โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

มัดรวมประเด็นร้อนธุรกิจปี 68 ข้อพิพาท-สงครามแข่งขัน-บิ๊กดีล-ปิดกิจการ

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ส่งท้ายปีอย่างเป็นทางการ “โลกธุรกิจ” ยังคงเต็มไปด้วยเรื่องราว “บวก-ลบ” กิจการมีเติบโต หดตัว การแข่งขันมีทั้งดุเดือด สร้างสรรค์ การเป็นพันธมิตรมีให้เห็นเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต กรุงเทพธุรกิจ ชวนดูบทสรุปปี 2568 ธุรกิจ การตลาดมีอะไรเกิดขึ้น โดดเด่นบ้าง

ข้อพิพาทแห่งปี “เนสท์เล่-มหากิจศิริ”

ศึกธุรกิจใด จะร้อนแรงเท่ากับการแยกทางของพันธมิตรกว่า 3 ทศวรรษ ระหว่าง“เนสท์เล่” ยักษ์ธุรกิจอาหารระดับโลก ทำธุรกิจในไทยจนเป็น “องค์กรร้อยปี” กับ“ตระกูลมหากิจศิริ” ภายใต้ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส(QCP) กับปมการยุติการผลิต จำหน่ายแบรนด์ “เนสกาแฟ” จนทำให้ช่วงไฮซีซัน หรือเมษายน 2568 ที่ผ่านมา สินค้าขาดตลาดไปหลายรายการใ ทั้งกาแฟทรีอินวัน กาแฟปรุงสำเร็จ และกาแฟพร้อมดื่ม เป็นเวลาทั้งสิ้น 8 วัน

เมื่อฝ่ายหนึ่งบอกเลิกสัญญาการผลิต ทำให้อีกฝ่ายพึ่งกระบวนการศาลสถิตยุติธรรม เกิดการฟ้องร้องกันทั้งศาลอนุญาโตตุลาการสากล อีกฝ่าย “มหากิจศิริ” ได้ร้องขอต่อศาล จนศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้เนสท์เล่ผลิตและขายสินค้า เมื่อเกิดผลกระทบ “เนสท์เล่” จึงฟ้องเรียกค่าเสียหาย 577 ล้านบาท ในช่วงสุญญากาศไร้สินค้าสู่ตลาด

เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะระหว่างทาง “มหากิจศิริ” ได้ใช้อินฟลูเอนเซอร์ดังระดับโลก “Nas Daily” ที่มีผู้ติดตามหลายสิบล้านราย บอกเล่าเรื่องราว ประวัติของ “ประยุทธ มหากิจศิริ” กับการปลุกปั้นเนสกาแฟ เรดคัพ พร้อมยกการดูแลแบรนด์ประหนึ่งลูกที่ประคบประหงมมาอย่างยาวนานในประเทศไทย

“สุกี้” สงครามหม้อร้อนปะทุ!

ตลาดร้านอาหาร 4-5 แสนล้านบาท เชื่อว่าทุกหมวดหมู่ดุเดือด ทว่า ยกให้สงครามแห่งปีต้องเป็น “สุกี้” เพื่อรุ่นใหญ่ “เอ็มเค สุกี้” แลกหมัดแข่ง “ราคา” กับ “สุกี้ ตี๋น้อย” แน่นอนว่า กระทบกับร้านอื่นๆในหมวดหม้อร้อนด้วย ที่แน่ๆ ผลของการห้ำหั่นกันด้วย “ราคา” ทำให้ต่าง “บาดเจ็บ” เพราะผลประกอบการไตรมาส 3 เห็นชัดว่า “กำไรลด” กันพอสมควร

ท่ามกลางสุกี้แข่งเดือด! ความระอุเพิ่ม เพราะ “เอ็มเค” ขอลุย Budget Buffet หรือรุกสุกี้ตลาดคุ้มค่าอย่างเป็นทางการด้วยแบรนด์“BONUS SUKI” ที่เปิดมา 6 เดือน โกยยอดขายแล้ว 200 ล้านบาท เรียกว่าพร้อมชกทุกตลาดหม้อร้อนอย่างแท้จริง

อีกหมวดที่สู้กันเงียบๆ แต่ “ขาใหญ่” ชกกัน คือตลาดร้านอาหารบริการด่วน(QSR) “ไก่ทอด” หมื่นล้านบาท ที่ “เคเอฟซี” ยืนหนึ่งเป็นผู้นำตลาด สังเวียนนี้ “แมคโดนัลด์” ก็ท้าชิงมาโดยตลอด ยังมีไก่ทอดจาก “บอนชอน” และอีกหลายแบรนด์แทรกตัวเข้ามา ทว่า ที่ส่งท้ายปีต้องยกให้การขยับตัวของ “เอสแอนด์พี” ยักษ์ใหญ่เบอเกอรี ร้านอาหารกว่า 50 ปี ที่ส่งทายาท “ปราการ ไรวา” มาเป็น แม่ทัพลุยแฟรนไชส์ไก่ทอดจากสหรัฐอย่าง “Wing Stop” เข้าสู่ตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ส่วนที่นำร่องไปก่อน แล้วเมนูแทบจะคล้ายกับเชนจากสหรัฐ คือ “JOE WINGS”

ตลาดไก่ทอดบอกเลยว่ามีแต่ “ทุนหนา-ขาใหญ่” แข่งกัน ทั้งเบอร์ 1 ค้าปลีก ยักษ์น้ำเมา(เคเอฟซี) บรรษัทน้ำมันแห่งชาติ บิ๊กโรงแรม ฯ

บิ๊กมูฟ “ดีล” ผนึกพันธมิตรเสริมแกร่ง

ยุคนี้ ไม่ใช่โตเดี่ยวแบบ One Man Show แต่ศาสตร์ Collaboration ผสานพลังสร้างการเติบโตถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง ทว่า ที่น่าสนใจ คือการเป็นพันธมิตรในรูปแบบการเข้าไปซื้อกิจการ ถือหุ้น ทั้ง “หนุนเงินทุน” ต่อยอดจุดแข็งเพื่อสปีดธุรกิจ ยกให้บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือผู้ผลิต “มาม่า” ที่จับมือกับ 2 พาร์ทเนอร์ คมสันต์ แซ่ลี และแม่ทัพอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เพื่อเข้าไปลงทุนใน “ชาจี”(CHAGEE) พร้อมประกาศเปิดสาขาอีกจำนวนมากในประเทศไทย สำหรับ “มาม่า” ที่มีกระแสเงินสดมาก มองหาธุรกิจที่สร้างโอกาสเติบโตอยู่เสมอ

ส่วนอีกดีล คือ บิ๊กร้านอาหารอย่าง บริษัทเซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ปจำกัด หรือ CRG ที่ทุ่มเงิน 940 ล้านบาท เพื่อปิดดีลเข้าซื้อหุ้น 40% สู่การเป็น “พันธมิตร” กับบริษัทมิราเคิล แพลนเนทจำกัด (MP)หรือเจ้าของร้าน“ลัคกี้ สุกี้” ถือเป็นการสานฝันได้สำเร็จ หลังจากบริษัทควานหา “จิ๊กซอว์” ธุรกิจสุกี้ ชาบูมาหลายปีเพื่อเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอร้านอาหารให้ครบครันยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีดีลระหว่าง “บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ปจำกัด(มหาชน)” ที่ได้ขยับ “ร่วมทุน” กับบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้งจำกัด(มหาชน) เพื่อจัดตั้ง บริษัททีเคเอ็น แอนด์ เมเจอร์ ป๊อบคอร์นจำกัด ภายใต้ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท หมากรบครั้งนี้เป็นการสะท้อน 2 บิ๊กคอร์ปเอาจริงตลาด “ป๊อปคอร์น” เพื่อหาน่านน้ำใหม่ในการสร้างรายได้ ผลักดันการเติบโต

ไลฟ์คอมเมิร์ซ-อินฟลูเอ็นเซอร์ “เจนนี่” ทุบราคาค่าตัว

ความร้อนแรงของชอปปิงออนไลน์ เป็นอะไรที่ฉุดไม่อยู่ เดิมกลางค่ำกลางคืนเป็นช่วงเวลาของการนอนหลับพักผ่อน ปัจจุบันกลับเป็นนาทีทองที่เงินไหลออกจากกระเป๋า เพราะดีลดีมีมาไม่ขาด การชอปปิงปี 68 ยังเข้าสู่โหมดเอ็นเตอร์เทนเมิร์ซ บันเทิงคู่ค้าขายสินค้า ที่ฮิตสร้างปรากฏการณ์แห่งปี เช่น เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่นมาไลฟ์ผ่านแพลตฟอร์มดัง ทำเงิน ทุบสถิติถล่มทลาย แต่อีกด้าน คือการเห็น “พลังอินฟลูเอนเซอร์” ที่เป็นหมัดฮุกดึงลูกค้า

ทว่า กรณีศึกษาของ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” คือการ “ทุบราคา” ค่าตัวของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีคนตามมหาศาลให้อยู่ในระดับต่ำจนน่าตกใจ

การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ทรงพลัง แต่ปี 2568 ดราม่ามีมาไม่เว้น เช่น เชฟชื่อดัง อินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพที่กล่าวถึง “นมวัวไทยอาจไม่ใช่นมวัวแท้ 100% แต่เป็นนมผง” ทำให้ทัวร์ลงผู้พูด และลามถึงแบรนด์นม

