[รีวิวเกม] “Spellbreak” มหาสงครามของเหล่าจอมเวทย์ในรูปแบบเกม Battle Royale ที่เปิดให้เล่นฟรี ๆ!!
คะแนนจากผู้อ่าน1 Vote9.2จุดเด่นภาพกราฟิกดีกว่าจะเป็นเกมฟรี มีสไตล์เป็นของตัวเองระบบเกมเข้าใจได้ไม่ยากหาห้องเล่นง่ายเล่นฟรีจุดสังเกตยังมีโหมดและด่านให้เล่นน้อยเกินไปหน่อย8.7
พูดถึงเกมแนว Battle Royale คือแนวเกมที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง โดยเกมแรกที่ทำออกมาแนวนี้เรียกได้ว่าเป็นรุ่นบุกเบิกเลยนั่นก็คือ PubG หลังจากนั้นก็มีเกมแนวนี้ตามออกมาอีกเป็นขบวน ซึ่งแต่ละเกมก็สร้างความแตกต่างกันออกไปตามสไตล์ของตัวเอง แต่ทว่าเกม “Spellbreak” นั้นกลับให้ความรู้สึกฉีกแหวกแนวมากขึ้นไปอีกขั้น โดยตัวละครที่มาเอาชีวิตรอดในสนามอันกล้างใหญ่นี้นั้นไม่ใช่ทหาร แต่เป็นจอมเวทย์ครับผม
และเป็นอีก 1 เกมที่ลงหลายแพลตฟอร์มซะเหลือเกินไม่ว่าจะ PS4, Xbox One, Nintendo Switch และ PC ผ่านร้านค้าออนไลน์ Epic Games Store นอกจากนี้ตัวเกมยังเปิดให้เข้าไปโหลดเล่นกันได้ ฟรี อีกด้วย!!!!!!!
GAME ABOUT
เกมนี้ถูกทำออกมาในรูปแบบ Battle Royale หรือก็คือแนวเอาชีวิตรอดจากผู้เล่นอื่น แต่สำหรับเกมนี้ผู้เล่นจะได้รับบทบาทเป็นเหล่าจอมเวทย์ ซึ่งตัวละครเราจะมีพลังพิเศษหรือสกิลแตกต่างกันออกไปตามอาวุธที่หาได้ภายในแผนที่ หากตายก็คือเกมจบ แต่ถ้าอยากชนะคุณต้องรอดและยืนหยัดให้ได้เป็นคนสุดท้าย
GAME PLAY
เหมือนเดิม แต่แตกต่าง เหมือนจะเล่นยาก แต่ระบบสอนดีเกินเลยกลายเป็นง่ายซะงั้น
หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นเกมแนว Battle Royale ของจอมเวทย์แล้วจะต้องฟาร์มอะไรล่ะ? จอมเวทย์มันใช้เวทย์แล้วจะมีอาวุธอะไรให้เก็บงั้นเหรอ หึหึ บอกเลยว่าเพียบ ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ สำหรับคนยังไม่เคยเล่น เกมนี้มันจะมีอาวุธเป็นถุงมือ โดยแต่ละถุงมือจะสามารถใช้เวทย์ที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ Frostborn, Conduit, Pyromancer, Toxicologist, Stoneshaper และTempest พูดง่าย ๆ ก็คือธาตุต่าง ๆ อย่าง ไฟ น้ำแข็ง ลม สายฟ้า หิน และ พิษ นั่นแหละ ซึ่งตัวเราจะสามารถสวมถุงมือได้ 2 ข้าง (ข้างละธาตุ) โดยมือซ้ายเราจะสามารถเลือกได้ว่าจะใช้อะไรก่อนเริ่มเกม ส่วนข้างขวาเราต้องหาเก็บเอาเองตามแมป นอกจากนี้ก็ยังมีพวกเสื้อผ้า สกิลเสริม หรือของต่าง ๆ เอาไว้เพิ่มเลือด เกราะ หรือทำให้มานาเราเยอะขึ้น ซึ่งของแต่ละอย่างเองก็มีเลเวลของมันเหมือนกับเกมอื่น ๆ เลย เช่นสีขาวอ่อนสุด สีส้มคือโหด เป็นต้น เหมือนจะมีอะไรที่ต้องเรียนรู้เยอะไปหมดใช่ไหมล่ะครับ แต่บอกเลยก่อนเริ่มเกมเราจะเจอกับระบบสอนที่ทำออกมาได้ดีมาก ทำให้เราเข้าใจระบบเกมมากขึ้นจนสามารถลงสนามจริงได้เลย
