โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

นายกฯ ย้ำหยุดยิง 72 ชม. เดินหน้าเฝ้าระวังต่อเนื่อง ชี้ ปมสัมพันธ์เขมรต้องใช้เวลา ตอนนี้เอาเรื่องหยุดยิงก่อน

THE ROOM 44 CHANNEL

อัพเดต 29 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายกฯ ย้ำหยุดยิง 72 ชม. เดินหน้าเฝ้าระวังต่อเนื่อง ชี้ ปมสัมพันธ์เขมรต้องใช้เวลา ตอนนี้เอาเรื่องหยุดยิงก่อน โต้ข่าวลือจีนเลือกข้าง ชี้ไทยก็ได้รับข้อเสนอช่วยเหลือ “สีหศักดิ์” คุย “หวัง อี้” เป็นไปด้วยดี รอบินกลับไทยเย็นนี้

วันที่ 29 ธ.ค. 2568 ที่ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ และอำนาจเจริญ ถึงกรณีครบกำหนดข้อตกลงกับกัมพูชาในการหยุดยิง 72 ชั่วโมงว่า ในวันที่ 30 ธ.ค.ไม่ใช่หรือ เพราะวันที่ 27 ธ.ค.คือวันที่เริ่มข้อตกลงหยุดยิง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่าสถานการณ์เรียบร้อยดีใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โดยทั่วไปเรียบร้อยดี ตนได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคงและกองทัพ เมื่อถามถึงกรณีมีโดรนจำนวนมากบินในหลายจังหวัดชายแดนเมื่อคืนที่ผ่านมา นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีรายงาน

เมื่อถามว่า อยากขอให้สร้างความมั่นใจกับประชาชน เพราะประชาชนในหลายพื้นที่ไม่มั่นใจว่า 72 ชั่วโมงจะมีการหยุดยิงจริงตามที่ตกลง นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีการเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าไม่เฝ้าระวัง เพียงแต่ว่าต่างฝ่ายต่างหยุดยิง และระงับลดระดับความรุนแรงลงไป เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีการป้องกัน หรือการเตรียมพร้อมใดๆ

เมื่อถามถึงกรณีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ เดินทางไปพบนายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศของจีน ที่นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน นายอนุทิน กล่าวว่า ไปตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.แล้ว โดยได้รับรายงานจากนายสีหศักดิ์แล้วว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยดี เมื่อสักครู่เพิ่งวางหูจากนายสีหศักดิ์ ซึ่งวันที่ 29 ธ.ค.จะเริ่มการพูดคุยกับรมว.ต่างประเทศกัมพูชา

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสีหศักดิ์ได้บอกหรือไม่ว่าแนวทางการพูดคุยเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ที่ไปบอกว่าทางจีนจะให้เงินช่วยเหลือประเทศกัมพูชาในเรื่องความเสียหายจากสงคราม 20 ล้านหยวน Offer (ข้อเสนอ) นี้ไทยก็ได้ จีนแจ้งมา ส่วนเราจะพิจารณาอย่างไรก็ต้องให้นายสีหศักดิ์กลับมา ที่ในโซเชียลไปบอกว่าไหนบอกจีนเป็นกลาง ทำไมไปดูแลประเทศกัมพูชา ไม่ดูแลประเทศไทย ตนถึงบอกว่าต้องฟังข่าวจากทางราชการเป็นหลัก เพราะตอนนี้มันมีข่าววิเคราะห์ข่าวอะไรออกมาเต็มไปหมด ต้องขอให้ฟังข่าวจากทางราชการเป็นหลักดีกว่า ทั้งนี้ ย้ำว่าจีนมาให้เงินเรามาแต่ไทยจะอย่างไรก็ต้องรอนายสีหศักดิ์กลับมา ซึ่งจะกลับมาเย็นวันนี้ (29 ธ.ค.) ซึ่งต้องหารืออีกครั้ง

