ผงะ! กองทัพภาค2 ยึดสมุดบันทึกทหารเขมร
วันที่ 13 ธันวาคม 2568 ความคืบหน้าสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ออกมาให้ความเห็นว่า กรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดจนขาขาดเป็นอุบัติเหตุ ล่าสุด พลเรือตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ออกมาชี้แจงว่า ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าว พร้อมตั้งคำถามกลับว่า เหตุการณ์นี้จะถือเป็นอุบัติเหตุได้อย่างไร
โฆษกกระทรวงกลาโหมระบุว่า การปฏิบัติการของฝ่ายไทยเป็นไปตามภารกิจลาดตระเวนและตรวจสอบพื้นที่ เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ โดยการเหยียบทุ่นระเบิดไม่อาจถือเป็นอุบัติเหตุได้ เนื่องจากทุ่นระเบิดเป็นอาวุธสงคราม ไม่ใช่วัตถุที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุโดยบังเอิญ แต่เป็นการกระทำโดยเจตนา จากการที่ฝ่ายกัมพูชาวางทุ่นระเบิดไว้ในพื้นที่ที่ทหารไทยใช้ปฏิบัติภารกิจ
พลเรือตรีสุรสันต์กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายไทยได้ดำเนินการเก็บกู้และเคลียร์ทุ่นระเบิดในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กลับพบว่ามีการลักลอบนำทุ่นระเบิดเข้ามาวางใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงความจงใจในการทำร้ายชีวิตกำลังพลไทย และเป็นการสร้างสถานการณ์ยั่วยุจากฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลเสาธงชัย จังหวัดศรีสะเกษ พบประชาชนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย จากกระสุนปืนและสะเก็ดระเบิดของฝ่ายกัมพูชา โดยหนึ่งในผู้บาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณแขนจนเกือบขาด นอกจากนี้ แรงระเบิดจากจรวด BM-21 ยังทำให้เกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น จำนวน 2 หลัง ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง บริเวณทางขึ้นวัดภูสามสวรรค์ ตำบลเสาธงชัย
ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า สามารถยึดสมุดบันทึกของทหารกัมพูชาได้ ซึ่งภายในมีการบันทึกพิกัดการวางทุ่นระเบิดและกับระเบิด พร้อมแผนผังตำแหน่งการวางทุ่นระเบิดจำนวนมาก รวมกว่า 36 ทุ่น ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงการเตรียมการและการกระทำโดยเจตนาในพื้นที่ชายแดนดังกล่าว