เพราะ “แม่ริม” เป็นเมืองน่ารัก

ก่อนที่อุณหภูมิอันร้อนแรงจะเริ่มกลับมาอีกครั้งแต่ช่วงเวลาที่เราไปเยือนอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ยังสัมผัสได้ถึงลมเย็นของปลายฤดูหนาว ที่นี่ยังมีดอกไม้บานกับภาพทิวเขาสีเขียวชอุ่มเป็นฉากหลังราวกับหลุดมาจากโปสต์การ์ดมีออนเซ็นจากน้ำแร่ธรรมชาติและคาเฟ่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของเบเกอรี่อบใหม่   ★ เดินไปบนเส้นทางสายดอกไม้ ★   ตั้งแต่สัญญาณแห่งฤดูหนาวเริ่มปรากฏ อำเภอแม่ริมจะคึกคักเป็นพิเศษพร้อมกับการมาถึงของผู้คนจากต่างถิ่นที่เฝ้ารอทุ่งดอกไม้สีสดให้งอกงามและเบ่งบานอันเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของที่นี่ไปเสียแล้ว  

  I Love Flower Farm สวนดอกไม้ขนาด 8 ไร่ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ออกไปราวๆ 40 นาทีที่แม้จะเพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปีก่อน แต่ดอกไม้สีสดของที่นี่ก็สร้างกระแสในโซเชียลมีเดียจนกลายเป็นหมุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวอย่างรวดเร็วเมื่อเรามาถึงก็ไม่แปลกใจ เพราะนอกจากดอกไม้จะสวยแล้วยังมีระบบการจัดการที่ดี ทั้งการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมต่อวันเพื่อจะได้ดูแลอย่างทั่วถึง รวมทั้งการให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมคอยขับรถพ่วงข้างรับส่งจากลานจอดรถถึงหน้าสวน  

  ดอกไม้ที่นี่มีหลากหลายสายพันธุ์ซึ่งผลัดกันอวดโฉมตามฤดูกาลช่วงที่เราไปถึงที่สวนกำลังนุ่มฟูไปด้วยสีขาวสะอาดของดอกคัตเตอร์กับกังหันเล็กๆ ที่หมุนไปตามแรงลม (ดอกมาร์กาเร็ตสีม่วงสดยังพอมีให้เห็นบ้างประปราย) เราจึงได้เห็นนักท่องเที่ยวในชุดเดรสสีสดใสตัดกับดอกไม้พร็อปสวยๆ อย่างหมวกปีกกว้างร่มวินเทจและท่าโพสต์ถ่ายรูปที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาชนิดที่ว่าไม่เหนื่อยไม่มีทางหยุด และที่น่ารักไปกว่านั้นคือที่สวนมีชุดของว่างเป็นน้ำสมุนไพรเย็นฉ่ำและขนมไทยอร่อยๆ ฝีมือพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยในชุมชนไว้ต้อนรับอย่างดี (ขนมต้มอร่อยมาก)เพลินจนลืมเวลาไปเสียสนิท (ค่าเข้าชม 70 บาท)  

  ถัดออกไปไม่ไกลนักเป็นที่ตั้งของสวนลุงรนอีกหนึ่งสวนดอกไม้ที่กำลังมาแรงเหลือเกิน สวนลุงรนสามารถเข้าชมแบบวอล์กอินได้โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า (ค่าเข้าชม 50 บาท) ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ที่นี่เราจะได้เห็นดอกคัตเตอร์กำลังบานสะพรั่งสู้แดดจนเป็นสีขาวโพลนยิ่งปีนขึ้นไปถ่ายรูปจากมุมสูงยิ่งสนุก เพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังจมอยู่ในทะเลดอกไม้พร้อมด้วยพร็อปคู่ใจอย่างตะกร้าใบจิ๋ว ส่วนใครเป็นสายโมเดล ลองไปยืนถ่ายรูปที่สะพานไม้รับรองว่าได้รูปสวยๆ กลับไปอวดให้ใครต่อใครอิจฉาแน่นอน  

