible ทำให้เรารู้สึกว่าเขาสามารถเชื่อมและสนับสนุนน้ำกับแดนได้ ศดานนท์จับให้เล่นอะไร เขาเล่นได้หมด ตัวละคร “อาจารย์เอม” รับบทโดย อ้น-นพพันธ์ ทางแคสท์ส่งทั้งผู้หญิงและผู้ชายเข้ามา ภาพแรกของเราที่วางเอาไว้คืออาจารย์ที่ภาพลักษณ์ภายนอกดูดี เห็นแล้วน่าหมั่นไส้ในทันที ซึ่งอ้นเห็นครั้งแรกเขาดูเป็นแบบนั้นด้วยคาแร็คเตอร์ที่เราให้เขาทดสอบ เราก็เลือกอ้นครับ

หลังจากร่วมงานกันนักแสดงแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง

-เฌอปรางเป็นคนเตรียมการบ้านทุกครั้ง เขาจะสอบถามความรู้สึกของตัวละครที่จะต้องเข้าฉากในวันต่อ ๆ ไป ในส่วนของ นนน อย่างที่บอกเราเลือกเขาจากความพยายาม เวลาเราทำงานด้วยกัน เราจะไม่แสดงตัวว่าเป็นผู้กำกับ เราจะคุยแบบเพื่อน หลอกตีสนิทด้วยการคุยเรื่องเชียร์บอล เราเชียร์กันคนละทีม เพื่อเป็นการละลายพฤติกรรม ทำให้การทำงานของเราไหลลื่น และเขาก็ทำได้ดีในสิ่งที่เขาได้รับมอบหมาย ในส่วนของ ศดานนท์ เขาเก่งและนำเสนอสิ่งที่เราอยากจะเล่าในมุมเซอร์ไพรส์ได้ สมมติเราขอเขาไป 5 แต่เขาเล่นแบบทะยานไป 7 หรือบางทีก็ 10 เลย

มีการเล่าเรื่องให้น่าสนใจอย่างไร

-ก็ต้องมีการปรับและจับจุดให้ได้ว่าจะทำให้ผู้ชมกลัวอย่างไรดี เราก็มีการศึกษาเรื่องนี้ด้วย

นิยามความหลอนของ“SLR”

-เป็น “ปีศาจ” ผสม “จิตวิทยา” เราเล่นกับจิตใจของตัวละครในเรื่อง

ฉากที่ยากที่สุด

-น่าจะเป็นฉากที่มี CG เรากับฝ่ายเทคนิคต้องทำการบ้านกันค่อนข้างเยอะกว่าจะได้ภาพที่เราพอใจ แต่ต้องเข้าใจในข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างระหว่างสิ่งที่ทำได้และสิ่งที่เราต้องการ มันก็โอเคอยู่ ทีมของเรามีฝีมือด้านนี้ เขาทำได้เนียนเหมือนกัน โชคดีเราได้ทำงานกับคนเก่ง และแนะนำการถ่ายทำให้ออกมาได้ตรงกับสิ่งที่เราวาดภาพเอาไว้ในหัว

คิดว่าSLR โดดเด่นจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่นอย่างไร

-ผมคิดว่าน่าจะเป็น Starting Concept เพราะผูกกับความเชื่อเก่า ๆ ซึ่งเป็นจุดร่วมที่เข้าถึงคนไทยได้ ถามว่าหนังเรื่องนี้มีเสน่ห์ตรงไหน ผมคงบอกไม่ได้ว่ามันอยู่ตรงไหน ต้องให้คนดูเป็นคนตัดสิน แต่เรามีบทที่ตั้งใจจะทำประมาณนี้ และคิดว่าคนดูน่าจะสนุกและเข้าใจไปกับมันได้

 

 

