เปิดคำสารภาพ "กาน เวลไฟร์" เล่านาทีควักปืนยิงดับบนทางด่วน ยันไม่ตั้งใจเอาชีวิต ขออโหสิกรรม
สอบปากคำ "กาน เวลไฟร์" อ้างป้องกันตัวหลังอีกฝ่ายขับรถปาด ถูกด่าท้าทาย ก่อนเกิดเหตุยิงบนทางด่วน
ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญบนทางด่วน กรณี “กาน เวลไฟร์” หรือ นายสงกรานต์ พานภู่ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียด โดยผู้ต้องหาอ้างว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการป้องกันตัว หลังมีการขับรถปาดหน้ากันจนเกิดปากเสียงรุนแรง
พนักงานสอบสวนศูนย์สืบสวน บช.น. ร่วมกับ กก.สส.บก.น.2 ได้สอบปากคำ กาน เวลไฟร์ ก่อนนำตัวเข้าห้องควบคุมของ สน.ประชาชื่น พบว่าผู้ต้องหายังคงสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงขายาวสีขาวชุดเดิมตั้งแต่ถูกจับกุม สภาพร่างกายอิดโรยและอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด โดยทันทีที่ถูกนำตัวเข้าเรือนควบคุม ก็ได้ฟุบหลับลงกับพื้นห้องขัง
เบื้องต้น กาน เวลไฟร์ ให้การยอมรับสารภาพในประเด็นการก่อเหตุยิงบนทางด่วน โดยยอมรับว่ามีสาเหตุมาจากการขับรถปาดหน้ากัน ก่อนสถานการณ์จะบานปลายจนเกิดเหตุรุนแรง
โดยเจ้าตัวยันกับตำรวจว่าไม่รู้จักกัน แต่ที่ชักปืนเพราะอีกฝ่ายลดกระจกด่า ยิงไปแล้วมารู้ข่าวอีกวันว่าเขาเสีย ยังเครียดอยู่เลย ยืนยันไม่มีเจตนาฆ่า มันพลั้งพลาดไป แค่วินาทีเดียว อยากขออโหสิกรรม
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ตำรวจแจ้งหลายข้อหา เตรียมทำสำนวนคดี
วันนี้ (25 ธ.ค.) เวลาประมาณ 04.00 น. ตำรวจศูนย์สืบสวน บช.น. และตำรวจสืบสวน บก.น.2 ได้ควบคุมตัวนายสงกรานต์ หรือ กาน เวลไฟร์ ผู้ต้องหาในคดียิงชายวัย 24 ปี เสียชีวิตภายในรถเก๋ง บริเวณหลังด่านเก็บเงินประชาชื่น ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอย่างเป็นทางการ
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ปมเหตุเริ่มต้นจากการขับรถปาดหน้ากันบนทางด่วน ก่อนจะมีการใช้อาวุธปืนก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่า และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พิสูจน์หลักฐานตรวจเขม่าปืน ผบช.น. เตรียมแถลงข่าว
ต่อมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าดำเนินการพิมพ์เก็บลายนิ้วมือ ตรวจสอบเขม่าปืน และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาเข้าสู่ห้องขังตามขั้นตอน
ขณะที่ในช่วงบ่ายวันนี้ พลตำรวจตรี สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมแถลงข่าวความคืบหน้าคดีดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ณ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ในเวลา 13.00 น.