เกร็ดความรู้ ! กลไกระดับทวิภาคีไทย-กัมพูชา ด้านชายแดน
The Bangkok Insight
อัพเดต 14 มิ.ย. เวลา 02.59 น. • เผยแพร่ 14 มิ.ย. เวลา 02.59 น. • The Bangkok Insightทีมโฆษก ทบ. แจง"กลไกระดับทวิภาคีไทย-กัมพูชา ด้านชายแดน" ทั้ง 3 ระดับ JBC, GBC และ RBC เครื่องมือสำคัญ ช่วยให้ทั้งสองประเทศบริหารจัดการพรมแดนร่วมกัน ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้
ทีมโฆษก ทบ. มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับ "กลไกระดับทวิภาคีไทย-กัมพูชา ด้านชายแดน" มาฝากทุกท่าน เริ่มจากความเป็นมาและความสำคัญ ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ (14 มิ.ย.68)
ราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกันยาวกว่า 800 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดในภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย การมีพรมแดนยาวดังกล่าวส่งผลให้เกิดประเด็นที่ต้องการการบริหารจัดการร่วมกันในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง การพัฒนาพื้นที่ชายแดน และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในพื้นที่ติดชายแดน
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองประเทศจึงได้ร่วมกันจัดตั้งกลไกความร่วมมือระดับทวิภาคีขึ้น เพื่อให้สามารถบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย โดยมุ่งเน้นการสร้างสันติภาพและความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน
กลไกความร่วมมือหลักมี 3 ระดับ :
ปัจจุบัน ไทยและกัมพูชามีกลไกความร่วมมือด้านชายแดนร่วมกันใน 3 ระดับหลัก ซึ่งแต่ละระดับมีบทบาทหน้าที่และขอบเขตความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน ได้แก่
1. คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (Joint Boundary Commission - JBC)
เป็นกลไกระดับสูงสุดที่มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกอย่างเป็นทางการ โดยมีภารกิจหลักในการกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนให้ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย
ความก้าวหน้าสำคัญ
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2546 การประชุม JBC สมัยวิสามัญได้เห็นชอบ"แผนแม่บทและข้อกำหนดอำนาจหน้าที่” หรือ Terms of Reference (TOR)
แนวทางดำเนินงาน 5 ขั้นตอน:
1. การพิสูจน์ทราบซ่อมแซมและจัดทำหลักเขตแดน 73 หลัก
2. การจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ
3. การลากแนวที่จะเดินสำรวจ
4. การตรวจสอบภูมิประเทศ
5. วิธีการจัดทำหลักเขตแดน
ความสำเร็จที่ผ่านมาของ JBC
เป็นกลไกที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นเขตแดนอย่างลึกซึ้งและจริงจัง
การดำเนินการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย–กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน–สตึงบท) ณ ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
2. คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC)
เป็นกลไกทวิภาคีระดับสูงของฝ่ายทหารที่มีความสำคัญในการบริหารจัดการด้านความมั่นคงชายแดน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยและกัมพูชาเป็นประธานร่วม
บทบาทหน้าที่หลัก
• หารือและกำหนดแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง
• การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน
• การป้องกันและแก้ไขปัญหาข้ามพรมแดนต่าง ๆ เช่น การค้ามนุษย์ ยาเสพติด การลักลอบข้ามแดน
การดำเนินงาน
การประชุม GBC จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยไทยและกัมพูชาจะสลับกันเป็นเจ้าภาพ
3. คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee - RBC)
RBC เป็นกลไกระดับทวิภาคีของฝ่ายทหาร มีแม่ทัพภาคหรือตำแหน่งที่เทียบเท่าเป็นประธานร่วม เพื่อหารือในระดับพื้นที่ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน:
การแบ่งความรับผิดชอบตามภูมิภาค
ภาคตะวันออกตอนบน
ฝ่ายไทย: กองทัพภาคที่ 1
ฝ่ายกัมพูชา: ภูมิภาคทหารที่ 5
พื้นที่รับผิดชอบ: จังหวัดสระแก้ว
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใต้
ฝ่ายไทย: กองทัพภาคที่ 2
ฝ่ายกัมพูชา: ภูมิภาคทหารที่ 4
พื้นที่รับผิดชอบ: จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์
ภาคตะวันออกตอนล่าง
ฝ่ายไทย: กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด
ฝ่ายกัมพูชา: ภูมิภาคทหารที่ 3
พื้นที่รับผิดชอบ: จังหวัดจันทบุรี ตราด
การดำเนินงาน
การประชุม RBC จัดขึ้นอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยสลับกันเป็นเจ้าภาพ
ประโยชน์และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ด้านความมั่นคง
• ลดข้อขัดแย้งและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในพื้นที่ชายแดน
• เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามแดน
• สร้างความเข้าใจและไว้วางใจระหว่างกองกำลังทหารของทั้งสองฝ่าย
ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนา
• ส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนข้ามพรมแดน
• พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ
• เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนในพื้นที่ชายแดน
ด้านสังคมและวัฒนธรรม
• ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่าย
• อนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรมท้องถิ่นร่วมกัน
• เพิ่มการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและการศึกษา
บทสรุป
กลไกระดับทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชาด้านชายแดนทั้ง 3 ระดับ ได้แก่ JBC, GBC และ RBC เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ทั้งสองประเทศสามารถบริหารจัดการพรมแดนร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กรอบของความร่วมมืออย่างสันติ
กลไกเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความขัดแย้งและสร้างความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในพื้นที่ชายแดนอย่างยั่งยืน และสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาในอนาคต
การทำงานร่วมกันผ่านกลไกเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของทั้งสองประเทศในการสร้างภูมิภาคที่มีสันติภาพ มั่นคง และเจริญรุ่งเรือง โดยใช้การเจรจาและความร่วมมือเป็นเครื่องมือหลักในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ชายแดนร่วมกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มทภ.2 ลั่น! ถ้าจะมาเอาแผ่นดินไทย ก็ต้องดวลกัน (คลิป)
- 'อุ๊งอิ๊ง'เดือด!! บอกหากสถานการณ์ไทย-กัมพูชาลุกลาม เราก็พร้อมทุกประการ!!
- 'แพทองธาร' แจงปมกัมพูชาปิดด่าน ยันไทยไม่ได้ตัดน้ำ-ไฟ คาดเข้าใจผิด
ติดตามเราได้ที่