นนน-กรภัทร์เกิดพันธุ์รับบทแดน

เคยเล่นหนังมาก่อนไหม

-ก่อนหน้านี้เคยเล่นหนังเวียดนามมาก่อน “SLR” เป็นหนังไทยเรื่องแรกของผมครับ

ตอนมาแคสท์เรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง

-ตอนที่มาเจอทีมผู้กำกับ เป็นแคสท์ครั้งที่ 3 แคสท์ครั้งแรกเพื่อวางคาแร็คเตอร์ ครั้งที่ 2 คือจัดเคมี แคสท์ติ้งครั้งที่ 3 ฝ่ายแคสท์จะเอานักแสดงที่เขาคิดว่าเคมีเข้ากันมา 3 คน คาดว่าน่าจะมีหลายเซ็ท เพื่อให้ผู้กำกับพิจารณาว่าเซ็ทไหนที่เคมีเข้ากันมากที่สุด การแคสท์ของเขาใช้เวลานานและหลายครั้ง เหนื่อยระดับหนึ่งเลย ทีมงานนี้ทำงานละเอียดมาก

ร่วมงานกับศดานนท์ก็มีรางวัลการันตีขณะที่เฌอปรางก็เป็นซุปตาร์ระดับหนึ่งเราเป็นอย่างไรบ้าง

-ผมเองก็ได้รางวัลสายซีรีส์นะ (หัวเราะ) แต่พอถ่ายหนังไปได้ 2-3 คิว ผมรู้แล้วว่าคนละแนวกับซีรีส์เลย มันยากตรงที่ ถ่ายหนัง 3 วัน ถ่ายซีรีส์ 4 วัน มันเลยทำให้ผมไม่เสถียร เลยต้องมีแอ็คติ้งโค้ชมาช่วยด้วย การแสดงหนังและซีรีส์ เป็นการสื่อสารเหมือนกัน แต่เป็นคนละแพลตฟอร์ม เวลาเล่นหนังใช้ energy คนละแบบ หนังต้องเล่นแบบอินเนอร์จากข้างในเยอะ แต่ห้ามปล่อยออกมาเยอะเพราะจะไม่เนียน

คาแร็คเตอร์แดน เป็นอย่างไรบ้าง

-เป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจและพยายาม เป็นคนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในทางที่เลือก ในเรื่องผมต้องเรียนด้านถ่ายรูปเพื่อหาเลี้ยงชีพ ก็ถูกกดดันจากครอบครัว เราก็พยายามจะทำเพื่อพิสูจน์ให้ครอบครัวเห็นด้วยวิธีการที่มีทั้งดีและไม่ดี “แดน” มีความใกล้เคียงกับ นนน บ้างไหม ก็มีเรื่องความทะเยอทะยาน อยากประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองรัก ผมเป็นคนที่ไม่ได้ตามมาตรฐานสังคมเหมือนกัน อย่างครอบครัวของผมก็ไม่ได้กดดันนะ แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่าอาชีพการแสดงไม่มั่นคง ช่วงที่ผมพุ่งเป้าอยากเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์ ครอบครัวก็จะสนับสนุนหาที่เรียนพิเศษโน่นนั่นนี้ให้เต็มที่ แต่พอผมเปลี่ยนใจมาเรียนนิเทศศาสตร์ ครอบครัวก็จะอ้าว!เรียนทำไม ทำงานในวงการนี้เดี๋ยวก็เรียนรู้ได้เอง ช่วงนั้นก็มี conflict เล็ก ๆ กับที่บ้านเหมือนกัน ผมก็เอาวัตถุดิบประสบการณ์ตรงนี้มาใช้ในหนังเรื่องนี้เหมือนกัน

ต้องมาร่วมงานกับอ้น-นพพันธุ์ซึ่งเป็นอาจารย์สอนการแสดงด้วยกดดันไหม

-นิสัยเสียของผมคือเวลาเจอคนเก่งผมไม่กดดัน เราสนุกไปกับเขามากกว่า เขาเล่นมาเราเล่นกลับ ไม่รู้ว่า energy ที่เราส่งไปมันมากหรือน้อยไป แต่เรารู้แค่ว่าต้องส่งไปก่อน เหมือนเวลาเราเจอคนเก่ง เราเป็นประตู ส่วนคนที่ยิงลูกเป็นโรนัลโด เขายิงมา 20 ลูก เราก็พยายามรับให้ได้ ถ้าเป็นคนอื่นอาจนอยด์ แต่เราแบบจะยิงก็ยิงมา พร้อมตั้งรับ ถึงจะมีฟีลเครียด ๆ ผสมไปบ้าง