เมื่อถามว่า ในการพูดคุยครั้งนี้ มีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า หลักการมาแล้ว เงื่อนไขต้องกลับมาหารือมาพูดคุยกันอีกครั้ง คงเป็นเรื่องของการช่วยเหลือความเสียหายของประชาชนในเรื่องของทรัพย์สิน เมื่อถามย้ำว่า ที่นายสีหศักดิ์คุยกับนายหวัง อี้ จะมีการตกลงเงื่อนไขอะไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เดี๋ยวรอเขาคุยกันให้เรียบร้อยก่อน ตนรับรายงานมา ไม่ได้เป็นคนไปเจรจา ต้องรอนายสีหศักดิ์กลับมาพูดคุยกันอีกที

เมื่อถามว่า ส่วนใหญ่ที่คุยกับนายหวัง อี้ เป็นเรื่องของการหยุดยิงใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันต่อในเรื่องแนวทางที่ต้องปฏิบัติต่อไป ตอนนี้เราเหลืออยู่ระดับทูตและระดับเจ้าหน้าที่ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เราเหมือนแค่ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าสถานทูตไว้แค่นั้นเอง แต่จะทำอย่างไรต่อไปคงต้องค่อยๆ ขยับ เรื่องการดำเนินการด้านความสัมพันธ์อย่างไร ตรงนี้ยังต้องใช้เวลา ยังมีขั้นตอนอยู่ ตอนนี้เราเน้นในเรื่องของการสร้างความมั่นใจว่าการหยุดยิง 72 ชั่วโมง มันก็จะผ่านไปทีละเฟส

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการกลับบ้านของประชาชนตามแนวชายแดน ตอนนี้สามารถกลับได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทยอยกลับ ในส่วนที่ทางการเห็นว่าปลอดภัยเริ่มทยอยกลับแล้ว อย่างที่ จ.บุรีรัมย์ เกือบ 2 หมื่นคน เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ได้รับรายงานว่า ตอนนี้เหลืออยู่ประมาณ 2 พันกว่าคน เราต้องช่วยกันให้กำลังใจว่าขอให้สถานการณ์ทุกอย่างมันดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถามว่า ประชาชนบอกว่าอยากกลับบ้านแบบถาวร นายกฯ กล่าวว่า เราก็เน้นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

นายกฯ นำคณะบวงสรวงรัชกาลที่ 1 เปิดงานปิดทองเบิกฟ้า จ.บุรีรัมย์ เสริมสิริมงคล ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

วันที่ 29 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากท่าอากาศยานบุรีรัมย์ มาถึงบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อเป็นประธานกิจกรรมโครงการปิดทองเบิกฟ้าสักการะบูชา มหาราชรัชกาลที่ 1 โดยมี พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม , นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด , พลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก , พล.ต.ต.วรายุส์ จันทร์เยี่ยม ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยข้าราชการทหาร ตำรวจ อส. ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บุรีรัมย์ ให้การต้อนรับ และร่วมพิธีบวงสรวงด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขึ้นสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พร้อมจุดธูปเทียนบูชาเครื่องบวงสรวง ขณะที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ร่วมปักธูปบนเครื่องสังเวย พร้อมสวดบทบูชาพระรัตนตรัย บทชุมนุมเทวดา และบทถวายเครื่องสังเวย จากนั้นพราหมณ์บรรเลงดนตรี เพลงบาทสกุณี และนายกรัฐมนตรีโปรยดอกไม้ใส่เครื่องบวงสรวง จากนั้นระหว่างที่พระสงฆ์กำลังสวดบทชะยันโต นายอนุทิน และนายเนวิน ได้ปิดทองที่ยอดพุ่มเงินพุ่มทอง ทั้งสี่ทิศของอนุสาวรีย์ จากนั้นได้มาปิดทองที่ฐานฉัตรแก้ว ต้นที่ 37 จากนั้นนายกรัฐมนตรีและผู้ร่วมพิธีจะได้มารุมกันปิดทองที่ฐานฉัตรต้นที่ 37

ทั้งนี้ โครงการ "ปิดทองเบิกฟ้า สักการบูชามหาราชรัชกาลที่ 1" เป็นงานประเพณีประจำปีของจังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้นช่วงสิ้นปี-ปีใหม่ วันที่ 29 ธันวาคม - 1 มกราคม เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมกันปิดทองคำเปลวรอบพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 ณ วงเวียนร.1 จ.บุรีรัมย์ เป็นการแสดงความเคารพรักและเสริมสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ และรำลึกถึงวีรกรรมของรัชกาลที่ 1 โดยเป็นกิจกรรมที่จัดโดยจังหวัดร่วมกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อสืบสานประวัติศาสตร์และสร้างความเป็นสิริมงคล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างบวงสรวง นายเนวิน ได้มานั่งบวงสรวงใต้ฉัตรเงินต้นที่ 37 จากฉัตรทั้งหมดที่มีทั้งสิ้น 360 ต้น รอบพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ซึ่งตรงกับหมายเลขผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย

“อนุทิน” ปิดทองใต้ร่มฉัตรเสาที่ 37 เลขภูมิใจไทย “เนวิน” ยื่นส้มให้บอกจะได้กล้วยๆ ด้าน “เสี่ยหนู” เอาส้มเคาะเลข ก่อนปอกกินบอกส้มหวาน ไม่กลัวเม็ดติดคอ กลืนไปย่อยหมด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานพิธีบวงสรวง ‘ปิดทองเบิกฟ้า สักการะบูชา มหาราชรัชกาลที่ 1’ ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ที่อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์นั้น

นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้มานั่งร่วมบวงสรวงในพิธีบวงสรวงดังกล่าว ใต้ฉัตรเงิน 9 ชั้น บริเวณเสาหมายเลข 37 ซึ่งตรงกับหมายเลขผู้สมัครบัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ที่จับได้เมื่อวานนี้

ทั้งนี้นายเนวิน กล่าวสั้นๆ สักการะบูชามหาราชรัชกาลที่ 1 ว่า ฉัตรเงินที่อยู่โดยรอบ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 นั้นมีทั้งสิ้น 360 ต้น 360 องศา 360 วัน เพื่อให้คนไทยอยู่อย่างร่มเย็นทุกวัน เดิมทีนั้นพิธีบวงสรวงมีทุกปี แต่ปีนี้เป็นฤกษ์ดี จัดขึ้นในวันที่ 29 ธันวาคม เป็นวันที่ไทยมีชัยชนะต่อกัมพูชา

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายเนวิน ว่าเบอร์ 37 เด็ดอย่างไร นายเนวิน กล่าวว่า “เด็ดตรง ชาวบ้านเลือกนี่แหละ”

จากนั้น นายอนุทิน ได้ถวายเครื่องไทยธรรม แด่พระสงฆ์ก่อนจะมาหยุดที่เสาต้นที่ 37 ได้ชี้นิ้ว ยิ้มและหัวเราะ ก่อนจะมาปิดทองที่ฐาน และได้นำสีผึ้งมาทาบริเวณเลข 37 ก่อนจะติดทองทับ

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามว่าเลขดังกล่าวนี้มงคลอย่างไร ถึงใส่ใจขนาดนี้ นายอนุทิน ได้ท่องบทสวด สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ พุทธะระตะนัง

จากนั้นนายเนวิน ได้มอบส้มให้หนึ่งลูก พร้อมกล่าวว่า จะได้กล้วยๆ จากนั้นนายอนุทิน ได้นำส้มลูกดังกล่าวมาเคาะที่ตัวเลข 37 ก่อนจะปอกส้มรับประทาน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ส้มหวานหรือไม่ นายอนุทิน พยักหน้ารับ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่า ส้มมีเม็ดหรือไม่ กลัวติดคอหรือไม่ นายอนุทิน ยื่นกากส้มให้ ก่อนที่นายเนวิน จะถามนายอนุทิน ว่าส้มหวานไหม นายอนุทิน ตอบว่า “หวาน“

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าส้มเม็ดเยอะหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า นั่นแน่ถามแบบนี้ ไม่ได้หวังดีแน่นอน ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่า กลัวนายกฯ ติดคอ นายอนุทิน จึงตอบกลับว่า กลืนเข้าไปก็ย่อยสลายหมด

ทั้งนี้ พบว่า ภานในงานมีผู้สมัคร สส. จังหวัดบุรีรัมย์พรรคภูมิใจไทย ทั้ง 10 เขต รวมทั้งผู้สมัคร สส. บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย เช่น ไตรศุลี ไตรสรณกุล และบางส่วนมามารอให้การต้อนรับ และร่วมพิธีด้วย

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...