"อัยการสูงสุด" รับคดี "2 พ่อลูกตระกูลฮุน" สั่งยิงปืน ระเบิด 32 คนไทยเสียชีวิต เป็นคดีนอกราชอาณาจักรเเล้ว เตรียมจัดคณะอัยการร่วมสอบคดี
"อัยการสูงสุด" รับคดี "2 พ่อลูกตระกูลฮุน" สั่งยิงปืน ระเบิด 32 คนไทยเสียชีวิต เป็นคดีนอกราชอาณาจักรเเล้ว เตรียมจัดคณะอัยการร่วมสอบคดี
15 ธันวาคม 2568 นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีเมื่อช่วงวันที่ 24 - 29 ก.ค. 2568 เกิดเหตุทหารกัมพูชายิงทั้งปืนและระเบิดตกมายังพื้นที่ 4 จังหวัดชายเเดนในไทย เป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิต 32 ราย เเละบาดเจ็บ 238 ราย ทรัพย์สินเสียหายเกือบร้อยล้านบาท ว่า เรื่องนี้ในส่วนคดีอาญาไม่ได้เงียบเฉย เพราะเมื่อเร็วๆนี้ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อัยการสูงสุดได้พิจารณามีคำสั่งรับคดีที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ที่ได้ยื่นขอให้ดำเนินคดีกับนายฮุนเซนและนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่สั่งการยิงระเบิดจนเป็นเหตุให้คนไทยบาดเจ็บล้มตายไว้เป็นคดีนอกราชอาณาจักรแล้ว
พร้อมกันนี้อัยการสูงสุดยังมีคำสั่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 เป็นพนักงานสอบสวนและให้อัยการจากสำนักงานการสอบสวนไปร่วมสอบสวนคดี ในส่วนของสำนักงานการสอบสวนตนได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานโดยตนเองเป็นหัวหน้าคณะทำงานและมีทีมอัยการสำนักงานสอบสวนรวมทั้งหมด 18 คน อีกทั้งทางอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งตั้งให้อัยการจังหวัดในพื้นที่ที่เกิดความเสียหายเป็นอัยการเข้าร่วมการสอบสวนด้วย
เเละจะมีนัดประชุมกับทีมสอบสวนของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 เพื่อวางหลักเกณฑ์แนวทางว่าควรต้องทําอย่างไร โดยคณะเราจะลงไปในพื้นที่ภาค3 เอง ซึ่งป.วิอาญา มาตรา 20 ให้อํานาจอัยการร่วมสอบสวน มีอํานาจสั่งการแนะนําในการรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งถือว่าในคดีนอกราชอาณาจักรอัยการจะเป็นผู้คุมคดีนี้
“เราจะเข้าไปให้คําแนะนําและสั่งการในการรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าเราวางแนวทางเสร็จแล้วพยานหลักฐานใดที่ทางกองบัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 จะสอบสวนเพิ่มเติม มีพยานอะไรอื่นใด ทางทีมงานเราพร้อมที่จะสอบให้ แต่ถ้าเกิดว่าเหตุจําเป็นเร่งด่วนในกรณีเช่นว่ามีพยาน ที่จะต้องสอบสวนก็สามารถมอบอัยการจังหวัดในพื้นที่เกิดเหตุร่วมสอบสวนได้
นายวัชรินทร์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน กล่าวต่อว่า เเต่อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีนี้คือผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 ซึ่งท่านจะเป็นผู้สรุปสํานวนทําความเห็น ว่าเห็นควรสั่งฟ้องเห็นควรสั่งไม่ฟ้องคดีเสนอท่านอัยการสูงสุดพิจารณาแต่เพียงผู้เดียวซึ่งคดีนอกราชอาณาจักรเป็นอำนาจอัยการสูงสุด ซึ่งอัยการสูงสุดพิจารณาเเล้ว อาจจะสั่งสอบเพิ่มเติม
หรืออาจจะเห็นด้วยในพยานหลักฐานที่ชัดเจนทั้งหมด และก็สั่งฟ้องหรืออาจจะสั่งไม่ฟ้อง อันนี้เป็นดุลพินิจของอัยการสูงสุด