โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘รู้ทันโรคหัวใจ…ก่อนสายเกินไป’ หมอแนะวิธีรับมือ ‘ฆาตกรเงียบ’ คร่าชีวิตคนไทย

เดลินิวส์

อัพเดต 21 มิ.ย. เวลา 03.48 น. • เผยแพร่ 20 มิ.ย. เวลา 20.48 น. • เดลินิวส์
โรงพยาบาลพระรามเก้า ชู

โรคหัวใจและหลอดเลือดถือเป็น “ฆาตกรเงียบ” ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นโรคที่มักไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะเริ่มต้น แต่สามารถคร่าชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน โรงพยาบาลพระรามเก้า จึงมุ่งยกระดับ “สถาบันหัวใจและหลอดเลือด” ให้เป็นศูนย์กลางด้านโรคหัวใจชั้นนำของประเทศ ที่พร้อมทั้งการป้องกัน วินิจฉัย รักษา และฟื้นฟูภายใต้แนวคิด “ดูแลหัวใจคุณ ด้วยหัวใจเรา”

นพ.อนุพงษ์ ปริณายก ผู้อำนวยการสถาบันหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดเผยว่า โรคหัวใจยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของโลก และในประเทศไทยอยู่ในอันดับสอง รองจากโรคมะเร็ง (รวมทุกอวัยวะ) โดยมีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยสูงถึง 12% หรือประมาณ 2 รายต่อชั่วโมง อีกทั้งยังพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปีล่าสุดมีผู้ป่วยใหม่กว่า 400,000–500,000 ราย สะท้อนถึงความรุนแรงของโรคที่กำลังเพิ่มขึ้นในสังคมไทย

ปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

1.ปัจจัยปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น พันธุกรรม (โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเสียชีวิตจากโรคหัวใจก่อนวัยอันควร), อายุที่มากขึ้น และในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

  • ปัจจัยที่ควบคุมได้ ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง การบริโภคไขมันทรานส์ (ที่พบในเบเกอรี่ ครีมเทียม อาหารทอด), ภาวะอ้วน การสูบบุหรี่ (รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า), การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การไม่ออกกำลังกาย ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ และการละเลยควบคุมโรคประจำตัว ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นให้โรคหัวใจกำเริบหรือรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายแพทย์อนุพงษ์ ให้ข้อมูลต่อว่า อาการของโรคหัวใจ อาจแสดงออกแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือเกิดขึ้นเฉียบพลัน โดยอาการค่อยเป็นค่อยไป เช่น เหนื่อยง่ายเวลาออกแรง แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ที่อาจร้าวไปยังกราม แขน หรือหลังได้ ซึ่งมักถูกมองข้าม ขณะที่บางรายไม่มีอาการเตือนใดๆ มาก่อน แต่กลับเกิดอาการเฉียบพลัน เช่น เจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง ร้าวไปที่กรามหรือไหล่ ร่วมกับความดันตก ซึ่งผู้ป่วยบางรายอาจเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล ผู้ป่วยที่มาถึงโรงพยาบาลแล้ว ยังมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 10% ดังนั้น การใส่ใจสัญญาณเตือน แม้เพียงเล็กน้อย จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ด้านการตรวจวินิจฉัยและรักษาแนะนำให้ผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป และผู้หญิงตั้งแต่อายุ 50 ปี ควรเริ่มตรวจสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ โดยการตรวจประกอบด้วยตรวจเลือดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG), การเดินสายพาน (Exercise Stress Test) การตรวจเอคโคหัวใจ (Echocardiogram) เพื่อดูโครงสร้างและการทำงานของหัวใจ นอกจากนี้ ยังมีการตรวจเอกซเรย์หินปูนในหลอดเลือดหัวใจ (Calcium Score CT Scan) ซึ่งสามารถบ่งบอกระยะเริ่มต้นของไขมันในหลอดเลือดหัวใจได้อย่างแม่นยำ ซึ่งหินปูนในหลอดเลือดหัวใจ เปรียบได้กับยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำ ยังมีไขมันที่ซ่อนอยู่ภายในหลอดเลือดอีกมาก รวมทั้งยังมีการตรวจ MRI หัวใจ

แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้า เช่น การทำบอลลูน ใส่ขดลวด ผ่าตัดบายพาส หรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวนแบบ TAVR แต่โรคหัวใจส่วนใหญ่ “ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้” การรักษาเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หากไม่ดูแลรักษาควบคุมปัจจัยเสี่ยงอย่างจริงจัง ก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก จึงจำเป็นต้องได้รับการติดตามปัญหาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง

โรงพยาบาลพระรามเก้า โดยสถาบันหัวใจและหลอดเลือด มีความพร้อมเต็มที่ทั้งด้านบุคลากรและเทคโนโลยี ปัจจุบันมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจจำนวนกว่า 30 ท่าน ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งเคสทั่วไปและซับซ้อน พร้อมห้องสวนหัวใจ (Cath Lab) ที่ครบครันด้วยอุปกรณ์เฉพาะทาง เช่น Rotablator (กรอหินปูนในหลอดเลือด), IVUS (ตรวจขนาดหลอดเลือดด้วยคลื่นเสียง), เครื่องวัดการไหลเวียนเลือด นอกจากนี้ ยังมีระบบ Real-time Case Management ผ่านแอปพลิเคชัน ที่ช่วยให้ทีมแพทย์ประสานงานดูแลผู้ป่วยได้แบบเรียลไทม์ในการรักษาได้อย่างทันท่วงที โรงพยาบาลยังมีความสามารถเปิดหลอดเลือดฉุกเฉินได้ภายใน 60 นาทีหลังผู้ป่วยมาถึง ซึ่งเร็วกว่ามาตรฐานสากลที่ 90 นาที ซึ่งกรณีดังกล่าวหากสามารถเปิดหลอดเลือดได้เร็ว ก็จะลดอัตราการเสียชีวิตและช่วยรักษากล้ามเนื้อหัวใจได้มากขึ้น

ในการดูแลผู้ป่วยต่างชาติ โรงพยาบาลพระรามเก้ามีความพร้อมอย่างยิ่ง โดยได้การรับรองมาตรฐาน JCI (Joint Commission International) มาอย่างต่อเนื่อง และมีศูนย์ International Center สำหรับการดูแลผู้ป่วยต่างชาติ ทั้งในด้านการให้ข้อมูล การประสานงาน เอกสารวีซ่า และการส่งกลับประเทศอย่างครบวงจร

การติดตามผลผู้ป่วยก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญของสถาบันหัวใจแห่งนี้ โดยแพทย์จะมีรายชื่อผู้ป่วยที่ต้องติดตามผล พร้อมมีพยาบาลโทรติดตามอาการ หากผู้ป่วยไม่มาตามนัด จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อไม่ให้การรักษาขาดตอนเพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ

นายแพทย์อนุพงษ์ กล่าวปิดท้ายว่า “หัวใจของการดูแลสุขภาพหัวใจ ไม่ใช่แค่รักษาเมื่อเกิดโรค แต่คือการป้องกันไม่ให้เกิดโรคตั้งแต่แรก” ไม่ควรรอให้มีอาการก่อนแล้วจึงค่อยดูแล เพราะอาจไม่ทันท่วงที พฤติกรรมสุขภาพ เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ และควบคุมโรคประจำตัวอย่างเคร่งครัด เป็นสิ่งที่ทุกคนควรใส่ใจ อย่านิ่งนอนใจหากรู้สึกผิดปกติ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของภัยเงียบที่รอวันทำร้ายชีวิตได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

ไต่สวนนัด 5 เชิญ 2 แพทย์เจ้าของไข้ ‘ทักษิณ’ พยานให้การปมรักษาตัวชั้น 14

29 นาทีที่แล้ว

‘ทักษิณ’ ยัน ไม่เปลี่ยน ‘รัฐบาล – นายกฯ’ บอกได้ ‘แพทองธาร’ เป็นผู้นำฯแถมพ่อเป็นเสมียน

31 นาทีที่แล้ว

ลงพื้นที่ถนนสนามบินปากช่อง! พบ ประชาชนไม่เดือดร้อน ใช้งานเบาบาง–รถผ่านน้อย เอกชน โต้ DSI ยืนยันไม่ปิดทาง

35 นาทีที่แล้ว

ประมูลอุกกาบาตใหญ่ที่สุดจากดาวอังคาร ขายได้กว่า 172 ล้านบาท

48 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

“ทักษิณ” ยันนักท่องเที่ยวจีนหายไม่ใช่เพราะเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

สำนักข่าวไทย Online

พายุใหม่จ่อถล่ม ไทยฝนตกหนักต่อเนื่อง เตือน 7 จังหวัดเสี่ยงน้ำป่า

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

พลทหารเหยียบระเบิดขาขาด ยายร่ำไห้กอดรูปหลาน เผยเพิ่งโอนเงินมาสร้างห้องใหม่ให้แม่

Khaosod

ช็อก!”บองหลา”ยักษ์โผล่โพรงดินกลางสวนปาล์ม ยาวเกือบ 5 เมตร คนงานวิ่งหนีแทบไม่ทัน!

เดลินิวส์

“รมว.อรรถกร“เปิดงาน ‘GI Fresh 2 You’ ส่งเสริมสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น เปิดตลาดคนเมือง หนุนรายได้เกษตรกรทั่วไทย

Manager Online

ตำรวจบ้านหมอโชว์เหนือ! ใช้เสียงเพลง "คืนจันทร์" กล่อมหนุ่มคลั่งยา สงบสติ ยอมขึ้นรถแต่โดยดี

Manager Online
วิดีโอ

พระพยอม ซัด! “สีกากอล์ฟ” สะท้อนความตกต่ำวงการสงฆ์ เตือนพระอย่าตบะแตก ชาวพุทธอย่าตีตราทั้งวงการสงฆ์

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

หนุ่มใหญ่เป็นศพสลด เขียนจดหมายสั่งเสีย อดีตเมียร่ำไห้โฮ เผยจากเคยมีเงิน 7-8 ล้าน ก่อนชีวิตดำดิ่ง

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

สงครามการค้ากระทบโลก! สมาคมสื่อไทย-จีน ถกอนาคตการค้าสองชาติ

เดลินิวส์

รู้จัก ‘Lucy Guo’ มหาเศรษฐี AI สร้างตัวเองรวยอายุน้อยสุด แซง ‘Taylor Swift’

เดลินิวส์

“วิลลา” เล็งคว้านายด่านลีลล์เฝ้าเสาแทน “มาร์ตีเนซ”

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...