 

ร่วมงานกับผู้กำกับพี่มาร์คและพี่เอ็ดเป็นอย่างไรบ้าง

-พี่มาร์คจะอธิบายสิ่งที่เขาต้องการชัดเจน พี่เอ็ดมีความเป็นมนุษย์ เข้าใจคนหลากหลายรูปแบบ บางฉากอารมณ์ที่เราเล่นไม่ชัดกับที่เขาต้องการ เขาก็จะบอกว่าให้ลองเพิ่มตรงนั้นตรงนี้ไปหน่อยซิ ซึ่งพอเพิ่มไปปุ๊บมันก็ตรงกับสิ่งที่เขาต้องการและเราเองก็กลับมามองว่าเออ!ใช่ อารมณ์มันควรเป็นแบบนี้นะ

มีฉากไหนที่รู้สึกว่ายากไหม

-ยากทุกฉากเลย ผมบริหารพลังของผมในการทำงานทั้งวันไม่ได้ แต่ละฉากที่ผมเล่นผมใช้พลังไปหมดเลย อาจเป็นเพราะเราไม่มีความรู้ศาสตร์การแสดงหนัง ต้องมาเรียนรู้ใหม่เซ็ทซีโร่เลย เราต้องเรียนรู้ใหม่ สังเกตศดานนท์ พี่เฌอ และพี่อ้น ปรึกษาผู้กำกับตลอดครับ

นิยามSLR เป็นหนังสยองขวัญแนวไหน

- มีความ Coming of Age ที่มีฟีลสยองขวัญครอบ แต่มี Psycological นิด ๆ ด้วย ถามว่าเรื่อง SLR น่าสนใจตรงไหน ตรงที่เล่นกับความเชื่อชุดใหม่ที่ผู้กำกับอยากให้ทุกคนเข้าไปลองสำรวจในโลก SLR ครับ ก็ฝากให้ทุกคนติดตามด้วย ผมทุ่มเทและเหนื่อยร่างแทบขาด ทีมงานนักแสดงทุกคนตั้งใจหมด ก็ไปให้กำลังใจและไปชมกันเยอะ ๆ นะครับ

 

 

เฌอปรางอารีย์กุลรับบทน้ำ

ทราบมาว่าแคสท์ติ้งเรื่องนี้มีวิธีที่ค่อนข้างแปลก

-ตอนมาแคสท์กับผู้กำกับ พี่เขาให้กล่องมา 1 กล่อง เหมือนกล่องแพนโดร่า มีโอกาสตายและรอดเท่า ๆ กัน ถ้าเปิดผิดก็ตาย เปิดถูกก็จะเจอกุญแจ เฌอก็แก้ปัญหาแบบค่อย ๆ คิด ซึ่งก็ไปตรงกับคาแร็คเตอร์ของน้ำที่ทีมผู้กำกับต้องการค่ะ

น่ารักแบบนี้แต่ทำไมได้เล่นแต่หนังแนวสยองขวัญ

-เฌฮก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่เรื่องก่อนหน้านี้เล่นทั่วไปไม่ได้เจอ CG แต่เรื่องนี้เจอจัง ๆ เต็ม ๆ เป็นมิติใหม่ของเฌอมาก ๆ ว่าเขาทำงานกันอย่างนี้นี่เอง ใช้จินตนาการเยอะมาก และได้สกิลล์การแสดงได้เยอะเหมือน เพราะปกติเฌอจะได้เรียนการแสดงก็ต่อเมื่อได้เล่นหนังหรืองานละคร

บทน้ำ ที่ได้รับเป็นยังไงบ้าง

-เป็นเวิร์คกิ้ง วูแมน กลัวแต่ก็กล้าเผชิญหน้า และแต่งตัวมีสไตล์มากกว่าตัวจริงของเฌอ (หัวเราะ) น้ำเป็นคนกระฉับกระเฉงเหมือนเฌอในเวอร์ชั่นเวลาเป็นอาเจ๊สั่งงาน เวลาแสดงเป็นน้ำจะนึกถึงเวอร์ชั่นตัวเองตอนเป็น Head ของงาน บทเรื่องนี้โตขึ้นกว่าเรื่องอื่น ๆ ที่เคยแสดงไม่ว่าจะเป็นหนังหรือซีรีส์ น้ำอยู่ในวัยสตาร์ทอัพ มีความทะเยอะทะยาน ถามว่าใกล้เคียงกับตัวเฌอไหม ไม่ไกลและไม่ใกล้มาก อย่างถ้าเฌอได้รับมอบหมายโปรเจ็กต์อะไร เราก็จะเป็นแบบน้ำ แต่ในเรื่องนี้น้ำจะมีสิ่งที่อยากทำหลายอย่าง มีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน น้ำขี้เล่นและมีความจริงจัง แต่สิ่งที่หนูไม่เคยทำในชีวิต แต่น้ำทำก็คือแอ๊วผู้ชายค่า(หัวเราะ) โอ้ว!แม่เจ้า ตอนเล่นฉากนี้แอบเขินข้างใน แต่ตอนแสดงออกมาก็ต้องชิลล์ ๆ เหมือนเป็นตัวเองที่สุด

ที่บอกว่าได้พัฒนาการแสดงมากขึ้นคิดว่าพัฒนาตรงไหน

-คือได้เล่นกับจินตนาการค่ะ เคยแต่เรียนมานิดหน่อย เพิ่งมาได้ใช้จริงแบบเต็ม ๆ ในเรื่องนี้เลย และที่ผ่านมาส่วนใหญ่รับบทนิ่ง ๆ แต่เรื่องนี้ไม่นิ่งและเป็นผู้หญิงลุย ๆ

ร่วมงานกับนนนและศดานนท์เป็นอย่างไรบ้าง

-เพิ่งมาเจอกันเรื่องนี้เรื่องแรก ตอนที่แคสท์ติ้งรอบที่ 3 มาเจอกับ 2 คนนี้ เฌอก็รู้สึกว่า เฮ้ย! 2 คนนี้เราทำงานด้วยได้ ไม่ต้องพยายามที่จะเล่นและรับอารมณ์จากเขา เรารับ-ส่งกันแบบชิลล์เลย ศดานนท์มีรางวัลการันตี เฌอรู้สึกว่าเวลาศดานนท์อินแล้วจะไปเลย บางทีไปไกลด้วย เวลาว่างมีแบบไปนั่งสมาธิกับพื้นเลย ชอบเรียนรู้ตัวเองจากภายใน เวลาเห็นศดานนท์เล่นกันนนน เฌอรู้สึกนั่งปรบมือในใจเชียร์ให้เขาเล่นไปอีกใส่ไปเลย ด้นสดกันได้สนุกจริง ๆ (หัวเราะ)  นนนจะขี้เล่นขี้แกล้ง แต่เวลางานก็มีความตั้งใจสูงค่ะ

การทำงานกับผู้กำกับพี่มาร์คและพี่เอ็ด

-ฟังเขาพูดภาษาอังกฤษกันสนุกดี อย่างพี่มาร์คถ้าสื่อสารกับเขาเป็นภาษาอังกฤษจะคล่องกว่า เฌอก็ได้รื้อฟื้นภาษาอังกฤษของตัวเองไปด้วย ถือว่าเป็นกำไรที่ได้นอกเหนือจากการทำงาน ทั้ง 2 คนก็จะดูแลคนละด้าน แต่หน้ามอนิเตอร์เขาช่วยกันเวิร์คว่าต้องการอะไรอีกบ้าง เวลาแสดงเขาให้หนู improvise เองเลย แต่มีบางจังหวะที่ตัวละคร “น้ำ” ยังไม่ลงตัว ทางผู้กำกับก็จะให้ปรับ พี่เขาชัดเจนดีเวลาต้องการอะไร

เรื่องนี้แตกต่างตากหนังสยองขวัญเรื่องอื่นยังไง

-เป็นหนังสยองขวัญที่มีแอ็คชั่นด้วย ซึ่งเฌอถึงกับช็อคที่เล่นกันเบอร์นี้เลยเหรอ มีกระจกแตกจริง ประตูไม้โดนขวนจามจริง ๆ หนูต้องหลบในห้องเล็ก ๆ กับศดานนท์ ต่างคนต่างกลัวกันจริง ๆค่ะ

 

 

นนท์-ศดานนท์ดุรงคเวโรจน์รับบทเกรท

บทบาทที่ได้รับในSLR

-เป็น “เกรท” ครับ เป็นวัยรุ่นที่กำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัย เป็นคนเฮฮา ขี้เล่น และมีความรู้สึกบางอย่างกับ “น้ำ”

คิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจอย่างไรถึงรับเล่นบทนี้

-หนังเรื่องนี้ค่อนข้างหลุด ๆ จากที่เราเคยแสดงมา ค่อนข้างฮา ๆ เป็นหนังผีที่แปลกใหม่ มีความเป็นแฟนตาซี ก็เลยคิดว่าน่าลองนะ ทางแคสท์ติ้งหลายครั้งมาก สุดท้ายก็ได้บท “เกรท” ครับ

เหมือนพี่มาร์คและพี่เอ็ดประทับในนนท์ตอนแคสท์ติ้งเพราะเราเล่นได้ตลกร้าย

-จำได้ว่าเขาให้กล่องมา 1 ใบ มีกุญแจ มีโอกาสรอดและไม่รอด 50:50 ผมก็ลองกับนักแสดงคนอื่น ๆ อีก 1 คู่ ตอนแรกก็รู้สึกว่าจะทำอะไรกับกล่อง ตัวผมตื่นเต้นกับมัน

ในฐานะที่ศดานนท์ดีกรีเป็นนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากสุพรรณหงส์ทำไมถึงยังยอมแคสท์งาน

-มันเป็นกระบวนการที่ยุติธรรมดี และการได้ลองอะไรใหม่ ๆ มันสนุก การแคสท์ติ้งเป็นอะไรที่สด เรารู้สึกอะไรก็ทำได้เลย พอได้เลือกให้มาเล่นเป็น “เกรท” จริง ๆ ก็มีการปรับบทให้ เกรท กวนตีนแบบตลกขึ้น ไม่เหมือนตอนแคสท์ติ้ง ตอนที่เปิดกล้องผมก็ต้องปรับจูนตัวเองมากขึ้น จนหาจุดที่ลงตัวก็มันส์เลย พอเรารู้ว่าเราเล่นกับใครยังไงได้บ้างก็สนุกเลย

มีการทำการบ้านกับบทเกรท บ้างไหม

-ในบท “เกรท” จะอายุประมาณ 22 ปี แต่ก็ต้องมีความเป็นเด็ก เขาชอบปาร์ตี้  ซึ่งเราไม่ใช่คนแบบนั้น เพราะตั้งแต่โควิดก็ไม่ได้เที่ยวกลางคืนเลย (หัวเราะ) เกรทเป็นเด็กบ้านรวย แต่ความฝันของเขาคืออยากให้พ่อยอมรับ มีความทะเยอทะยานตรงนั้นอยู่มาก ถามว่ามีความซับซ้อนไหม ผมรู้สึกว่าไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น แต่เป็นคนที่รู้ว่าตัวเองมีอะไรรองรับอยู่แล้ว แต่อยากทำอย่างอื่น สุดท้ายถ้าพังเกรทก็แค่กลับมาอยู่จุดที่ตัวเองมีฟูกรองรับ เขาจะเป็นแบบนี้ในทุกเรื่องของเขา

