การเมืองปีม้าลุยไฟร้อนแรง พลิกผัน ลุ้นตั้งรัฐบาล “มีเทามีเรา”

การเมืองปีม้าลุยไฟร้อนแรง พลิกผัน ลุ้นตั้งรัฐบาล “มีเทามีเรา”

เปิดฤกษ์พุ่งชน ปี 2569 ม้าไฟอาละวาด เปลี่ยนแปลงแรงจัดปลัดบอก ต้องสูดลมหายใจให้ทะลุปอด ตั้งสติฟัดกับวิกฤติตลอดปี

กระดาษอำนาจทางการเมืองพลิกผันตามสถานการณ์ บนภาพรวมเศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคงล้อตามเงื่อนไขต่อจากปีเก่า สะท้อนเคล้าล่างในปีนี้ที่มีกับระเบิดวางเอาไว้ตลอดเส้นทาง นิติสงครามยังเป็นเครื่องมือตัวเปลี่ยนเกมอำนาจที่ห้ามกระพริบตา

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม้ลงนามยุติหยุดยิง ปล่อยตัวเชลยศึก 18 นาย แต่เหตุการณ์ยังลุ้นรอปะทุทะลุเพดาน ถูกโยกไปพัวพันสมรภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิเศรษฐศาสตร์ ชาติมหาอำนาจเข้ามาแทรกซึม ตั้งแท่นเข้าชาร์จแทรกแซงได้ตลอดเวลา

สหรัฐอเมริกาขยับ จีนเขยื่อน ทหารรับจ้างเกลื่อนตะเข็บชายแดน มิติความมั่นคงยังผกผันตามอาการจัดระเบียบโลกใหม่ กองทัพไทยวางยุทธศาสตร์รับมือตลอดเวลา ตูมมาก็ทิ้งไข่เอาคืน เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย

ล้างบางรังทุนเทาปัญหาโลกแตก ทั่วโลกจับตาไทยสะสางตาม “ปฏิญญากรุงเทพ” กวาดสแกมเมอร์แหลมอินโดจีน ล้างขุมนรก ปิดท่อน้ำเลี้ยง “จิ้งจอกฮุน เซน”

ต้นเหตุใหญ่อาชญากรรมข้ามชาติหลากหลายรูปแบบ ทั้งต้มตุ๋นทางการเงิน ฟอกเงิน ค้ามนุษย์ ทุจริตคอร์รัปชัน พนันออนไลน์ เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อคนไทยและชาวโลก แต่เป็นปั้มหัวจ่ายให้กลไกรัฐไทยบางส่วน นักการเมืองบิ๊กเนม นัวเนียบริษัทยักษ์ใหญ่

“ระบบทุนเทา” สะเทือน “ระบบทุนนิยม” ชาติมหาอำนาจเจ้าลัทธิทุนนิยม ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษถึงบีบรัฐบาลไทยเร่งจัดการ เป็นระเบิดลูกใหญ่ของรัฐบาลชุดใหม่ ต้องเข้ามาขุดลากถอนโคน

เป็นจุดเริ่มพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ขยายตัวที่อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง ปี 69 คาดเศรษฐกิจไทยขยายตัวเพียง 1.5% ต้องรื้อเชิงโครงสร้าง รับมือสังคมผู้สูงวัย ที่ทำให้กำลังแรงงานและกำลังซื้อลดแฟบลง ลงทุนใหม่ๆไม่มี ผลผลิตตกต่ำ พึ่งพาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีเดิม จนความเหลื่อมล้ำ หนี้ครัวเรือนสะสมสูง

ความไม่แน่นอนทางการเมืองก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสูง ในโหมดเลือกตั้ง ลุ้นมีเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ. 69 หรือถูกเลื่อนออกไปตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่สร้างความเร้าใจให้ระทึกได้ตลอดเวลา

แต่ตามกติกา คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ย้ำตั้งแต่ยุบสภา เตรียมพร้อมรับมือเอาหน่วยเลือกตั้งวิ่งไปหาผู้ใช้สิทธิ รับรอง ได้โหวตใช้สิทธิกันแน่ ตอกย้ำหัวหมุดอีกหลายครั้งหากเหตุการณ์ตูมตามก็มีอำนาจ เลื่อนเลือกตั้งลากยาวได้จนกว่าเหตุการณ์สงบ

เลื่อนเลือกตั้งยังมี“รัฐบาลหนู” รักษาการยาวจนกว่ามีรัฐบาลใหม่ การบริหารราชการแผ่นดินไม่มีสะดุด

ท่ามกลางสมรภูมิเลือกตั้งครั้งนี้บน “สัญญาณตีตั๋วพิเศษ” ให้เป็น “นายกฯรอบสอง” บรรดานักการเมืองย้ายวิกต่อคิวเข้าแถวลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย บนสภาพที่พรรคคู่แข่งถูกหักแข้งหักขา ปักชนักเข้ากลางหลัง

แต่คดีฮั้วเลือกสว.ตามหลอนพรรคที่ถูกลากเข้าไปพัวพัน เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับฟ้องกกต.คดีสอบฮั้วสว.เหมือนเต่าเดิน แม้เป็นกกต.ชุดเก่าหลายคน แต่มีเลขาธิการกกต.ติดร่างแหเข้าไปด้วย 27 ม.ค. 69 ศาลนัดฟังคำพิพากษา

ในขณะที่ตามกติกาถูกออกแบบให้ตั้งรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใดได้จำนวนสส.เกินครึ่ง โคตรเซียนทุกสำนักฟันธงวางเดิมพัน “ค่ายน้ำเงิน” หน้าตักหน้า กุมกลไกรัฐ แหล่งรวมบ้านใหญ่ ขึ้นแทนเป็นพรรคอันดับหนึ่ง

หากเพลี่ยงพล้ำ “ค่ายส้ม” อย่างน้อยต้องออกแรงเบียดชนะ “ค่ายแดง” ให้ได้ เพื่อสร้างความชอบธรรมเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลเบิ้ล “น้ำเงิน-แดง-เขียว”

สกัด “ส้ม”เป็นฝ่ายค้านตามสัญญาณพิเศษ แม้กระแสแรง โพลยกให้เป็นม้าฝีตีนดี “วิ่งม้วนเดียวจบ” ตามสูตร “กระแส”แต่ “BM-21” เครื่องจักรสาดกระสุนสีเทาในคืนหมาหอนอาจมีเป๋

ฝ่ายสกัดยังมีก๊อกสองสอยคดีจริยธรรม 44 แกนนำพรรคก้าวไกล ที่เป็นระดับขุนพลค่ายส้ม ว่ากันว่าขีดเส้นหลังเลือกตั้ง เขี่ยส้มเป็นฝ่ายค้าน

กลายเป็นสูตรผสมที่ลงตัวจัดตั้งรัฐบาล “มีเรามีเทา” เผชิญโจทย์หินรับมือความมั่นคง กู้ซากเศรษฐกิจ ล้างขบวนการสแกมเมอร์ และ“มีเราไม่มีเทา” เป็นฝ่ายค้าน

ยกเว้นเปลี่ยนกระดานอำนาจ ปลดระวางผู้นำ ตามจังหวะการเมืองปีม้าลุยไฟที่ร้อนแรง พลิกผันป้องกันเขย่าโครงสร้างอำนาจเดิม