โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

น่าห่วง อาการสาวเหยื่อรถเมล์ย้อนศร กระโหลกร้าว ยังผ่าตัดไม่ได้

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 02 ก.ค. เวลา 21.47 น. • เผยแพร่ 03 ก.ค. เวลา 04.41 น.

คืบหน้ากรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปเหตุการณ์สะเทือนใจรถเมล์โดยสารประจำทางขับย้อนศรพุ่งชนคนข้ามทางม้าลาย พร้อมระบุข้อความว่า “ข้ามทางม้าลายยังไม่ปลอดภัย ต้องมองขวา-มองซ้าย-มองขวาอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นอาจเจอรถเมล์เปิดเลนย้อนศรมาชนเข้าได้” เหตุเกิดบนถนนสุโขทัย ช่วงก่อนถึงแยกวชิรพยาบาล

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ผู้บาดเจ็บยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล อาการสาหัส

  • กะโหลกร้าว
  • ไหปลาร้าหัก
  • กระดูกเชิงกรานหัก
  • หูชั้นกลางมีเลือดออก

ผู้โพสต์ได้แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บและครอบครัว พร้อมตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของทางม้าลาย ซึ่งควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับคนเดินเท้า แต่กลับกลายเป็นจุดเสี่ยงอันตรายที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านสะพานควาย และมีโอกาสพูดคุยกับคุณป้าของ "น้องนุ่น" หญิงวัย 20 ปี ผู้บาดเจ็บจากเหตุถูกรถเมล์ชนขณะข้ามทางม้าลาย (ขอเบลอใบหน้าเพื่อความเป็นส่วนตัว)

คุณป้าเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 17.24 น. ขณะที่หลานสาวเพิ่งเลิกเรียนจากมหาวิทยาลัย และกำลังข้ามถนนจากฝั่งซอยสุโขทัย 15 มุ่งหน้าไปยังฝั่งเดียวกับโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ จู่ ๆ ก็ถูกรถโดยสารประจำทางหมายเลขทะเบียน 16-7827 กรุงเทพมหานคร ขับโดย นายธีรชัย ลิ่มสกุล อายุ 63 ปี พุ่งชนอย่างรุนแรงตามที่ปรากฏในคลิป
น้องนุ่นเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 กำลังจะขึ้นปี 4 ขณะนี้ครอบครัวและตัวน้องเองมีความกังวลเรื่องการเรียนเป็นอย่างมาก เพราะอาจทำให้เรียนไม่ทันเพื่อน ๆ ทางอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นก็พยายามช่วยประสานและให้กำลังใจอย่างเต็มที่เพื่อให้น้องได้กลับมาเรียนต่อจนจบตามแผน

อาการล่าสุดของน้องนุ่น ยังคงอยู่ในขั้นเฝ้าระวัง
ขณะนี้แพทย์วินิจฉัยว่าสมองของน้องมีรอยร้าว 2 จุดบริเวณศีรษะ พร้อมมีเลือดซึมภายใน แพทย์ยังไม่ทำการผ่าตัด แต่จะเฝ้าดูอาการต่อเนื่อง 72 ชั่วโมง เพื่อประเมินการตอบสนอง การพูด และสติสัมปชัญญะ ทั้งนี้แพทย์แจ้งว่า ในระยะยาวอาจมีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง หรือนอนไม่หลับ รวมถึงมีโอกาสเกิดอาการชักได้ หากมีสิ่งกระตุ้นเกี่ยวข้องกับสมอง ดังนั้นหากในอนาคตมีอาการผิดปกติ จะต้องแจ้งแพทย์ว่าเคยประสบอุบัติเหตุกะโหลกร้าวมาก่อน

ในส่วนของกระดูกเชิงกราน พบว่าหัก 3 จุด ต้องใส่น็อตยึดไว้ ซึ่งหากจะถอดออกในภายหลัง จะมีค่าใช้จ่ายกว่าแสนบาท และต้องทำกายภาพบำบัดต่อเนื่องอีก 2-3 เดือน ส่วนกระดูกไหปลาร้า แพทย์พิจารณาแล้วว่ายังไม่ผ่าตัดทันที เนื่องจากอายุน้อย กระดูกอาจเชื่อมต่อเองได้ จึงให้ใส่เฝือกและงดขยับแขนข้างนั้นเป็นเวลา 1 เดือน

นอกจากนี้ ยังมีบาดแผลถลอกทั่วร่าง และประสบปัญหาเรื่องการได้ยิน เนื่องจากมีเลือดออกในหูชั้นกลาง ส่งผลให้ไม่ได้ยินในข้างหนึ่ง และกระเพาะปัสสาวะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ช่วงแรกไม่สามารถปัสสาวะเองได้ ต้องใส่สายสวนปัสสาวะ และเมื่อถอดออกก็ยังไม่สามารถปัสสาวะเองได้ ต้องใส่กลับเข้าไปใหม่ ซึ่งสร้างความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานอย่างมาก ล่าสุดเพิ่งถอดสายออก และแพทย์กำลังเฝ้าดูว่าอวัยวะจะกลับมาทำงานได้ตามปกติหรือไม่

ในส่วนของคู่กรณี คนขับรถเมล์ได้เดินทางมาขอโทษครอบครัวแล้ว แต่ยังไม่ได้พูดถึงสาเหตุหรือรายละเอียดของการขับรถชนครั้งนี้ ครอบครัวของน้องรู้สึกกังวลและเสียใจอย่างยิ่ง เพราะน้องเป็นความหวังของครอบครัว เป็นลูกคนเดียวของแม่ และกำลังจะจบปี 3 ในมหาวิทยาลัย มีอนาคตที่กำลังไปได้ดี

ทั้งนี้ ทางครอบครัวได้รับการแจ้งว่ามีสิทธิได้รับความช่วยเหลือจากประกันภัยของรถเมล์ แต่ก็ยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพื่อให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับสังคมในการใช้รถใช้ถนนอย่างมีสติและรับผิดชอบ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...