  นอกจากนี้ที่อำเภอแม่ริมยังมีสวนดอกไม้ของชุมชนให้เข้าชมอีกหลายแห่งด้วยกัน อาทิสวนลุงลพ, ไร่ดอกลมหนาว,We Flower Village,สวนป้าปวน, สวนลุงกล้าฯลฯ ซึ่งเกษตรกรชาวแม่ริมร่วมใจกัน “เปิดบ้าน” ให้คนต่างถิ่นเข้าไปชื่นชมความสวยงามของเหล่าดอกไม้ได้อย่างเป็นมิตรถูกใจสวนไหนก็แวะได้เลย   ★ แช่ออนเซ็น-นอนเรียวกังที่โอบล้อมด้วยทิวเขาที่ Onsen@Moncham ★   หากใครเคยสัมผัสประสบการณ์การแช่ออนเซ็นและพักผ่อนในโรงแรมแบบเรียวกังที่ประเทศญี่ปุ่นมาก่อนออนเซ็น แอท ม่อนแจ่ม (Onsen@Moncham) จะพาความทรงจำเหล่านั้นย้อนกลับมาอีกครั้ง  

  ท่ามกลางวิวทิวเขาลดหลั่นเหมือนรูปวาดของอำเภอแม่ริม เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,200 เมตรเป็นที่ตั้งของโรงแรม 5 ดาวที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวอย่างที่สุด ฝีมือการออกแบบของศิลปินแห่งชาติ อาจารย์กฤษฎา โรจนกรซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากปราสาทคัทสึระ เมืองเกียวโต ที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายล้านนาแบบเชียงใหม่  

  มาถึงที่นี่ทั้งทีสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรกคือเปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะแล้วออกเดินสำรวจกันก่อน (อย่าลืมคว้าร่มญี่ปุ่นในห้องออกมาด้วย) ห้องพักของออนเซ็น แอท ม่อนแจ่ม มีเพียง 16 ห้องเท่านั้นฝั่งเหนือออกแบบในสไตล์ Traditional Ryokan ขณะที่ฝั่งใต้เป็นแบบญี่ปุ่นโมเดิร์นมีออนเซ็นในตัวส่วนด้านหลังมีบ้านดอกไม้ เรือนกระจกเล็กๆ ที่ปลูกดอกไม้สีสวยสดมองแล้วสบายตา เราไม่ลืมทักทายนกยูงอินเดีย หงส์และพลพรรคน้องเป็ดคอลดั๊กและเป็ดแมนดารินที่กำลังว่ายน้ำในบ่ออย่างเพลิดเพลิน  

  ไฮไลต์ของการมาพักไกลถึงที่นี่คือการปลดเปลื้องความเหนื่อยล้าแล้วไปแช่ออนเซ็นที่ The Onsen โรงออนเซ็นขนาดใหญ่ที่ออกแบบได้คลาสสิกเหมือนยกมาจากญี่ปุ่นอย่างไรอย่างนั้น ด้านในแบ่งฝั่งชาย-หญิงอย่างเป็นสัดส่วนและใช้ระบบควบคุมออนเซ็นจากญี่ปุ่นทั้งหมดมีโซนสำหรับวางตู้ล็อกเกอร์ โต๊ะเครื่องแป้ง ยิ่งชาวแม่ริมโชคดีได้อยู่ในพื้นที่ของแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ น้ำร้อนที่ใช้จึงเป็นน้ำแร่ซึ่งดีต่อผิวพรรณ(แช่แล้วผิวเปล่งปลั่ง) มีสวนหินแบบญี่ปุ่นให้เราได้พักผ่อนสายตาระหว่างแช่ออนเซ็นด้วย  

  ส่วนใครยังไม่เคยแช่ออนเซ็นมาก่อนไม่ต้องเขินอาย เพราะที่โรงแรมมีคู่มือพร้อมภาพประกอบที่น่ารักเข้าใจง่าย ข้อปฏิบัติในการใช้ออนเซ็นร่วมกัน รวมถึงมีสตาฟที่คอยดูแลอย่างดี ที่สำคัญบุคคลภายนอกก็ซื้อ Onsen Pass เข้ามาใช้บริการได้ในราคา 750 บาทต่อคน ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่นแล้ว   ★ Mee | Zü | Nam มื้อค่ำหลังแช่ออนเซ็น ★   หลังจากปล่อยร่างกายและหัวใจให้ผ่อนคลายด้วยการอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนก็ถึงเวลาของมื้อค่ำที่ Mee | Zü | Nam (มี-ซู-นาม) ห้องอาหารแบบโอเพนแอร์พร้อมวิวภูเขา วันที่เรามาพักเป็นวันที่อากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ (ถึงขั้นต้องมีฮีตเตอร์ทุกโต๊ะ) ยิ่งเพิ่มความสุนทรีให้มื้อนี้ยิ่งขึ้นไปอีก  

