โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

วิจัยกสิกีฯคาดสินเชื่อแบงก์ปี69ติดลบ0.7%-เอสเอ็มอี-รายย่อยยังเปราะบาง

Manager Online

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคงคาดการณ์สินเชื่อระบบแบงก์ไทยในปี 2569 ไว้ที่ -0.7% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตามเศรษฐกิจปี 2569 ที่มีความเปราะบาง และยังต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่ม SME และรายย่อยอย่างใกล้ชิด ขณะที่ คาดว่าสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือ NPL Ratio ในปี 2569 จะยังคงอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 2.80-2.97% ของสินเชื่อรวม อย่างไรก็ตาม ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ผ่านมาช่วยลดภาระดอกเบี้ยธุรกิจ-รายย่อยต่อเนื่องในปี 69 อีกประมาณ 3,800-4,800 ล้านบาท จากประมาณ 17,000-19,500 ล้านบาทในปี 2568

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ หรือระบบแบงก์ไทยในปี 2569 จะหดตัวลงติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ที่ -0.7% ต่อเนื่องจากที่คาดว่าจะปิดปี 2568 ที่ -2.3% สอดคล้องกับหลายปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้ แม้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะสร้างสัญญาณเชิงบวกต่อภาระต้นทุนทางการเงิน แต่มองว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของสินเชื่อในปี 2569 ยังคงเผชิญข้อจำกัดหลายประการ ทั้งจากพฤติกรรมผู้กู้ที่ยังก่อหนี้เพิ่มอย่างระมัดระวัง ความเปราะบางของภาวะเศรษฐกิจ และการปล่อยสินเชื่อตามแนวทางที่สอดคล้องกับศักยภาพลูกหนี้ของสถาบันการเงิน สะท้อนให้เห็นว่า ต้นทุนดอกเบี้ยเพียงปัจจัยเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะหนุนการฟื้นตัวของสินเชื่อ หากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงยังไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

โดยคาดการณ์สินเชื่อธุรกิจอาจกลับมาขยายตัวที่ 0.2% ในปี 2569 นำโดย สินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ที่มีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วกว่าสินเชื่อ SME โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า สินเชื่อธุรกิจรายใหญ่จะกลับมาขยายตัวที่ 2.0% ในปี 2569 ขณะที่สินเชื่อ SME อาจยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ -4.0% ทั้งนี้แรงส่งสำคัญของสินเชื่อธุรกิจอาจเริ่มจากการทยอยเบิกใช้วงเงินเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและการลงทุนในบางกลุ่มอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความพร้อมด้านแผนการขยายธุรกิจ ขณะที่ภาพรวมของสินเชื่อ SME ยังคงเผชิญข้อจำกัดจากการฟื้นตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง รวมถึงแรงกดดันเฉพาะหน้า ทั้งจากกำลังซื้อในประเทศที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ และการแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้นขึ้นในหลายภาคส่วน

ส่วนสินเชื่อรายย่อยปี 2569 คาดว่าจะหดตัวลงต่อเนื่องที่ -1.0% เนื่องจากข้อจำกัดด้านกำลังซื้อ รายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนที่ยังเปราะบาง โดยคาดว่า สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ฯ จะหดตัวลง -0.5% และ -8.0% ตามลำดับ เนื่องจากการฟื้นตัวของสินเชื่อที่มีวงเงินต่อสัญญาสูง (Big-Ticket Items) กลุ่มนี้จะต้องอาศัยความเชื่อมั่นในรายได้ระยะยาวของผู้กู้ ขณะที่ แม้จะคาดว่า สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันและสินเชื่อบัตรเครดิต อาจขยายตัวที่ 0.7% และ 1.2% ในปี 2569 ตามลำดับ แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเทียบกับฐานที่ต่ำในปี 2568 ขณะที่ สินเชื่อบุคคลที่มีหลักประกัน (อาทิ บ้าน รถ และสินทรัพย์อื่น) ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า อาจประคองการเติบโตได้ดีกว่า โดยเฉพาะในบริบทที่สถาบันการเงินยังคงต้องให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและการดูแลความสามารถในการชำระคืนหนี้ของลูกหนี้

อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมตลอดทั้งปี 2568 ธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR, MOR, MRR ลงมาแล้วประมาณ 0.40-0.90% ตาม 4 รอบการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) โดยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ของแบงก์รอบล่าสุด เริ่มมีผลแล้วตั้งแต่ช่วงวันที่ 22-24 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา แต่อานิสงส์จากดอกเบี้ยที่ลดที่จะส่งผ่านไปให้ลูกหนี้ในปี 2568 ยังคงจำกัด เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้นในช่วงปลายปี จึงมีระยะเวลาไม่มากพอที่จะส่งผลบวกต่อลูกหนี้เพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญ แต่ผลบวกจากการลดดอกเบี้ยจะค่อย ๆ ปรากฏชัดเจนและขยายวงกว้างมากขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2569 ซึ่งเป็นช่วงที่รอบการปรับดอกเบี้ยของลูกหนี้หลายกลุ่มจะเริ่มมีผลตามรอบกำหนดของสัญญาเงินกู้ โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อยที่มียอดคงค้างสินเชื่อรวมกันประมาณ 12.5 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าประมาณ 67% ของวงเงินดังกล่าวจะเข้าสู่ช่วงการปรับอัตราดอกเบี้ยภายในครึ่งแรกของปี 2569 ซึ่งทำให้ภาระดอกเบี้ยของลูกหนี้ธุรกิจและลูกหนี้รายย่อยลดลงอีกประมาณ 3,800-4,800 ล้านบาท เพิ่มเติมจากผลของการลดดอกเบี้ยที่ช่วยแบ่งเบาภาระลูกหนี้ประมาณ 17,000-19,500 ล้านบาทในปี 2568

โดยสรุป ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินและหนุนความสามารถในการชำระคืนหนี้ของลูกหนี้ อย่างไรก็ดี คงต้องยอมรับว่าสินเชื่อในปี 2569 จะยังคงมีโอกาสหดตัวลง -0.7% (นับเป็นการหดตัวของสินเชื่อติดต่อกันเป็นปีที่ 3) เพราะการเบิกใช้สินเชื่อไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านต้นทุนดอกเบี้ยเพียงปัจจัยเดียว แต่สถานการณ์เศรษฐกิจ รายได้ ความเสี่ยงด้านเครดิต ตลอดจนความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ ก็ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะมีผลต่อแนวโน้มของสินเชื่อด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ คาดว่า สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือ NPL Ratio ในปี 2569 จะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องที่กรอบ 2.80-2.97% ของสินเชื่อรวม โดยต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้และคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อ SME และรายย่อยอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน ขณะที่ การลดดอกเบี้ยอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ แต่คงต้องเดินควบคู่ไปกับการประคองทิศทางเศรษฐกิจ การดูแลปรับโครงสร้างเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ และเร่งผลักดันกลไกการค้ำประกันเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการปล่อยสินเชื่อเพื่อหนุนให้สินเชื่อทยอยฟื้นตัวกลับมา

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...