อีก 1 จุดที่ชื่นชอบของเกมคือตอนเริ่มเกม ซึ่งปกติเกมแนว Battle Royale จะนั่งเครื่องบินและให้เรากระโดดลงมาเอง ต่างกับเกมนี้ที่ก่อนเริ่มตัวเกมจะให้เราเลือกจุดเกิดได้เองตั้งแต่แรกโดยการจิ้มลงไปในแมป ซึ่งเราต้องวัดดวงล้วน ๆ ว่าจุดที่เราจิ้มมันจะไปตรงใจกับคนอื่นรึเปล่า ถ้าเจอก็ต้องวัดสกิลเพลย์กันสักหน่อยว่าใครจะอยู่ใครจะไป ซึ่งหากเป็นเกมอื่นเราจะเห็นคนอื่นกระโดดซึ่งสามารถเลี่ยงจุดที่คนลงเยอะได้
หาห้องเล่นง่าย ระบบให้เล่นยังน้อยเกินไป แต่แค่นี้ก็สนุกแล้ว
ซึ่งเกมนี้มีระบบให้เล่นน้อยมาก ๆ โดยมีแค่โหมด Battle Royale เท่านั้น โดยก่อนเริ่มสามารถเลือกได้ว่าอยาก Solo หรือ เล่นแบบเป็นทีม แต่ก็ถือว่าสนุก และไม่น่าเบื่อเลย โดยเฉพาะการเล่นเป็นทีมกับเพื่อน ซึ่งการปะทะกันของแต่ละทีมมันอลังการและเวอร์มาก นับเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเกมแนวนี้เลย นอกจากนี้ไม่ต้องกังวลว่าโหลดมาเล่นแล้วจะมีคนเล่นอยู่รึเปล่า บอกเลยว่าเพียบ หาห้องไวมาก ๆ รอไม่ถึงนาทีก็เจอห้องเล่นแล้ว
ยิงยาก ฆ่ากันยาก สกิลเพลย์และการฟาร์มสำคัญมากสำหรับเกมนี้
มีอีกจุดที่ผมสังเกตุหลังจากเล่นเกมนี้ไปหลายรอบ นั่นก็คือ 1 แมทช์ จะมีผู้เล่นอยู่ประมาณ 42 คนเท่านั้น ต่างกับเกมอื่น ๆ ซึ่งบางเกมมีมากกว่า 100 คนด้วยซ้ำ และผมก็ค้นพบคำตอบว่าทำไมผู้เล่นที่มาเอาชีวิตรอดกับเราถึงได้น้อยขนาดนี้ นั่นก็เพราะเกมนี้ฆ่ากันยากมากกกกกกก !! โดยความที่เป็นจอมเวทย์ตัวละครทุกตัวสามารถลอยได้เป็นปกติอยู่แล้ว ทั้งยังมีสกิลเสริมให้ใช้ (แล้วแต่เราจะเก็บได้) ไม่ว่าจะหายตัว วิ่งไว บิน วาร์ป เต็มไปหมด ทำให้ตัวละครมีความยืดหยุ่นและพริ้วมาก ยิงกันยากสุด ๆ สกิลปล่อยกันแต่ละทีกว่าจะโดน ไหนจะมีเกราะ แถมแดมเมจโดนทีก็ใช่ว่าจะแรง ต้องขยันฟาร์มให้ตัวเราอึดขึ้น ยิงแรงขึ้น ดังนั้นสกิลเพลย์ของผู้เล่นกับประสบการณ์การเล่นอาจจะจำเป็นระดับนึงถึงจะสามารถเล่นเกมนี้ได้อย่างชำนาญ
GRAPHIC
โดยรวมกราฟิกเกมนี้ทำออกมาได้ดีและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองสูงมากสำหรับเกมฟรี เฟรมเรตภายในเกมทำออกมาได้ลื่นไหลไม่รู้สึกว่ามีจุดไหนให้ขัดใจเลย แถมไม่ค่อยกินสเปคคอมมากนัก ตัวเกมได้ออกแบบสิ่งของต่าง ๆ ภายในเกมไม่ว่าจะตึกรามบ้านช่อง ไอเทม ตัวละคร ให้เรารู้สึกว่าเออเนี่ยแหละคือศึกของจอมเวทย์จริง ๆ เอาจริง ๆ ต่อให้เกมนี้ต้องเสียเงินซื้อถ้ามีกราฟิกแบบนี้ผมก็ยอมควักกระเป๋าจ่ายครับ
สรุป
นี่คือเกมที่จะมอบประสบการณ์การเล่นเกมแนว Battle Royale แบบใหม่ให้แก่ผู้เล่นทุกคน ซึ่งไม่สามารถหาได้กับเกมไหน ๆ ภาพกราฟิกระบบการเล่นดีเกินกว่าจะเป็นเกมฟรีด้วยซ้ำ ระบบการเล่นหลากหลายแต่ก็ทำออกมาให้เข้าใจง่าย แม้คุณจะเป็นผู้เล่นใหม่ก็สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองเป็นพวกชอบเอาชนะ ชอบฟาร์ม ชอบจอมเวทย์ และที่สำคัญชอบเกมฟรี (ฮา) เกมนี้เป็นอีก 1 ทางเลือกของคุณที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