  เชฟเสก ภูมิพัฒน์ เฮดเชฟของที่นี่น่าจะคุ้นตากันอยู่แล้ว เพราะเคยปรากฏตัวในรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทยมาก่อน เชฟบอกกับเราว่าคำว่า “มีซูนาม”สื่อถึง “น้ำ” ล้อไปกับคอนเซ็ปต์ของโรงแรม(นอกจากMee | Zü | Nam แล้วยังมีห้องอาหาร Ee | Sü | Ki ที่เด่นเรื่องไวน์และวิสกี้ และ Ka | Fëที่ตอนเช้าจะเสิร์ฟอาหารเช้าแบบเรียวกังเก๋มากทีเดียว)   ด้วยความที่ทำเลตั้งอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบอย่างผักและผลไม้ที่สดใหม่ บวกกับอากาศเย็นสบายแทบทั้งปี ค่ำนี้เราจึงได้ชิมเมนูอร่อยๆ หลายคอร์สด้วยกัน เรียกน้ำย่อยด้วย Beef Tataki เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ย่างให้ผิวนอกสุกแต่เนื้อในยังดิบสไลซ์บาง ราดน้ำซอสรสเปรี้ยวที่มีส่วนผสมของกระเทียม ขิง มิริน กินคู่ผักสด เนื้อนุ่มและฉ่ำซอส ต่อด้วย Assorted Sashimi ชุดซาชิมิรวมทั้งแซลมอน โอโทโร ซาบะ ปลาหมึก และเมนูที่เข้ากับบรรยากาศ Pork Lover ชุดยากินิกุที่เชฟใช้เนื้อสันคอหมูสไลซ์ชิ้นสวยแล่มาให้เราย่างบนแผ่นเหล็กและเตาโบราณควันฉุยแบบชิ้นต่อชิ้น เสิร์ฟพร้อมผักสดชุดข้าวเครื่องเคียง และน้ำจิ้มยากินิกุ สลัดงา และน้ำจิ้มพอนสึช่วยแก้หนาวได้ในทันที  

  นอกจากอาหารญี่ปุ่นแล้วอยากให้ลองชิม น้ำพริกหอม สูตรของชาวม้ง (เชฟเล่าอย่างอารมณ์ดีว่าทุกครั้งที่ทำจะมีชาวม้งยืนกำกับเชฟอยู่ข้างๆ) น้ำพริกหอมสูตรนี้ใส่หอมมากเป็นพิเศษ นำไปผัดแล้วใส่ถั่วเน่าตากแห้ง ใส่มะเขือเทศ กินกับผักโครงการหลวงและไส้กรอกญี่ปุ่นไส้สมุนไพรเนื้อกรอบเข้ากัน มองเผินๆ เหมือนรสเบาแต่บอกเลยว่ารสจัดจ้านถึงใจ  

  อิ่มคาวแล้วขอตบท้ายด้วยของหวาน Mee Zu Mochi โมจิหยดน้ำใสกิ๊งมาพร้อมถั่วคินาโกะป่นหอมมันและน้ำเชื่อม และ Strawberry Cream Cheese ได้รสชีสชัดเจนเสิร์ฟกับซอสสตรอว์เบอร์รีรสเปรี้ยวตัดกัน ฝันหวานแล้วคืนนี้  

  ★ ตามหาขนมอร่อยที่คาเฟ่ในฝัน ★   ก่อนโบกมือลาแม่ริมอีกภารกิจที่ตั้งใจเป็นอย่างยิ่งคือการไปคาเฟ่ฮอปปิงสุดน่ารักที่ชาวเชียงใหม่บอกต่อกันปากต่อปาก เริ่มที่ DOUGH ร้านเบเกอรี่โฮมเมดขนาดกะทัดรัดที่ตั้งอยู่ทางขึ้นม่อนแจ่มของคุณโดนัท นักอบขนมต่างถิ่นที่หลงรักเชียงใหม่เข้าเต็มหัวใจจนตัดสินใจปักหลักอยู่ที่นี่ คาเฟ่สีขาวของเธอเรียบง่าย แต่งแต้มสีสันด้วยโปสต์การ์ดลายเส้นเก๋บนผนัง ส่วนพื้นที่ด้านนอกจัดไว้อย่างน่ารัก มีผ้าปูพื้นและของกุ๊กกิ๊กเหมือนเราได้มานั่งปิกนิกนอกสถานที่  

  ขนมของคุณโดนัทมีให้เลือกวันละ 5-8 เมนูและทำเมนูละไม่กี่ชิ้นเท่านั้น เพราะอยากให้เราได้กินเบเกอรี่อบใหม่แบบไม่เหลือค้าง อาทิ Strawberry Croissant เราชอบที่เนื้อในมีแยมสตรอว์เบอร์รีรสเปรี้ยวเล็กๆ เข้ากับรสหวานละมุนของครีมสดและความฉ่ำของผลสตรอว์เบอร์รีลูกโต Canelé ขนมสัญชาติฝรั่งเศสที่ชนะใจด้วยกลิ่นหอมของคาราเมล ผิวนอกกรอบ เนื้อในนุ่มอร่อย  Matcha Cake เค้กชิ้นเล็กแต่อัดแน่นด้วยกลิ่นหอมและรสเข้มๆ ของมัตฉะใครขับรถมาเที่ยวม่อนแจ่มอย่าลืมแวะทักทายคุณโดนัทและชิมขนมฝีมือเธอ  

  ปิดท้ายทริปนี้ที่คาเฟ่แห่งความฝัน “Ausaa”คาเฟ่เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในรั้วเดียวกับบริเวณบ้าน แค่เปิดประตูก็เหมือนหลุดเข้าไปในแอนิเมชันสักเรื่องของญี่ปุ่น นอกจากจะเต็มไปด้วยของสะสมสุดรักของเจ้าของร้าน ที่นี่ยังเปลี่ยนธีมการตกแต่งไปตามเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นฮัลโลวีน คริสต์มาส วาเลนไทน์ สงกรานต์ รวมถึงมีขนมหวานประจำฤดูทั้งหนาว ร้อน และฝนที่ดึงคาแรกเตอร์ของแต่ละฤดูมาใช้ได้อย่างน่ารักอย่างช่วงนี้เราได้ชิม Strawberry Chocolate Tartขนมแห่งฤดูหนาว ทาร์ตช็อกโกแลตที่มีทั้งความเข้มข้นและรสหวาน ท็อปด้วยสตรอว์เบอร์รีลูกอวบ สั่งคู่กับLemon Americanoที่เติมความสนุกให้อเมริกาโนด้วยกลิ่นหอมและรสเปรี้ยวอ่อนๆ ของเลมอน ส่วนคนรักพีชแนะนำ Peach Coffeeที่ผสมผสานรสกาแฟและกลิ่นพีชได้อย่างเหมาะเจาะ แถมมีเนื้อพีชให้ได้เคี้ยวอีกด้วยนั่งอ้อยอิ่งที่นี่อยู่นานจนลืมเวลา เห็นทีว่าจะต้องกลับมาอีกครั้งในเร็ววัน  

  ก็เพราะว่า “แม่ริม” เป็นเมืองน่ารัก   ขอขอบคุณ

• I Love Flower Farm FB : I Love Flower Farm (จองล่วงหน้าผ่าน Inbox) 
• สวนลุงรน (FB : lungrongarden)
• Onsen@Moncham293 หมู่ 2 ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 08-8268-7586 (FB : OnsenAtMoncham)
• DOUGHเส้นแม่ริม-สะเมิง (เลยปางช้างแม่สามา 200 เมตร) ก่อนขึ้นม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่เปิดบริการ 09.00-17.00 น.โทร.08-8252-4241 (FB : Doughbakeryhomemaed)
• Ausaaถนนโชตนา ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (GPS : 18.929804, 98.940910)เปิดบริการ 10.00-17.00 น. (หยุดวันอังคาร) (FB: ausaacafe)