โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ASW โชว์ผลงาน 9 เดือน กวาดรายได้ 6.25 พันล้านบาท เดินหน้าลุยภูเก็ต ดันเป้าปี 1.05 หมื่นล้าน

การเงินธนาคาร

อัพเดต 07 พ.ย. เวลา 13.48 น. • เผยแพร่ 07 พ.ย. เวลา 06.48 น.

ASW รายงานผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 2568 มีรายได้รวม 6,250 ล้านบาท พร้อมกำไรสุทธิ 689 ล้านบาท รักษาอัตราการเติบโตต่อเนื่อง เตรียมเปิด 3 โครงการใหม่ในภูเก็ตมูลค่า 9,700 ล้านบาท รับช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยว และความต้องการจากตลาดต่างชาติกำลังซื้อสูง เชื่อรายได้รวมทั้งปีเข้าเป้า 10,500 ล้านบาท

7 พ.ย. 68 นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม - กันยายน) บริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยทำรายได้รวมสะสมทั้งสิ้น 6,250 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสะสมอยู่ที่ 689 ล้านบาท โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3/2568 บริษัททำรายได้เติบโตขึ้น 43% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)

ด้านยอดขาย (Presale) สะสมในช่วงเวลาเดียวกัน อยู่ที่ 17,474 ล้านบาท คิดเป็น 90% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 19,500 ล้านบาท ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการบริหารจัดการโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงการที่มีการโอนกรรมสิทธิ์โดดเด่นในไตรมาส 3/2568 ได้แก่ โครงการในเครือ TITLE ที่ภูเก็ต อาทิ เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา, แอทโมซ แคนวาส ระยอง และ เคฟ ซี้ด เกษตร

ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สะสมรวมทั้งสิ้นสูงถึง 32,861 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2570 ซึ่งเป็นฐานรายได้ที่มั่นคงสำหรับอนาคตของบริษัทฯ

ทบทวนแผนเปิดโครงการใหม่ เน้นภูเก็ตเป็นหัวหอก

เพื่อรักษาโมเมนตัมทางธุรกิจและตอบรับศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ASW ได้มีการพิจารณาปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 23,600 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 7% จากแผนเดิมที่ประกาศไว้

การปรับแผนครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการให้น้ำหนักที่สูงขึ้นกับตลาดในจังหวัดภูเก็ต โดยโครงการใหม่ที่ประกาศเพิ่มมีสัดส่วนโครงการในภูเก็ตสูงถึง 82% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด ส่วนที่เหลือ 18% เป็นโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

นายกรมเชษฐ์ ให้ความเห็นว่า การขยายการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในภูเก็ต เนื่องจากจังหวัดดังกล่าวยังคงเป็นตลาดที่มีดีมานด์แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตสูง จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและเป็นจุดหมายปลายทางของกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงกลุ่มผู้ที่ต้องการพำนักระยะยาว (Digital Nomad) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตไว้ได้ในทุกสภาพเศรษฐกิจ

ลุยไตรมาสสุดท้าย เปิด 3 โครงการใหญ่รับไฮซีซั่น

สำหรับแผนงานในไตรมาสที่ 4/2568 บริษัทเตรียมเดินหน้าเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อการพักผ่อน (Leisure Condominium) ใหม่ในภูเก็ตจำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 9,700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับดีมานด์จากทั้งนักลงทุนและผู้ซื้อเพื่อการพักผ่อนในช่วงไฮซีซั่นได้เป็นอย่างดี ได้แก่:

  • โคราลิน่า กมลา (Coralina Kamala): มูลค่าโครงการ 3,900 ล้านบาท จำนวน 564 ยูนิต
  • เดอะ ไทเทิล เซียร่า (THE TITLE Sierra): มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท จำนวน 452 ยูนิต
  • เดอะ บาลโคนี ในยาง (The Balcony Naiyang): มูลค่าโครงการ 3,800 ล้านบาท จำนวน 542 ยูนิต

นอกจากนี้ ในไตรมาสสุดท้าย ASW ยังมีโครงการที่สร้างเสร็จใหม่และพร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อรับรู้เป็นรายได้เพิ่มเติมอีก 1 โครงการ คือ เคฟ วันเดอร์แลนด์ (Kave Wonderland) คอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต มูลค่าโครงการกว่า 2,550 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่และโครงการพร้อมโอนเหล่านี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถทำรายได้รวมทั้งปีได้ตามเป้าหมายที่ 10,500 ล้านบาท

นายกรมเชษฐ์ ได้กล่าวถึงทิศทางตลาดในช่วงปลายปีว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมีปัจจัยหนุนหลายด้าน ทั้งมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ, แนวโน้มการลดดอกเบี้ยนโยบายที่ช่วยลดภาระทางการเงินของผู้บริโภคและต้นทุนของผู้ประกอบการ, รวมถึงการเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว ซึ่งทำให้ภาพรวมตลาดมีความคึกคักมากขึ้น

ASW ยืนยันว่าการขยายการลงทุนในทำเลศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูเก็ต เป็นกลยุทธ์หลักที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และสร้างความมั่นคงให้กับการเติบโตของยอดขาย รายได้ และกำไรของบริษัทได้ทั้งในปีปัจจุบันและในระยะยาว

อ่านข่าว แวดวงธุรกิจ ที่น่าสนใจ ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...