ลิเวอร์พูลได้จุดโทษท้ายเกมเชือดอินเตอร์ - อตาลันตาเฉือนเชลซี แชมเปียนส์ ลีก
ลิเวอร์พูลอยู่ในจุดที่มีโอกาสลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก หลังบุกเชือดรองแชมป์เก่าอินเตอร์ มิลาน ด้านอตาลันตาโดนนำก่อนยิงแซงชนะเชลซี
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2025-26 รอบลีก เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม “งูใหญ่”อินเตอร์ มิลาน รองแชมป์เก่าจากอิตาลี เปิดสนามสตาดิโอ จูเซ็ปเป เมอัซซา รับการมาเยือนของ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ
ครึ่งแรกนาที 18 โอกาสเป็นของฝั่งลิเวอร์พูล เคอร์ติส โจนส์ ดักบอลได้แล้วพาเลื้อยมาถึงบริเวณหน้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวา ลูกพุ่งเรียดตรงกรอบบีบให้ ยานน์ ซอมเมอร์ ต้องพุ่งตัวปัดทิ้ง
นาที 32 โดมินิก โซโบสไล เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวาเข้ากลาง เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ กับอูโก เอกิติเก ขึ้นโหม่งพร้อมกันเลยกลายเป็นแย่งกันเอง แต่ลูกยังกระดอนมาเข้าทาง อิบราฮิมา โคนาเต โหม่งต่ออีกทอดเข้าประตูไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์แล้วเห็นว่าฟาน ไดก์ โหม่งไปโดนแขนเอกิติเกก่อนเด้งมาเข้าทางโคนาเต จึงตัดสินให้เป็นจังหวะแฮนด์บอล ลิเวอร์พูลชวดได้ประตูออกนำ
นาที 45+6 อินเตอร์เกือบได้เฮ อเลสซานโดร บัสโตนี เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ เลาตาโร มาร์ติเนซ จึงสบโอกาสโฉบมาโขกเหน่งๆ อลิสซอน เบ็กเกอร์ ซูเปอร์เซฟพุ่งตัวปัดไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ จบครึ่งแรกทั้งคู่ยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังนาที 80 ลิเวอร์พูลหวิดได้ประตู คอเนอร์ แบรดลีย์ ครองบอลแล้วถูกผู้เล่นอินเตอร์สกัดไว้ บอลกระดอนมาเข้าเท้า อูโก เอกิติเก ซึ่งชิ่งต่อให้แบรดลีย์หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วสับไกยิง ยานน์ ซอมเมอร์ เซฟไว้ได้หวุดหวิด
นาที 86 ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ย้อนหลังจังหวะที่ อเลสซานโดร บัสโตนี ไปดึงเสื้อ โฟลริอัน เวียร์ตซ์ จนล้มลงในเขตโทษ ก่อนเป่าเป็นจุดโทษแก่ลิเวอร์พูล โดมินิก โซโบสไล รับหน้าที่สังหารเข้าไปในนาที 88 เป็นประตูชัยให้ “หงส์แดง” เฉือนชนะ 1-0
(REUTERS/Alessandro Garofalo)
ทางด้าน “เทพธิดา”อตาลันตา จากอิตาลี มีโอกาสดีต่อการลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังเปิดสนามนิวบาลานซ์ อารีนา เฉือนชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี 2-1
ทีมเยือนนำก่อนจาก ชูเอา เปโดร นาที 25 แต่เจ้าบ้านมายิงแซงจาก จานลูกา สกามักกา นาที 55, ชาร์ลส์ เดอ เคเทอลาเรอ นาที 83
ผลคู่อื่น ไครัต อัลมาตี (คาซัคสถาน) แพ้ โอลิมเปียกอส (กรีซ) 0-1, บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) ชนะ สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) 3-1, บาร์เซโลนา (สเปน) ชนะ ไอน์ทรักต์ แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมนี) 2-1, โมนาโก (ฝรั่งเศส) ชนะ กาลาตาซาราย (ตุรกี) 1-0
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ (อังกฤษ) ชนะ สลาเวีย ปราก (สาธารณรัฐเช็ก) 3-0, พีเอสวี (เนเธอร์แลนด์) แพ้ แอตเลติโก มาดริด (สเปน) 2-3, อูนิยง แซงต์. ชิลลัวส์ (เบลเยียม) แพ้ โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) 2-3
อันดับบนตารางคะแนน
กลุ่มโควตาเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
1. อาร์เซนอล (5 นัด - 15 คะแนน), 2. บาเยิร์น มิวนิก (6 นัด - 15 คะแนน), 3. อตาลันตา (6 นัด - 13 คะแนน), 4. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (5 นัด - 12 คะแนน)
5. อินเตอร์ มิลาน (6 นัด - 12 คะแนน), 6. เรอัล มาดริด (5 นัด - 12 คะแนน), 7. แอตเลติโก มาดริด (6 นัด - 12 คะแนน), 8. ลิเวอร์พูล (6 นัด - 12 คะแนน)
กลุ่มโควตาเข้ารอบเพลย์ออฟน็อกเอาต์
9. ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ (6 นัด - 11 คะแนน), 10. โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ (5 นัด - 10 คะแนน), 11. เชลซี (6 นัด - 10 คะแนน), 12. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (5 นัด - 10 คะแนน)
13. สปอร์ติง ลิสบอน (6 นัด - 10 คะแนน), 14. บาร์เซโลนา (6 นัด - 10 คะแนน), 15. นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (5 นัด - 9 คะแนน), 16. โอลิมปิก มาร์กเซย (6 นัด - 9 คะแนน)
17. กาลาตาซาราย (6 นัด - 9 คะแนน), 18. โมนาโก (6 นัด - 9 คะแนน), 19. พีเอสวี (6 นัด - 8 คะแนน), 20. ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (5 นัด - 8 คะแนน)
21. การาบัก (5 นัด - 7 คะแนน), 22. นาโปลี (5 นัด - 7 คะแนน), 23. ยูเวนตุส (5 นัด - 6 คะแนน), 24. ปาฟอส (5 นัด - 6 คะแนน)
กลุ่มตกรอบ
25. อูนิยง แซงต์. ชิลลัวส์ (6 นัด - 6 คะแนน), 26. โอลิมเปียกอส (6 นัด - 5 คะแนน), 27. คลับ บรูช (5 นัด - 4 คะแนน), 28. แอธเลติก บิลเบา (5 นัด - 4 คะแนน), 29. เอฟซี โคเปนเฮเกน (5 นัด - 4 คะแนน), 30. ไอน์ทรักต์ แฟรงก์เฟิร์ต (6 นัด - 4 คะแนน)
31. เบนฟิกา (5 นัด - 3 คะแนน), 32. สลาเวีย ปราก (6 นัด - 3 คะแนน), 33. โบโด/กลิมต์ (5 นัด - 2 คะแนน), 34. บียาร์เรอัล (5 นัด - 1 คะแนน), 35. ไครัต อัลมาตี (6 นัด -1 คะแนน), 36. อาแจ็กซ์ (5 นัด - 0 คะแนน)
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ลิเวอร์พูลได้จุดโทษท้ายเกมเชือดอินเตอร์ - อตาลันตาเฉือนเชลซี แชมเปียนส์ ลีก
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th