เช็กที่นี่!! ส่อง 6 เทรนด์อุตสาหกรรมคริปโตที่น่าจับตามองในปี 2567
The Bangkok Insight
อัพเดต 09 ม.ค. 2567 เวลา 03.37 น. • เผยแพร่ 09 ม.ค. 2567 เวลา 03.37 น. • The Bangkok Insightแม้ว่าอุตสาหกรรมคริปโตกำลังเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนในช่วงตลาดกระทิง แต่ยังเห็นพัฒนาการสำคัญของ Bitcoin DeFi Stablecoins และ NFT สะท้อนแนวโน้มเชิงบวกระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัล
Binance Research ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเชิงลึก พร้อมด้วยความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อเผยแพร่เป็นรายงานที่จะฉายทิศทางภูมิทัศน์ของโลกคริปโตในปี 2567
เจี่ยซวน ชัว ผู้เชี่ยวชาญจากทีม Binance Research ได้แสดงความคิดเห็นว่า จากการสังเกตการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมคริปโตในปี 2566 ที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2567 ทั้งในเรื่องของ Bitcoin halving การเปลี่ยนแปลงของอุปทานเหรียญ stablecoin หรือการฟื้นตัวของ On-chain metrics
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของปัจจัยที่จะมากำหนดความเป็นไปของอุตสาหกรรมในปีนี้ ซึ่งการที่สถาบันทางการเงิน นักลงทุน และผู้ใช้สามารถตามทันแนวโน้มและทิศทางต่างๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถคว้าโอกาสในการเติบโตไว้ได้
6 เทรนด์อุตสาหกรรมคริปโตปี 2567
การฟื้นตัวของ Bitcoin
ในปี 2566 การฟื้นตัวของ Bitcoin เริ่มต้นขึ้นด้วยการมาถึงของ Ordinals protocol ของเคซีย์ โรดาร์มอร์ (Casey Rodarmor) นักพัฒนาซอฟท์แวร์ ที่สามารถดึงดูดความสนใจทั้งจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบคริปโต และนักลงทุนการเงินแบบดั้งเดิม
ตามมาด้วย Bitcoin NFT และความคาดหวังของการอนุมัติ U.S. bitcoin ETF ที่จะมาช่วยผลักดันมูลค่าตลาดของ Bitcoin และสถานะของ Bitcoin ในระบบนิเวศทางการเงินให้แข็งแกร่งขึ้น
การตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ เกี่ยวกับคำขอ BTC ETF จำนวน 13 รายการ มีกำหนดจะเกิดขึ้นในปี 2567 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของกระบวนทัศน์ภาพรวมด้านกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า
ทั้งนี้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ศาลสหรัฐฯ มีคำตัดสินอย่างเด็ดขาดให้กับ Grayscale ในกรณีข้อพิพาทกับ ก.ล.ต. เกี่ยวกับการแปลง Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) ให้เป็นสปอต BTC ETF ซึ่งการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้กลายเป็นตัวเร่งให้ผู้เล่นรายใหญ่ เช่น BlackRock Fidelity และ Invesco ยื่นใบสมัคร BTC ETF ในเดือนต่อมา
การมาถึงของ Bitcoin halving หรือการลดจำนวนลงครึ่งหนึ่งของ Bitcoin ในทุก ๆ สี่ปี ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2567 นี้ ได้กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่จะทำให้สถานะของ Bitcoin ในฐานะ ทองคำดิจิทัล และสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแข็งแกร่งขึ้น
เมื่อพิจารณาถึงอุปทานสูงสุดคงที่ของ BTC ที่ 21 ล้านเหรียญ การลดลงครึ่งหนึ่งทำให้เกิดอุปทานที่จำกัดซึ่งจะทำให้เหรียญมีราคาเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยมีการคาดการณ์ว่าหลังจากการเกิด Bitcoin halving ในครั้งนี้ รางวัลจะลดลงจาก 6.25 BTC ต่อบล็อกเป็น 3.125 BTC ต่อบล็อก ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้
นอกจากนี้ Ordinals protocol ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2566 ทำให้เกิดการสร้าง Bitcoin NFT ที่ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของ Bitcoin โดย Ordinals protocol ยังได้จุดประกายให้เกิดโทเคนมาตรฐานใหม่ BRC-20 ในเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักพัฒนาให้สามารถสร้างและโอนโทเคนดิจิทัลชนิดที่ทุกเหรียญสามารถแลกเปลี่ยนและใช้งานทดแทนกันได้ (Fungible token) ได้บน Bitcoin เป็นครั้งแรก
อุปทานของ Stablecoin
อุปทานของ Stablecoin หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความมั่นคงสูง ทำหน้าที่เป็นมาตรวัดเงินทุนที่มีอยู่สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์คริปโต ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มอุปสงค์ของคริปโต (Potential buying pressure) ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดก็ตาม
ในไตรมาสที่ 4/2566 การเปลี่ยนแปลงสุทธิรายไตรมาสในอุปทานของ Stablecoin ห้าอันดับแรกตามมูลค่าตลาดมีทิศทางไปในเชิงบวก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/2022 ซึ่งการติดตามตัวชี้วัดนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในอนาคต เพื่อเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว หรือเป็นแนวโน้มขาขึ้นที่ยั่งยืน
