โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

วอร์เรน บัฟเฟต และประวัติชีวิตโดยสังเขป

Finnomena

อัพเดต 09 ก.ค. 2561 เวลา 04.28 น. • เผยแพร่ 15 ส.ค. 2560 เวลา 10.03 น. • ลงทุนศาสตร์
วอร์เรน บัฟเฟต และประวัติชีวิตโดยสังเขป

คงไม่มีนักลงทุนคนไหนในโลกที่ไม่รู้จักวอร์เรน บัฟเฟต มหาเศรษฐีที่เคยขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกโดยความมั่งคั่งทั้งหมดมาจากการลงทุนเพียงอย่างเดียว ประวัติชีวิตของวอร์เรน บัฟเฟตเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้ว่าเขาจะเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะประมาณหนึ่ง แต่เขาก็ปฎิเสธจะรับมรดก และเลือกที่จะสร้างความมั่งคั่งของเขาทั้งหมดด้วยมือของเขาเอง

1930 เกิดวันที่ 30 สิงหาคม ที่เมืองโอมาฮ่า รัฐเนบราสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา พ่อของบัฟเฟตทำงานที่โบรคเกอร์ซื้อขายหุ้น บัฟเฟตเป็นลูกผู้ชายคนเดียวท่ามกลางพี่สาวและน้องสาวอย่างละ 1 คน

1941 เริ่มซื้อหุ้น City Service เป็นหุ้นตัวแรกในชีวิตโดยใช้เงินตนเองกับพี่สาว เขาซื้อที่ราคา 38 เหรียญ ก่อนที่หุ้นจะตกไปที่ 27 เหรียญอย่างรวดเร็ว เมื่อราคาเด้งขึ้นมา 40 เหรียญจึงกดขาย ผ่านไปไม่นานราคาก็ไปถึงเกือบ 200 เหรียญ

1942 เขียนแบบจ่ายภาษีเป็นครั้งแรกในชีวิต รายได้ของเขามาจากการส่งหนังสือพิมพ์และขายโพยม้าแข่ง และบันทึกค่าจักรยาน 35 เหรียญเป็นค่าใช้จ่ายในการทำงาน

1942 ย้ายครอบครัวไปที่เวอร์จิเนียเพราะพ่อของเขาได้รับการเลือกตั้ง บัฟเฟตเข้าเรียนในโรงเรียน Woodrow Wilson ที่วอชิงตันดีซี ระหว่างมัธยมปลาย เขาและเพื่อนซื้อตู้เล่นพินบอลมาในราคา 25 เหรียญเพื่อนำไปตั้งในร้านตัดผมและแบ่งรายได้กับร้าน

1958 ถูกปฎิเสธการเข้าเรียนจากมหาวิทยาลัย Harvard จึงเข้าเรียนด้านธุรกิจที่ The University of Pennsylvania หลังจากเรียนได้ 2 ปีก็ย้ายไปศึกษาต่อที่ The University of Nebraska จนจบ

1951 เรียนจบปริญญาโทด้านการลงทุนจาก Columbia Business School ที่นั่นเขาได้พบกับอาจารย์เบนจามิน เกรแฮมซึ่งเป็นต้นแบบการลงทุนของเขา เขาออกมาทำงานโบรคเกอร์อยู่ 3 ปี และไปทำงานเป็นนักวิเคราะห์กับเบนจามิน เกรแฮมอีก 2 ปี

1956 ก่อตั้ง Buffett Partnership ที่โอมาฮ่าเพื่อระดมทุนมาลงทุนด้วยหลักการลงทุนที่ศึกษามาจากเบนจามิน เกรแฮม

1965 เข้าสะสมหุ้น Berkshire Hathaway (BRK) เพราะราคาต่ำมากและคาดว่าผู้บริหารจะซื้อหุ้นคืน แต่ผู้บริหารกลับผิดคำพูดโดยการซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่าที่บอก บัฟเฟตจึงซื้อหุ้นเพิ่มจนได้ครอบครองกิจการ

1969 เริ่มใช้ BRK ซื้อหุ้นเพื่อลงทุน เช่น หนังสือพิมพ์ The Washington Post บริษัทประกัน GEICO ธุรกิจน้ำมัน Exxon จนได้ชื่อว่า “ปราชญ์แห่งโอมาฮ่า”

1989 ลงทุนในบริษัท Coca-Cola มากจนได้ขึ้นเป็นคณะกรรมการบริษัท

2006 ประกาศจะบริจาคความมั่งคั่ง 85 เปอร์เซ็นต์ของตัวเองเพื่อการกุศล และคำประกาศนี้กลายเป็นการบริจาคที่มีมูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

2008 ขึ้นเป็นมหาเศรษฐีที่มีความมั่งคั่งสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

2010 ร่วมกับบิลเกตส์ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อระดมเงินบริจาคไปทำการกุศล

2012 ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เขาจึงเข้ารับการฉายรังสีในเดือนกรกฎาคมและรักษาเสร็จเรียบร้อยในเดือนพฤศจิกายน

2017 ยังคงนั่งเป็นผู้บริหารสูงสุดใน BRK และบอกกับทุกคนว่าเขาจะลงทุนไปจนกว่าวันสุดท้ายของชีวิต

การเดินทางของชีวิตปราชญ์แห่งโอมาฮ่าคนนี้เรียบง่าย เข้าใจได้ แต่เต็มไปด้วยความมานะพยายาม เขาเริ่มต้นการลงทุนทั้งหมดด้วยเงินเก็บจากธุรกิจในวัยเด็กของเขาเอง เช่น การปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์ การขายโพยแข่งม้า รวมไปถึงการตั้งตู้เล่นพินบอลในร้านตัดผม ชีวิตของเขาจึงกลายเป็นตำนานให้กับผู้ที่มีความฝันในใจว่าทุกคนก็สามารถเขียนเส้นทางชีวิตของตัวเองได้ เขียนอนาคตของตัวเอง เพราะแม้แต่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกก็เริ่มต้นปาฏิหาริย์ของชีวิตด้วยการปั่นจักรยานส่งหนังสือพิมพ์

หวังว่าชีวิตของเขาจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณ

ลงทุนศาสตร์ - Investerest

ขอบคุณข้อมูลจาก biography.com ขอบคุณรูปภาพจาก HBO ทาง youtube.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...