โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

กองทัพอากาศไทยพัฒนาโดรนพลีชีพ (Kamikaze UAV) สำเร็จสามารถโจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำ

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 05 ก.ค. เวลา 18.20 น.
กองทัพอากาศไทยพัฒนาโดรนพลีชีพ (Kamikaze UAV) สำเร็จสามารถโจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำ

วันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา กองทัพอากาศไทยประกาศความสำเร็จในการพัฒนาและทดสอบโดรนพลีชีพ หรือ Kamikaze UAV อากาศยานไร้คนขับรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อพุ่งโจมตีเป้าหมายแบบพลีชีพ โดยสามารถทำลายเป้าหมายในพิสัยปานกลางด้วยหัวรบแรงระเบิดสูง พร้อมค่าความคลาดเคลื่อนต่ำกว่า 5 เมตร แสดงถึงศักยภาพด้านความแม่นยำระดับสูงในการปฏิบัติการรบยุคใหม่

โครงการนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช กรมสรรพาวุธทหารอากาศ และศูนย์วิจัยและพัฒนาอากาศยานไร้คนขับของกองทัพอากาศ (ศวอ.ทอ.) โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาอาวุธปลายเปิดที่ไทยสามารถผลิตและควบคุมได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งพาต่างประเทศกองทัพอากาศไทยประสบความสำเร็จในการทดสอบ “โดรนพลีชีพ” หรือ Kamikaze UAV ที่สามารถพุ่งโจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำด้วยค่าคลาดเคลื่อนต่ำกว่า 5 เมตร ความสำเร็จนี้เป็นก้าวสำคัญสู่การผลิตและบรรจุประจำการ เพิ่มศักยภาพการป้องกันประเทศด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาโดยคนไทยเอง

เทคโนโลยีเบื้องหลัง Kamikaze UAV

Kamikaze UAV จัดอยู่ในกลุ่ม “Loitering Munitions” หรืออาวุธโดรนพลีชีพที่สามารถบินวนรอเหนือพื้นที่เป้าหมายก่อนจะพุ่งเข้าชนเมื่อได้รับคำสั่ง การออกแบบเน้นน้ำหนักเบา มีระบบนำวิถีอัตโนมัติผสมผสานกับการควบคุมจากระยะไกล โดยใช้เทคโนโลยีดาวเทียมนำทาง (GNSS) และระบบนำทางเฉพาะของกองทัพอากาศ ควบคู่กับกล้องตรวจจับเป้าหมายแบบ Electro-Optical หรือ Infrared สำหรับการทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งหัวรบแรงระเบิดสูง (High Explosive) ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับเป้าหมายแบบต่าง ๆ เช่น รถหุ้มเกราะ ป้อมปืน หรือฐานปฏิบัติการ โดยระยะทำการอยู่ในระดับหลายสิบกิโลเมตร เหมาะสำหรับการโจมตีเป้าหมายที่ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลขีดความสามารถของโดรน Kamikaze UAV ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขึ้นนั้นยังไม่ถูกเปิดเผยออกมามากนัก เนื่องจากเป็นความลับทางด้านการทหาร และอาวุธสงคราม

ความสำเร็จในการทดสอบ Kamikaze UAV ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่การวางแผนเข้าสู่สายการผลิต และการบรรจุประจำการอย่างเป็นทางการในกองทัพอากาศ ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพของไทยในการปกป้องน่านฟ้าและสกัดกั้นภัยคุกคามสมัยใหม่ โดยเฉพาะในยุคที่สงครามไร้คนขับและอาวุธอัจฉริยะกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการรบ

ความก้าวหน้าครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความสามารถของนักวิจัยไทยในด้านวิศวกรรมและอากาศยานไร้คนขับ แต่ยังเป็นสัญญาณของยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพึ่งพาตนเองด้านความมั่นคงของประเทศ ท่ามกลางภูมิทัศน์ความมั่นคงโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...