สภาผู้บริโภค เตรียมฟ้องคดีรถอีวี “เนต้า” ภายในสิงหาคมนี้

หลังจากที่มีกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า “เนต้า” (NETA) เข้าร้องเรียนถึงปัญหาการใช้งานและบริการหลังการขายต่อสภาองค์กรของผู้บริโภค หรือสภาผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก ล่าสุด สภาผู้บริโภคได้จัดประชุมเรื่องการดำเนินคดีแบบกลุ่ม กรณีที่ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเนต้า ครั้งที่ 1 เพื่อหารือเรื่องแนวทางการฟ้องคดีให้ครอบคลุมความเสียหายของผู้บริโภค

“โสภณ หนูรัตน์” หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค กล่าวว่า สภาผู้บริโภคได้เชิญทนายความผู้รับผิดชอบคดีแบบกลุ่มมาประชุมร่วมกับผู้เสียหายที่เป็นแกนนำ เพื่อเตรียมฟ้องคดีแบบกลุ่มกรณีผู้บริโภคได้รับความเสียหายจากการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเนต้า โดยการประชุมในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรับฟังความต้องการของผู้เสียหาย ทั้งนี้ คาดว่ากระบวนการฟ้องคดีจะใช้ระยะเวลาเตรียมการไม่เกิน 30 วัน หรือภายในเดือนสิงหาคมนี้

ด้านว่าที่ร้อยตรีสมชาย อามีน ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้บริโภค กล่าวว่า หลังจากที่ได้ข้อมูลความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ทีมทนายจะประชุมร่วมกับสภาผู้บริโภค เพื่อกำหนดประเด็นเรื่องของการจัดกลุ่มความเสียหายของผู้เสียหายแต่ละประเภท รวมทั้งพิจารณาถึงกระบวนการในการยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่ม โดยต้องคัดเลือกตัวแทนที่จะเป็นผู้ฟ้องคดีในความเสียหายแต่ละประเภท ซึ่งจะต้องมีการประชุมกันต่อไป

โครงการฟ้องคดีแบบกลุ่มนี้เริ่มต้นจากการประชุมหารือร่วมกันระหว่างผู้เสียหาย ทนายความ และฝ่ายคุ้มครองสิทธิของสภาผู้บริโภค เมื่อไม่นานมานี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลปัญหาและความต้องการของผู้บริโภคที่ใช้รถยนต์ NETA ในประเทศไทย ซึ่งจำนวนผู้ร้องเรียนพุ่งสูงอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นหนึ่งในกรณีร้องเรียนที่ใหญ่ที่สุดของปี 2567

ข้อมูลจากสภาผู้บริโภค ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2568 ระบุว่า มีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับรถยนต์ NETA แล้วมากกว่า 220 ราย โดยพบปัญหาหลากหลาย ตั้งแต่การไม่ได้รับป้ายทะเบียนถาวร (ป้ายขาว), ระบบหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ภายในรถมีปัญหา, ศูนย์บริการปิดตัวลงบางแห่ง, ไปจนถึงการขาดแคลนอะไหล่ ทำให้ต้องรอซ่อมนานหลายเดือน ส่งผลให้ไม่สามารถใช้รถได้ตามปกติ ซึ่งกลายเป็นความเสียหายเชิงระบบ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ การบริการหลังการขาย และความเชื่อมั่นต่อแบรนด์

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในจังหวะเวลาเดียวกับที่บริษัท Hozon Auto ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า NETA ในประเทศจีน ได้ยื่นขอล้มละลายต่อศาลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 พร้อมกับการปิดโชว์รูมหลายแห่งในจีน ซึ่งสร้างแรงกระเพื่อมโดยตรงมายังประเทศไทย แม้ฝั่ง NETA ประเทศไทยจะออกแถลงการณ์ว่ากำลังเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ แต่ภาพรวมของความน่าเชื่อถือก็ยังคงตกต่ำลงต่อเนื่อง

ตลอดช่วงปี 2567 ผู้บริโภคจำนวนมากที่ซื้อรถ NETA ตั้งแต่ช่วงปี 2566 เริ่มพบเจอปัญหาและร้องเรียนมายังสภาผู้บริโภค ซึ่งในช่วงต้นมีเพียง 2 รายที่แจ้งปัญหาเกี่ยวกับป้ายทะเบียน แต่ภายในเวลาไม่ถึงปี กลับมีผู้ร้องเรียนเพิ่มขึ้นกว่าสิบเท่า และเริ่มมีการรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องสิทธิอย่างจริงจัง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 มีผู้เสียหายกว่า 40 ราย รวมตัวกันยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาฯ จนนำไปสู่การตั้งอนุกรรมการเพื่อเตรียมการฟ้องคดีแบบกลุ่มในวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา