โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ระบายน้ำเขื่อนแควน้อยฯ-ป่าสักฯ เพิ่ม

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 27 ส.ค. 2565 เวลา 05.01 น. • เผยแพร่ 27 ส.ค. 2565 เวลา 05.01 น. • สำนักข่าวไทย อสมท

กรุงเทพฯ 27 ส.ค.- อธิบดีกรมชลประทานเผย ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ทำหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกให้ประชาสัมพันธ์ประชาชนรับทราบและเฝ้าระวังระดับน้ำท้ายเขื่อนที่จะสูงขึ้น 0.50-2.00 เมตร ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายน้ำในอัตรา 500 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งระดับน้ำท้ายเขื่อนจะสูงขึ้น 1.00-1.50 เมตร ย้ำเป็นการปรับเพิ่มเพื่อให้น้ำอ่างเก็บน้ำอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมและมีพื้นที่รองรับน้ำจากฝนที่จะตกเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ย.นี้

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานชลประทานที่ 3 ว่า จำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลกจาก 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 220-350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจาก 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกชุกกระจายทั่วทั้งจังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งอำเภอชาติตระการ และนครไทย ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำฝนของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ทำให้น้ำไหลเข้าเขื่อนเป็นปริมาณมากอย่างต่อเนื่องในอัตรา 362 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือเฉลี่ยวันละ 31 ล้านลูกบาศก์เมตร

ที่ผ่านมา แม้จะมีน้ำไหลเข้าเป็นปริมาณมาก แต่ระบายในอัตรา 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากช่วยหน่วงชะลอน้ำในลำน้ำสาขาของแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำน่าน โดยเฉพาะบริเวณอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ซึ่งใกล้เข้าสู่ภาวะวิกฤติ จนกระทั่งขณะนี้ระดับน้ำลดลงแล้ว

สำหรับเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีความจุ 939 ล้านลูกบาศก์เมตร เช้านี้ (27 ส.ค.) มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 753.80 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 80.28% ซึ่งเกินเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำ ดังนั้นจึงต้องปรับเพิ่มปริมาณการระบายให้น้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ในเกณฑ์เหมาะสม

สำนักงานชลประทานที่ 3 ทำหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเพื่อให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า ระดับน้ำแม่น้ำแควน้อยที่สถานีวัดน้ำ N22A ที่อำเภอวัดโบสถ์ จะสูงขึ้น 0.50-2.00 เมตร ซึ่งอาจกระทบกับประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำน่าน บริเวณอำเภอวัดโบสถ์ อำเภอพรหมพิราม และอำเภอเมืองพิษณุโลก จากการที่น้ำอาจล้นตลิ่งในช่วงที่มีระดับต่ำเป็นบางแห่งได้ จึงขอประชาชนระมัดระวัง

ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำจาก 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่ 06.00 น. ที่ผ่านมา โดยปรับแบบขั้นบันไดซึ่งจะถึงอัตรา 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงเย็นนี้ เมื่อน้ำที่ระบายจากเขื่อนไหลลงไปรวมกับน้ำจากคลองชัยนาท -ป่าสักแล้ว จะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหก ในอัตราไม่เกิน 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะส่งผลระดับน้ำแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนถึงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน 1.00-1.50 เมตร

การระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในอัตรา 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังไม่ทำให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน แต่จะกระทบบริเวณตลาดน้ำต้นตาล ตำบลต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นจุดที่มีการรุกล้ำลำน้ำ กรมชลประทานแจ้งเตือนให้ร้านค้าขนสิ่งของขึ้นไปจากริมตลิ่งแล้ว

นอกจากนี้ยังทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 6 จังหวัดได้แก่ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนบริษัทห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำป่าสัก อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสักให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดล่วงหน้าแล้ว

นายประพิศกล่าวย้ำว่า กรมชลประทานจะประเมินสถานการณ์ฝนและน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายน จากร่องมรสุมที่จะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น จึงพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำและลำน้ำต่างๆ เพื่อให้มีพื้นที่รองรับและอาคารชลประทานหน่วงชะลอน้ำจากพื้นที่ตอนบน ให้ไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่างโดยมีผลกระทบน้อยที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...