TISCO แจงงบครึ่งปีแรก ทำกำไร 3.28 พันลบ. วูบ 5.7% เหตุรายได้ลด-ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น
TISCO แจงผลประกอบไตรมาส 2/68 มีกำไรสุทธิ 1,643.52 ล้านบาท ลดลง 6.2% เหตุรายได้ดอกเบี้ยลด ตามนโยบายอัตราดอกเบี้ย ฉุดกำไรครึ่งปีแรกปี 68 เหลือ 3,286.89 ล้านบาท ลดลง 5.7%
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCOรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่า กำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/68อยู่ที่ 1,643.52ล้านบาท ลดลง 6.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้รวมที่อ่อนตัวลง รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 1.7% ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และการลดภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินปรับลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยชะลอตัวลง 5.5%จากธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนในภาวะที่ตลาดทุนผันผวนรุนแรง รายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์อ่อนตัวลง 4.6%ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ลดลง รายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานธุรกิจจัดการกองทุนชะลอตัวลง 0.5%จากการออกกองทุนใหม่ที่ลดลง อีกทั้ง กำไรจากเงินลงทุนที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์กลับมาเติบโต 11.7%จากการฟื้นตัวของธุรกิจนายหน้าประกันภัย สอดคล้องกับปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ปรับตัวดีขึ้น ในงวดนี้บริษัทตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.0% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ตามแผนการตั้งสำรองกลับสู่ระดับปกติในปีนี้ ในขณะที่มีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 7.0%
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า กำไรสุทธิของบริษัททรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า โดยรายได้รวมเติบโต 2.4%แต่ถูกชดเชยด้วยค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้นจาก 0.7%มาเป็น 1.0%ของสินเชื่อเฉลี่ย สำหรับรายได้ดอกเบี้ยสุทธิทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า
ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยขยายตัว 8.4%สาเหตุหลักมาจากค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ จากการฟื้นตัวของธุรกิจนายหน้าประกันภัย ประกอบกับบริษัทรับรู้กำไรจากเงินลงทุนที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ค่าธรรมเนียมธุรกิจตลาดทุนยังคงอ่อนแอ ทั้งธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจจัดการกองทุน อ่อนตัวลง 18.3% และ 8.5% ตามลำดับ
สำหรับกำไรสุทธิงวดครึ่งปีแรกปี 2568 ของบริษัทอยู่ที่ 3,286.89 ล้านบาท ลดลง 5.7% เมื่อเทียบกับงวดครึ่งปีแรกปี 2567 สาเหตุมาจากรายได้รวมที่อ่อนตัวลง 1.7% พร้อมด้วยการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.8% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ตามแผนการตั้งสำรองกลับสู่ระดับปกติ
ส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 1.9% จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และการลดภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยชะลอตัว 1.4% จากรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจ และผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ที่ลดลง ในขณะที่ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นจากรายได้อื่น และค่าธรรมเนียมพื้นฐานของธุรกิจจัดการกองทุนเพิ่มขึ้นจากการออกกองทุนใหม่