มาเล่นหนังสยองขวัญครั้งแรกแตกต่างจากแนวอื่นไหม

-ผมเคยเล่นหนังแนวนี้ให้กับรุ่นพี่เพื่อเป็นโปรเจคส่งอาจารย์ มันให้อารมณ์คล้าย ๆ กัน แต่ SLR เราต้องโต้ตอบกับผีมากขึ้น ความเป็นบางอย่างที่เราไม่เข้าใจ อะไรบางอย่างที่พยายามเข้าหาเรา เหมือนเราควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่มันทวีคูณขึ้นไปอีก เรื่องนี้เข้มข้นขึ้นเยอะครับ  

นิยามSLR

-เป็นแอ็คชั่นทริลเลอร์ เป็นหนังที่เกิดขึ้นจากการกระทำมาก ๆ มีสืบสวนเยอะด้วย

คิดว่าความสนุกของบทมันอยู่ตรงไหน

-การที่มีเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ เหมือนทุกวันที่มีเพื่อนเป็นวันที่ดีสำหรับเกรท เป็นฟีลที่ผมชอบที่สุด เขาไม่โดดเดี่ยว

ความประทับใจในการร่วมงานกับเฌอปรางและนนน

-หลัก ๆ เลยน่าจะเป็น นนน เราสนิทกันในเรื่องและชีวิตจริงก็คุยกันได้หลายเรื่อง มีอะไรบางอย่างที่จูนติดตั้งแต่ตอนแรก เขาดูจริงใจ และเข้าถึงปัญหาคนอื่นได้ดี ส่วนพี่เฌอปรางก็ร่าเริงตลอดเวลา ดูสนุกกับการทำงานและลองทำอะไรใหม่ ๆ เวลาเข้าซีนกับ 2 คนเหมือนเราเจอเพื่อนใหม่ทุกวัน

การทำงานกับผู้กำกับ2 คนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

-ด้วยความเป็นผู้กำกับใหม่ มันก็มีความไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมรู้สึกขอบคุณที่พี่ ๆ เขาเชื่อในเซนส์ของตัวเอง บางเรื่องอาจเสียเวลาในการคลำทาง แต่พี่เขาก็มีความสุข

ฉากร่วมซีนที่ประทับใจ

-คงเป็นคิวแรก ๆ ที่ผมตื้อ ๆ อยู่ ทำตัวไม่ค่อยถูก ซีนที่ประทับใจคือทุกคนเข้ามาช่วยและให้คำแนะนำ เป็นความประทับใจแรกที่ดี

ฉากที่ยากล่ะ

-ต้องเล่นกับ CG ต้องเล่นกับลม สิ่งที่มองไม่เห็น มันยากที่ว่าเราเล่นได้ตามความต้องการของผู้กำกับ สำหรับผมทุกวันคือวันใหม่ บางวันผมก็พร้อม และบางวันผมก็ไม่พร้อม ปัจจัยรอบตัวเราเปลี่ยนทุกวัน

หนังเรื่องนี้น่าสนใจยังไงสำหรับเรา

-SLR เป็นหนังผีที่ไม่ใช่ผี มีความแฟนตาซี คนที่อ่านหนังสือ Metrology เรื่องซาตาน ตัวผมรู้สึกสนใจแนวนี้ก็เลยรู้สึกว้าว! ตอนที่รู้ว่าได้เล่นเรื่องนี้ครับ และมันหายากที่จะมีหนังที่ปล่อยให้เด็กจัดการปัญหาต่าง ๆ เอง รู้สึกว่าสิ่งที่มันแปลกใหม่คือ ตัวร้ายเท่ พี่อ้นเล่นเป็นอาจารย์ที่มีความอันตรายซ่อน ซึ่งปกติครูต้องเป็นที่พึ่งของเด็ก แต่เขากลับไม่ได้เป็นแบบภาพที่เห็นครับ 

