โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

ปิดฉากชีวิตวัย 34! หนุ่มตกงานปลิดชีพตัวเองหนีปัญหารุมเร้า ภรรยาช็อกพบศพคาบ้าน

เดลินิวส์

อัพเดต 30 ธันวาคม 2568 เวลา 8.39 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
เกิดเหตุสลดหนุ่มวัย 34 ปี ยิงขมับตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านพัก จ.สมุทรปราการ ภรรยาเผยสามีเครียดหนักหลังผ่าตัดลำไส้แล้วถูกที่ทำงานให้ออก พยายามแย่งปืนไปซ่อนแล้วแต่สุดท้ายยังแอบมาก่อเหตุสลดช่วงภรรยาออกไปทำงาน ตำรวจคาดใช้ผ้าห่มคลุมตัวเพื่อดับเสียงกระสุน

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 29 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักแห่งหนึ่งในหมู่บ้านย่านตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยผู้เสียชีวิตคือ นาย นราศักดิ์ อายุ 34 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนบริเวณขมับ

ที่เกิดเหตุ บริเวณโซฟาห้องนั่งเล่น พบร่างผู้เสียชีวิตนอนตะแคลงห่มผ้า พร้อมแผ่นรองซับเลือดใต้ร่าง ข้างตัวพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 และเจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนและหัวกระสุนที่ตกค้างเพื่อตรวจสอบ ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่ง นิติเวชสถาบันรามาจักรีนฤบดินทร์

จากการสอบถาม ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สามีป่วยโรคลำไส้ตีบและต้องเข้ารับการผ่าตัดเมื่อเดือนก่อน หลังกลับมาพักฟื้น ถูกหัวหน้างานขอให้ออกจากงาน ทำให้เกิดความเครียดสะสม และตนเองพยายามปลอบใจมาตลอด ก่อนเกิดเหตุ สามีนำปืนขึ้นไปห้องด้านบน แต่ภรรยาแย่งปืนไปซ่อนไว้ ขณะที่สามีลงมานอนด้านล่างเนื่องจากลุกขึ้นบันไดไม่สะดวก

ภรรยาระบุว่า ช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ พาลูกออกไปทำงานตามปกติ และสังเกตจากกล้องออนไลน์ครั้งสุดท้ายตอนสิบโมง ยังเห็นสามีใช้ห้องน้ำ ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งกลับบ้านช่วงสองทุ่มกว่า พบสามีนอนคุมผ้าห่มอยู่บนโซฟา เมื่อเปิดดูพบคราบเลือด จึงรีบพาลูกออกจากบ้านและโทรแจ้งมารดา

เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตอาจเกิดจากความเครียดสะสมและก่อเหตุ ใช้ปืนปลิดชีวิตตัวเอง โดยใช้ผ้าห่มคลุมเพื่อลดเสียงปืน อย่างไรก็ตามต้องรอผลชันสูตรทางนิติวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐาน โดยเฉพาะคราบเขม่าดินปืน เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...