นอกจากนี้ แจ็กแปปโฮ (Jack Papho) ที่มีผู้ติดตาม(Follower) หลายล้าน เต้นบนหลังคารถ ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ทั้งอินฟลูเอนเซอร์ดังอื่นๆ ไปเตือนถึงความไม่เหมาะสม การไม่เคารพวัฒนธรรมประเทศนั้นๆ หรือมารยาทขั้นพื้นฐาน ทำให้สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย(MAT) หรือบรรดานายกสมาคมวงการสื่อ โฆษณา ออกมาแนะนำการสร้างคอนเทนต์ควรสร้างพลังบวกจาก Drama Queen สู่ Drama Quality เป็นการใช้น้ำดีไล่น้ำเสีย

แรงกระเพื่อม “หงส์ไทย” ไม่รอด อย.

ประเด็นใหญ่เรื่องธุรกิจที่มีผลต่อผู้บริโภค ต้องยกให้กรณี สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ประกาศว่า ยาดมสมุนไพรตรา “หงส์ไทย” สูตร 2 เลขทะเบียนตำรับยา G 309/62 รุ่นที่ผลิต 000332 วันที่ผลิต 09/12/2024 วันสิ้นอายุ 08/12/2027 พบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ สะเทือนธุรกิจอย่างมาก ไม่เท่านั้น ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคด้วย

ทว่า ไม่ใช่แค่ “หงส์ไทย” ที่ต้องเจอการสุ่มตรวจสินค้าในลักษณะดังกล่าวจาก อย. เพราะ “บิ๊กคอร์ป” ที่มีแบรนด์ไทย “KMA cosmetics” ซึ่งจัดจำหน่ายโดยบริษัทโอซีซี จำกัด (มหาชน) คร่ำหวอดในตลาดไทยกว่า 30 ปี สินค้าส่วนใหญ่ผลิตจากโรงงานในเครือสหพัฒน์ มีบางสินค้าที่ผลิตจากเกาหลี เยอรมัน หรือ จีน โดยโรงงานที่ผลิตต้องได้รับการ certified GMP, HACCP, ISO รวมถึงการ certified ตามมาตรฐานอื่นๆระดับสากลที่เชื่อถือได้ ก็เคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกับ “หงส์ไทย” มาแล้ว

จากกรณีกังกล่าว ทำให้ผู้บริหารออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวของแบรนด์ KMA ที่ดือนเมษายนปีนี้ บริษัทได้รับแจ้งมาจาก อย. ว่าตรวจพบสารปรอทโดยกองด่าน อย. ตอนนำสินค้าเข้า ในสินค้า KMA Multi face stick สี Pink Aurora ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตมาจากโรงงานในประเทศจีน โดยทาง กองด่าน แจ้งว่า เป็นการตรวจสอบโดยกรมวิทย์ อย่างไรก็ตาม บริษัทโดยทีมงานได้สอบถามว่า ใช้วิธีไหนในการตรวจ เพื่อทำการตรวจซ้ำในวิธีเดียวกันจะได้เอาผลมายันกัน แต่ทาง อย. ก็ไม่ให้คำตอบในส่วนดังกล่าว มีการปฏิเสธไม่ให้ดูผลตรวจ เป็นต้น

ทั้งนี้ ผลกระทบไม่ได้เกิดกับสินค้า “ล็อตหรือ SKU ที่ตรวจพบ” แต่สั่นคลอนความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ในภาพรวม ที่สำคัญยังมีความกังวลใจเกี่ยวกับสินค้าที่ “ตกเป็นเหยื่อ” ด้วย

ธุรกิจโบกมือลาส่งท้ายปี

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปี 2568 เป็นปีที่โหดหินเอาเรื่อง เพราะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ก่อหวอดหลายภูมิภาค สงครามการค้า ล้วนมีผลต่อการฉุดรั้งเศรษฐกิจไทย กำลังซื้อผู้บริโภคหดตัว หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง สิ่งที่ตามมาคือ “ธุรกิจสายป่านสั้น” หรือมองแล้ว เดินหน้าต่อไม่คุ้มค่าการลงทุน ทำให้ปีนี้หลายกิจการ“โบกมือลา” ในสมรภูมิการค้า

เช่น เทโร เรดิโอ ปิดตำนาน 35 ปี หลังสร้างสุขให้คนฟังวิทยุชาวไทย ,The Body Shop ปิดทุกสาขาในประเทศไทย, ร้านอีวาไอเมะ โบกมือลาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา, ร้านอาหารเทนยะ ภายใต้ซีอาร์จี บ๊ายบ๊ายตลาด เป็นต้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...