 

อ้น-นพพันธ์บุญใหญ่รับบทอาจารย์เอม

มาร่วมแสดงใน“SLR” ได้อย่างไร

-ฝ่ายแคสท์ติ้งบอกว่ามีบทที่น่าสนใจ ก็เรียกให้เรามาแคสท์ครับ ท้าทายดีตรงที่บทนี้จริง ๆ ต้องเป็นผู้หญิง อันนี้มันท้าทายมาก แต่สุดท้ายก็ปรับเป็นผู้ชาย

ผู้กำกับทั้ง2 คนพร้อมใจกันบอกว่าอ้นดูนิ่งแต่มีอะไร

-จำไม่ได้เลย(หัวเราะ) จำได้แค่ว่าเราเล่นไปตามที่เขาอยากได้ ด้วยบริบทแล้วเราก็เล่นไปตามสิ่งที่บทเรียกร้อง เล่นตามสัญชาตญาณ  ตอนที่รู้ว่าได้รับเลือกก็ดีใจ บทนี้ไม่ได้เบาด้วย แต่ผมไม่ได้กังวลอะไรเท่าไหร่ในเชิงการทำงาน งานดูเยอะแต่เรารับมือได้ แต่ที่น่าสนใจคือเราต้องไปทำงานกับคนใหม่ ๆ เราก็เลยเสนอผู้กำกับไปว่าขอเวิร์คช็อปกับน้อง ๆ ได้ไหม ผมสอนการแสดงอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้ต้องการสอนน้องนะ เราอยากแบ่งปันไอเดียวิธีการทำงานเพื่อการถ่ายทำมากกว่า เพราะผมสอนการแสดงเพื่อการถ่ายทำ โบนัสที่เราได้ก็คือเคมีในการถ่ายทำภาพยนตร์ ในเมื่อผมจะต้องเป็นอาจารย์ของพวกคุณในเรื่องอยู่แล้ว ผมแค่มาเป็นอาจารย์สอนพวกคุณก่อนสร้างแบ็คกราวน์

บทอาจารย์เอม เป็นอย่างไรบ้าง

-เขาเป็นคนพิเศษ สิ่งที่เขาต้องการโชว์สถานะ เป็นศิลปิน มีคลาส เป็นคนรวย เพราะเป็นสิ่งที่มนุษย์ใฝ่หาที่จะเป็น คนเราอยากเด่น มีชื่อเสียง รวย คน ๆ นี้เป็นสิ่งนี้ มีหน้าที่เหมือนเป็นคนขายประกันคอยชวนเชื่อคนให้มาซื้อประกัน เวลาแสดงผมจะไม่เล่นออกมาซับซ้อน อาจารย์มีข้อจำกัด จริง ๆ เขายิ่งใหญ่มากแต่ยังเป็นทาสของร่างกาย ปวดฉี่ก็ต้องฉี่ หิวก็ต้องกิน เป็นเลเยอร์ที่จะเล่นยังไงดี มองมนุษย์เป็นสิ่งที่อ่อนแอและต่ำกว่า เราเป็นอีกสปีชี่ส์หนึ่งที่เหนือกว่า

ในฐานะที่เป็นอาจารย์ที่ได้ให้คำแนะนำน้องเห็นการทำงานของพวกเขาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

-น้อง ๆ ทุกคนน่ารัก มีความคล้ายกันในเชิงความทุ่มเท ทุกคนชัดเจนมากว่าอยากให้ตัวเองเต็มที่กับสิ่งนี้มาก ๆ เราในฐานะคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเขาในเชิงอายุ เราก็แนะนำเขาในเวลาที่เขาต้องการ ทุกคนบินได้ดีในเวลาของเขา เวลาดูหน้ามอนิเตอร์ เขาสามารถคลิกกันในฐานะที่เป็นเพื่อน ดูแล้วน่ารักมาก

ต้องมาเล่นหนังสยองขวัญอ้นคือคนที่ทำให้เกิดเรื่องราวต่างขึ้นเจอบทหนักแบบนี้กดดันไหม

-จริง ๆ มันควรจะต้องกดดันนะ แต่มันเป็นเรื่องของบท บทก็ทำงานของมัน เราก็ทำงานของเรา เราแค่เล่นไปตามบริบทของมัน ความกดดันสำหรับผมเกิดขึ้นเวลาที่ผู้กำกับยังได้ภาพที่ไม่พอใจ แต่ผมแฮปปี้นะ เราเป็นนักแสดงเรามีหน้าที่ทำให้ผู้กำกับพอใจ จะเอา 100 เทกก็ต้อง 100 เทก อย่างน้อยต้องทำให้ถูกใจเขา เราต้องงัดความสามารถออกมาให้ได้ เรื่องนี้มี 2-3 ฉากที่เราต้องใช้ร่างกายเคลื่อนไหว ซึ่งมันไม่มี CG ช่วยได้ คุณต้องทำเอง เพราะเราต้องเล่นด้วยร่างกายและหน้าเห็นถึงความดิ้นรนและทรมาน ฉากยาก ๆ ถ่ายหลายคัทเพราะต้องเก็บหลายมุม อีกนิดนึงก็เบรกแดนซ์ได้แล้ว

การร่วมงานกับผู้กำกับใหม่เป็นอย่างไรบ้าง

-ตรงประเด็น ราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร บทที่เขาให้มาก็เคลียร์แล้ว แต่บางทีพอเขาดูหน้ามอนิเตอร์แล้วรู้สึกว่าไม่พอ เขาก็จะขอให้เล่นเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้มันมีมิติหนังดูกลมขึ้น

 SLR มีคอนเซ็ปต์สร้างจากความเชื่อ

-ผมไม่ได้มองแค่จุดที่หนังเรื่องนี้สร้างจากความเชื่อ แต่ผมมองในแง่ที่ว่าคนเราเวลากระทำอะไรไปก็มักทำให้เกิดผลลัพธ์ต่าง ๆ ขึ้น และคนเรามักสร้างเหตุผลให้กับตัวเองเวลาต้องการอะไรสักอย่าง การกระทำกับผลลัพธ์เป็นสิ่งที่น่าสนใจว่าความต้องการของคนเรามันอยู่ตรงไหน คนให้ค่ากับอะไรถึงจะเป็นมนุษย์ที่มีค่า คนเรามักไปจับต้องสิ่งต่าง ๆ บางทีก็จับผิด บางทีก็จับถูก แน่นอนว่าถ้าจับแล้วคนอื่นเดือดร้อนคือการจับผิด

คิดว่าเรื่องนี้แตกต่างจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่นอย่างไรบ้าง

-คิดว่า choice ที่เราทำและเลือก การให้ค่ากับอะไรที่ผิด ๆ ซึ่งผมไม่สามารถพูดว่าอะไรผิดหรือถูก เพราะไม่ใช่หน้าที่ของผม หนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญที่ตั้งคำถามกับทิศทางสังคมเชิงหนุ่มสาวว่าเขาจะเติบโตไปทางไหน และมีทางเลือกสุดขั้วอยู่ในเส้นทางชีวิตของเขา เส้นทางที่เขาเลือกคือคำตอบว่าคน ๆ นั้นให้ค่ากับอะไร อย่าลืมว่าทุกคนถ่ายรูปตัวเองเพื่อให้คนอื่นเห็นในมุมที่ตัวเองต้องการพรีเซนต์ว่าตัวเองเป็นใคร ซึ่งผมเองก็ทำ เราถ่ายรูปตัวเองเพื่อให้ตัวเองถูกเห็นในมุมมองอะไรสักอย่าง แต่ประเด็นคือว่านั่นคือการให้ค่าตัวเองหรือเปล่าและอยู่ที่ไหนกันแน่

 

 สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่ 

เช็ครอบฉายและซื้อตั๋วราคาพิเศษ คลิกที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...