โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภูมิภาค

กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 6 ต้นโนนมาลัยเผยการจะนำเอากัญชามาเป็นยาเสพติดไม่เห็นด้วยแนะให้ปลูกเสรีเพราะมีประโยชน์มากกว่าโทษ

สยามรัฐ

อัพเดต 24 มิ.ย. เวลา 13.02 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. เวลา 13.02 น.

กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 6 ต้นโนนมาลัยเผยการจะนำเอากัญชามาเป็นยาเสพติดไม่เห็นด้วยแนะให้ปลูกเสรีเพราะมีประโยชน์มากกว่าโทษ เชื่อเป็นการเมืองมากกว่ารัฐบาลน่าจะหันไปปราบยาบ้าที่กำลังระบาดน่าจะดีกว่านี้

วันที่ 24 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีรัฐบาลแพทองธาร 2 จะนำ‘กัญชา’ กลับไปเป็นยาเสพติดโดยจะให้กัญชาต้องเพื่อการแพทย์เท่านั้น โดยล่าสุดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ลงนามประกาศกระทรวงสาธาณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2668 โดยระบุว่า…สมควรปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ที่กำหนดให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมที่มีค่าต่อการศึกษาหรือวิจัย หรือมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบันประกอบกับปัจจุบัน ยังไม่มีกฎหมายใดมาใช้ควบคุมเป็นการเฉพาะ เพื่อมิให้ใช้ไปในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ จึงควรมีการควบคุมไม่ให้นำกัญชา เฉพาะส่วนที่เป็นช่อดอกไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ของการการใช้ประโยชน์จากสมุนไพรดังกล่าว

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 วรรคหนึ่ง มาตรา 44 และมาตรา 45 (3) (4) (5) และ (6) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2552 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย จึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 2 ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 ข้อ 3 ให้กัญชา ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis วงศ์ Cannabaceae เฉพาะส่วนของช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุม ข้อ 4 ผู้ใดประสงค์จะศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้าจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 46 และผู้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(1) ผู้รับใบอนุญาตให้ศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้าต้องจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มา การนำไปใช้ และจำนวนที่เก็บไว้ ณ สถานประกอบการ และให้รายงานข้อมูลนั้น ต่อนายทะเบียนตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด (2) ผู้รับใบอนุญาตให้ส่งออกสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ต้องแจ้งรายละเอียดการส่งออกต่อผู้อนุญาตเป็นรายครั้ง ตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด (3) ผู้รับใบอนุญาตให้จำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ต้องจำหน่ายสมุนไพร ควบคุมให้กับผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา 46 เท่านั้น (4) การจำหน่ายและส่งออกสมุนไพรควบคุมของผู้ได้รับใบอนุญาต ต้องมาจากแหล่งที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวที่ดีจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (5) ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุมเพื่อการสูบในสถานที่ประกอบการ เว้นแต่การจำหน่ายโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย

โดย ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ และผู้ประกอบวิชาชีพ ทันตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพทันตกรรม ที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยของตน

(6) ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุม หรือสินค้าที่แปรรูปจากสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (7) ห้ามโฆษณาสมุนไพรควบคุมในทุกช่องทางเพื่อการค้า (8) ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุม หรือสินค้าที่แปรรูปจากสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้าในสถานที่ตังต่อไปนี้ วัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก

ซึ่งการจำหน่ายสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้าตามวรรคหนึ่ง (3) ไม่รวมถึงกรณีการจำหน่ายสมุนไพรควบคุมให้กับบุคคลใดๆที่มีใบสั่งจ่ายโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเภสัชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพทันตกรรม เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ การสั่งจ่ายตามวรรคสอง ให้กำหนดจำนวนหรือปริมาณการใช้ตามความจำเป็นเพื่อการรักษาตัวเป็นการเฉพาะที่ใช้ได้ไม่เกิน 30 วัน

ข้อ 5 ให้ผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา 46 อยู่ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ เฉพาะในส่วนที่เป็นสมุนไพรควบคุมตามประกาศนี้ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อ 3 ของประกาศฉบับนี้ด้วย ข้อ 5 แบบการรายงาน แบบการแจ้งรายละเอียดการส่งออกสมุนไพรควบคุมรายครั้งและแบบใบสั่งจ่ายให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด โดยคนที่จะซื้อกัญชาต้องมีใบสั่งจากแพทย์ รวมถึงใบรับรองแพทย์ว่ามีการเจ็บไข้ได้ป่วยประการใด คำสั่งประกาศดังกล่าวสวนความคิดกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ปลูกกัญชาที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพราะมองว่ากัญชามีผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะสามารถรักษาอาการป่วยได้หลายโรค โดยเฉพาะคนชรา

ด้าน นายวิไล อายุ 69 ปี บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านโศกนาค ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ รองประธานวิสาหกิจชุมชนโศกนาค กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์จุดนี้ถือเป็นจุดแรกของประเทศไทย ครั้งนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ตอนนั้นได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดภายใต้ชื่อ”6 ต้นโนนมาลัย”เมื่อวันที่ 11 กพ.2564 หลังจากนั้นเป็นต้นมากลุ่มฯได้ปลูกกัญชาส่งให้โรงพยาบาลคูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ สร้างรายได้ให้กับชุมชนมาโดยตลอด สิ่งที่ได้จากการปลูกกัญชา คือส่วนที่เหลือชาวบ้านจะเอาไปบำบัดรักษาโรคได้หลายโรค รากกัญชาเอาไปต้มเป็นสมุนไพรชั้นดี ส่วนอื่นชาวบ้านก็จะเอาไปปรับใช้ตามแต่ละอาการของโรค

ทั้งนี้การที่รัฐบาลพยายามจะกลับเอาไปเป็นยาเสพติด ส่วนตัวมองว่าเป็นการเมืองมากกว่า รัฐควรจะให้ชาวบ้านปลูกเสรีมากกว่า แล้วให้กฎหมายมาควบคุมอีกทีหนึ่ง จริงแล้วรัฐบาลควรจะเร่งแก้ไขปัญหาการระบาดของยาบ้ามากกว่ากัญชา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...