ปริมาณการซื้อขาย NFT
ปริมาณการซื้อขาย NFT ได้แตะระดับต่ำสุดในรอบปีอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-กันยายน 2566 แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีแนวโน้มการกลับตัวเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน
สำหรับ NFT ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ Bitcoin NFT ด้วยปริมาณการซื้อขายมากกว่า 375 ล้านดอลลาร์ แซงหน้าแม้กระทั่ง Ethereum ซึ่งนี่ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของ Bitcoin โดยตัวเลขของ NFT ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงยังถือเป็นการส่งสัญญาณการฟื้นตัวหลังจากที่ราคา NFT ลดลงเป็นเวลาหลายเดือน
การติดตามแนวโน้มเหล่านี้ในปี 2024 อาจเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการประเมินความยั่งยืนของตลาดด้วยเช่นกัน
ค่าธรรมเนียมการดำเนินงาน
เมื่ออุตสาหกรรมคริปโตเติบโตเต็มที่ และโปรโตคอลต่าง ๆ ก้าวไปสู่ยุคของการสร้างรายได้ ค่าธรรมเนียมที่สร้างโดยโครงการคริปโตชั้นนำได้ถูกรวมเข้ามาเป็นหนึ่งในเกณฑ์ชี้วัดด้วยเช่นกัน โดยในปี 2566 โครงการ 20 อันดับแรกมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นถึง 88% นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน
ทั้งนี้ นำโดย Ethereum ที่มีค่าธรรมเนียมสูงเป็นสองเท่าของโปรโตคอลอื่น ๆ ตามมาด้วย Lido และ Uniswap ที่มีค่าธรรมเนียมมากเป็นอันดับสองในโลก DeFi หรือบริการทางการเงินที่สามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่ผ่านตัวกลาง
นอกจากนี้ OpenSea ยังได้รับค่าธรรมเนียม NFT สูงกว่า Manifold เกือบสองเท่า รวมถึงยังมากกว่า Blur ถึงสองเท่า โดยการที่ค่าธรรมเนียมเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนนั้นได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นไปได้เชิงโมเดลทางธุรกิจ รวมถึงยังกระตุ้นให้เกิดการติดตามเพื่อเสาะหาอัตราค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมที่สุดในปีหน้าอีกด้วย
Layer 1s
Ethereum ยังคงครองอันดับหนึ่งของแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ (Smart contract) โดยมีโซลูชันทางเลือกอื่นๆ ในเลเยอร์ 1 ที่กำลังก้าวเข้ามาท้าทายตำแหน่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Solana ที่มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นถึง 56% หรือ Toncoin ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งด้วยการจับมือกับ Telegram
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาที่สำคัญอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในแพลตฟอร์มเลเยอร์ 1 ทั้งการที่ Ethereum ได้ถอน ETH ที่ฝากไว้ค้ำประกัน (stake) ในการเปิดตัว opBNB ของ BNB Chain (BNB Chain’s opBNB) ซึ่งเรากำลังตั้งตารอการพัฒนาใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 ซึ่งจะกำหนดภูมิทัศน์ของคริปโตต่อไป
การมาถึงของ SocialFi
การคาดหวังถึงศักยภาพทางสังคมของแอปพลิเคชันบล็อกเชนได้เกิดขึ้นให้เห็นมานานแล้ว ซึ่งสิ่งนี้ได้ส่งผลให้เกิดการบรรจบกันของ DeFi และโซเชียลมีเดีย จนกลายเป็น SocialFi หรือ Social Finance ที่แปลว่าการเงินเพื่อสังคม
ในเดือนพฤศจิกายน 2566 friend.tech ได้รับค่าธรรมเนียมโปรโตคอลมากถึง 25 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งยังได้รับความสนใจจากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์นอกวงการคริปโตอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแอปโซเชียล Web3 ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมีโครงการ SocialFi อื่นๆ อีกมากมายที่มีความน่าสนใจ อย่าง Farcaster Lens Protocol และ Binance Square ทั้งนี้ ในปี 2567 SocialFi จะยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น พร้อมทั้งจะยังเป็นตัวกำหนดรูปแบบการโต้ตอบทางโซเชียลบน Web3 ในอนาคตอีกด้วย
ความคาดหวังในปี 2567
เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2567 มุมมองเชิงบวกได้กระจายไปทั่วอุตสาหกรรมคริปโต ด้วยบรรยากาศแห่งความตื่นเต้นและนักลงทุนหน้าใหม่ที่มาเข้าร่วมเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
การที่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมคอยติดตามเกณฑ์ชี้วัดและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้สามารถกำหนดทิศทางภูมิทัศน์ของโลกคริปโตในปี 2567 ต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'หุ้นคริปโต' พุ่งแรง หลัง 'ราคาบิตคอยน์' ทำสถิติสูงสุดรอบใหม่
- จับตา! 'บิตคอยน์' จ่อทะลุ 1 แสนดอลล์ปี 67 อานิสงส์เฟดลดดอกเบี้ย-สหรัฐไฟเขียวขาย ETF
- 'JTS' หวนขุดบิตคอยน์รอบใหม่ รับทิศทางราคาขาขึ้น มุ่งสู่ 'Bitcoin Ecosystem'
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter):https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg