สรุปไทม์ไลน์ GULF ดอดเก็บ KBANK ฟันปันผลเน้นๆ

หากพูดถึงสตอรี่ของบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนหลายคนก็อาจจะไปโฟกัสในของการควบรวมระหว่าง GULF และ INTUCH แต่อีกหนึ่งประเด็นที่จะอดพูดถึงไม่ได้คงเป็นการลงทุนในรูปแบบต่างๆของตัวบริษัท

โดยการเข้าลงทุนหรือเข้าถือหุ้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ ที่เราจะได้พบเห็นอยู่บ่อยครั้งตลอดในช่วง 1 ปีผ่านมา ในวันนี้ทางสำนักข่าว Share2Trade จึงอยากจะพาผู้อ่านไปย้อนดูไทม์ไลน์และรายละเอียดในแต่ละครั้งกันว่ามีการเปลี่ยนแปลงเช่นใดบ้าง

ย้อนไปในครั้งแรกวันที่ 14 มีนาคม 2567 ที่ GULF ได้มีรายชื่อติดอยู่ในข้อมูลผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 14 ของ KBANK โดยได้เข้าถืออยู่ที่ 20,542,400 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.87% ก่อนที่ภายหลังวันที่ 23 เมษายน 2567 ข้อมูลดังกล่าวของบริษัทจะได้หายออก แต่อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าใน KBANK ได้ประกาศจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2566 ที่ 6 บาทต่อหุ้น ซึ่งวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 22 เมษายน 2567 จึงคาดการณ์ว่า GULF จะได้รับเงินปันผลในรอบนี้อยู่ที่ 123 ล้านบาท

ต่อมาในปี 2568 หรือในวันที่ 13 มีนาคม 2568 ก็เป็นอีกครั้ง ที่ GULF กลับเข้ามามีรายชื่อเข้าติดอยู่ในข้อมูลผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 จำนวน 77,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.25% ซึ่ง KBANK ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งหลังปี 67 ในอัตรา 8 บาทต่อหุ้น และได้ประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษเพิ่มอีกจำนวน 2.50 บาทต่อหุ้น รวมได้รับปันผล 10.50 บาทต่อหุ้น จึงส่งผลให้ GULF ได้รับเงินปันผลประมาณ 808 ล้านบาท

ทั้งนี้ GULF ก็ได้ทยอยเข้าหุ้น KBANK อย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลผู้ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 18 เมษายน 2568 ของ KBANK ผู้ถือหุ้นอันดับ 4 ก็ได้มี GULF ขึ้นมาครองตำแหน่งดังกล่าว ด้วยจำนวน 82,679,400 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.49%

ล่าสุด ในเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 GULF ได้รายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ถึงการได้มาของหุ้น KBANK จำนวน 12,510,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.52% ส่งผลให้ภายหลังจากการทำรายการดังกล่าว GULF มีสัดส่วนการถือครองหุ้นอยู่ใน KBANK จำนวน 123,926,100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 5.23%

ขณะเดียวกันสำนักงาน ก.ล.ต. ยังได้รายงานว่า นาง นลินี รัตนาวะดี ซึ่งมีฐานะเป็นภรรยาของ นาย สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ GULF ร่วมถือหุ้น KBANK อยู่ด้วย จำนวน 123,030 หุ้น

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่า GULF ถือครองหุ้น 5.2% ใน KBANK เป็นบวกต่อกําไร GULF ราว 2-4% และมองว่ามีโอกาสที่ GULF จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 10% และมีโอกาสที่ KBANK จะเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลขึ้นจากปัจจุบันที่ 50%

ทั้งนี้ เมื่อคํานวณจากอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 50-80% จะได้ว่า KBANK มีโอกาสจ่ายเงินปันผลอยู่ในช่วง 10-16 บาทต่อหุ้นในปี 2569 หรือเทียบเป็นรายได้เงินปันผลที่ GULF จะได้รับที่ 1,200 – 2,000 ล้านบาท ในปี 2569 จากสัดส่วนการถือหุ้นที่รายงานมานี้