โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

สหรัฐเปิดสถิติสารพัดวัตถุแปลกปลอมที่หมอต้องคีบออกจากทวารหนัก

เดลินิวส์

อัพเดต 28 ธันวาคม 2568 เวลา 2.41 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
เผยสถิติของปี 2567 เกี่ยวกับวัตถุต่างๆ ที่ติดหรือ “ตกค้าง” อยู่ในทวารหนักของชาวอเมริกันพร้อมเหตุผลที่อาจจะประหลาดยิ่งกว่า

ในแต่ละปีมีชาวอเมริกันจำนวนมากจนน่าตกใจที่ต้องไปถึงห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเพียงเพราะวัตถุต่างๆ “ติดอยู่ในก้น” ไม่ว่าจะเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็น, คำแนะนำที่ผิดพลาดจากแชตจีพีที, เชื่ออินฟลูเอนเซอร์ออนไลน์ หรือความอยากรู้อยากลองทางเพศ

คณะกรรมการความปลอดภัยสินค้าอุปโภคบริโภคของสหรัฐฯ (CPSC) ได้เก็บฐานข้อมูลการเข้าห้องฉุกเฉินและสาเหตุที่คนเหล่านี้มีวัตถุติดอยู่ในทวารหนักจนต้องมารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินไว้อย่างละเอียด แน่นอนว่าฐานข้อมูลนี้เป็นแบบนิรนามทั้งหมด

เว็บไซต์ Defector ได้ติดตามข้อมูลล่าสุดของปี 2567 เพื่อคัดเลือกวัตถุที่น่าตกใจ น่างสัยและแปลกประหลาดเท่าที่มีการรายงานว่าติดค้างอยู่ในรูทวารของชาวอเมริกัน นอกจากเซ็กซ์ทอยจำนวนมหาศาล ซึ่งรวมถึงดิลโด้ยาว 24 นิ้วแล้ว รายการวัตถุ “ติดค้าง” ที่เด่นๆ ยังมีดังต่อไปนี้

  • ตะปู
  • ตะปูเกลียวและตะปู
  • ลูกเบสบอล (เหตุผลที่ระบุ: “เพื่อดูว่ามันจะรู้สึกยังไง")
  • พาสต้าดิบ
  • ไข่
  • ของเล่นขบเคี้ยวสำหรับสุนัข
  • แผ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเครื่องอบผ้า
  • รองเท้าแตะ
  • ลูกบิดประตู
  • ลูกแก้ว
  • แว่นตา
  • ก้อนหิน
  • ปัตตาเลี่ยนตัดหนวดหุ้มด้วยแผ่นพลาสติก (เหตุผลที่ระบุ: "รู้สึกท้องผูกมาสองวัน")
  • หลอดดูดน้ำซอสเพื่อหยดหรือฉีดเข้าเนื้อสัตว์
  • ขวดน้ำยาทำความสะอาดพลาสติกที่มีของเหลวเต็มขวด
  • ขวดแชมพู (เหตุผลที่ระบุ: "ลื่นล้มในห้องน้ำ")
  • ขวดแชมพู (เหตุผลที่ระบุ: “เบื่อ")
  • ขวดสารหล่อลื่น
  • ขวดน้ำยาสวนทวาร
  • กระป๋องสเปรย์
  • ไหมขัดฟันแบบมีด้าม
  • จุกปิดขวดไวน์
  • ที่เสียบฝักข้าวโพด
  • ปากกาไฮไลท์
  • ปากกามาร์กเกอร์ล่องหน
  • ดินสอสองแท่ง
  • ของเล่นไม้คฑากายสิทธิ์
  • ดิลโด้ขนาด 7 นิ้วและคีม (ซึ่งคนไข้พยายามใช้คีมเพื่อดึงดิลโด้ออก)
  • ปลั๊กทวาร (Butt plug) ที่หักและแหนบ (ซึ่งพยายามใช้แหนบดึงส่วนที่หักออกมา)
  • กลักฟิล์ม
  • ไฟประดับใส่ถ่าน
  • ไฟฉาย
  • ไม้แขวนเสื้อพลาสติก (คนไข้ตัดส่วนที่ยื่นออกมาทิ้งไปก่อน เพื่อจะได้ขับรถมาห้องฉุกเฉินได้
  • เหรียญเพนนี
  • หลอดไฟ โดยเอาฝั่งที่เป็นแก้วเข้าก่อน
  • บุหรี่ไฟฟ้าแบบปากกา
  • กล้องยาสูบทรงฝักข้าวโพด
  • ปะเก็นยาง
  • ชิ้นส่วนเครื่องเล็มขนจมูก
  • แปรงสีฟันสำหรับพกพาทรงสี่เหลี่ยม
  • ไม้บาตอง
  • ยางมัดผม

สิ่งที่น่าสับสนคือ มีคนหลายคนที่ "ไม่แน่ใจ" ว่ายังมีเซ็กซ์ทอยค้างอยู่ในก้นจากครั้งก่อนหรือไม่ หรือจำไม่ได้ว่าได้ใส่เข้าไปหรือเปล่า

ดร. เคนจิ โอยาสุ แพทย์ห้องฉุกเฉินในชิคาโก กล่าวว่าหนึ่งในคำถามที่เขาได้รับบ่อยที่สุดคือ "อะไรคือสิ่งที่แปลกที่สุดที่คุณเคยดึงออกมาจากก้นของคนไข้?"

ในคลิปวิดีโอติ๊กต็อกที่เป็นไวรัลเมื่อเดือนกันยายนของเขา ดร. โอยาสุ เล่าว่า ของแปลกที่ติดอยู่ในทวารหนักลำดับต้นๆ คือ "เทียนหอม Yankee Candle กลิ่นพัมพ์กินสไปซ์" ไซส์ปกติ

"ผมหมายถึงแบบกระปุกที่ใช้ตั้งบนโต๊ะนั่นแหละ และไม่ใช่แค่ฝานะ แต่มันเข้าไปทั้งกระปุกเลย" เขากล่าว "คำถามคือจะเอามันออกมายังไง และจริงๆ แล้วสำหรับของที่ใหญ่มากๆ คุณไม่สามารถแค่เอื้อมมือเข้าไปจับแล้วดึงออกมาได้ เพราะแรงดูดจะทำให้เกิดสภาวะสุญญากาศที่จะคอยดึงวัตถุกลับเข้าไปข้างใน"

ในปี 2566 วารสาร Visual Journal of Emergency Surgery ได้ตีพิมพ์กรณีศึกษาเกี่ยวกับชายชาวอิหร่านที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉิน หลังจากกระป๋องสเปรย์ระงับกลิ่นกายที่เขาใส่เข้าไปในทวารหนักเลื่อนลึกเข้าไปในระบบทางเดินอาหารของเขา

และในฟลอริดาปีนี้ ชายคนหนึ่งที่ถูกจับกุมในคดียาเสพติดเดินผ่านเครื่องสแกนร่างกายและพบว่ามี "กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ” อยู่ข้างในตัวเขา

จากปี 2555 - 2564 มีคนประมาณ 38,948 คนที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากมีวัตถุแปลกปลอมในทวารหนักในแต่ละปี ข้อมูลนี้อ้างอิงจากวารสาร American Journal of Emergency Medicine

อายุเฉลี่ยของคนไข้คือ 43 ปี และ 78% เป็นผู้ชาย โดย 40% จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล สำหรับวัตถุต่างๆ ที่แพทย์เคยดึงออกมาจากทวารหนักนั้น จำนวน 55.4% คือเซ็กซ์ทอย

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...