โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เปิดทางนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ไร้ผล ราคาหมูขึ้นกก. 200 บาททั่วประเทศ

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 08 พ.ค. 2565 เวลา 03.07 น. • เผยแพร่ 08 พ.ค. 2565 เวลา 03.07 น.

เว้นมาตรการซื้อข้าวโพด 3:1 เปิดทางนำเข้าข้าวสาลีช่วยอาหารสัตว์ไร้ผล สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติประกาศปรับขึ้นราคาหมูทั่วประเทศ ราคาหน้าฟาร์ม 100 บาท ดันราคาขายปลีก ทะลุ 200 บาท “ภาคใต้” หมดแรงตรึงราคาขยับขึ้นตามภูมิภาคอื่น

วันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าว”ประชาชาติธุรกิจ”รายงานว่า แม้ว่าก่อนหน้านี้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) จะเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณายกเว้นเงื่อนไขที่กำหนดให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ที่ต้องการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วนต้องซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ 3 ส่วน หรือมาตรการ 3:1 เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึง 31 กรกฎาคม 2565

และเพิ่มโควต้าการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเดิม 54,700 ตันเป็นไม่เกิน 600,000 ตัน ในระยะเวลา 3 เดือน (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึง 31 กรกฎาคม 2565 ) เพื่อบรรเทาภาระของผู้ผลิตอาหารสัตว์ในเชิงปริมาณ

แต่มาตรการดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้ราคาอาหารสัตว์ลดลงเลย และต้นทุนผู้เลี้ยงหมูปรับสูงขึ้น ทั้งจากค่าพันธุ์ ค่าอาหารสัตว์ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าน้ำมัน และปัญหาการฟื้นฟูการเลี้ยงหลัง ASF ยังไม่สามารถเติมซัพพลายกลับมาสู่ระบบได้

ล่าสุดสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประกาศราคาสุกร (สัปดาห์ที่ 18/2565) วันพระล่าสุด 8 พฤษภาคม 2565 ขึ้นอีก จากวันพระครั้งก่อน 30 เมษายน 2565 ที่ปรับขึ้นมาแล้ว กก.ละ 2- 4 บาท ส่งผลให้ขณะนี้ราคาหมูหน้าฟาร์มทั่วประเทศ ปรับขึ้นเป็นกก.ละ 100 บาท เท่ากันทั้งหมด จากงวดก่อนหน้านี้ที่มีการปรับขึ้นไปเฉพาะภาคตะวันตก ภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคอีสาน ปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงสุดกิโลกรัมละ 100 บาท ส่วนภาคใต้ทรงตัว กิโลกรัมละ 98 บาท

ขณะที่ราคาขายปลีก (หน้าเขียง) ปรับขึ้นไปสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 200 บาท เท่ากันทุกภาคเช่นกัน ซึ่งถือเป็นสูงสุดในปี 2565 จากงวดก่อนหน้าที่มีภาคอีสานปรับจาก 194-196 บาท เป็น 194-200 บาทหรือปรับขึ้น กก.ละ 6 บาท และภาคตะวันตกปรับจาก 194-196 บาท เป็น 194-200 บาท ปรับขึ้นกิโลกรัมละ 2 ถึง 6 บาท ภาคเหนือ จาก 190-192 บาท เป็น 198-200 บาท หรือปรับขึ้นกิโลกรัมละ 2 ถึง 10 บาท

ยังเหลือในส่วนภาคใต้ เป็นภูมิภาคสุดท้ายที่ งวดก่อน ปรับจาก 190-192 บาท เป็น 194-196 บาท ปรับขึ้นกิโลกรัมละ 2 ถึง 6 บาท แต่มางวดนี้ปรับเป็น 198-200 บาทเท่ากันแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้เลี้ยงสุกรทุกภูมิภาคยังคงร่วมสนองนโยบายรัฐบาล โดยปริมาณความต้องการบริโภคเนื้อสุกรมีมากขึ้น นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเข้ามามาก

งานสัมมนากระตุ้นผู้เลี้ยงสุกรให้กลับเข้ามาในธุรกิจอีกครั้งคึกคักในหลายพื้นที่ โดยมีสถาบันการเงินของรัฐทั้งธนาคารออมสิน และธกส. ต่างมีโครงการสินเชื่อเพื่อจูงใจผู้เลี้ยงสุกรมากขึ้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...