DPU ชู 2 หลักสูตรเด่น บัญชีมหาบัณฑิต-MBA ยุคดิจิทัล อัปสกิลเข้มตอบโจทย์คนทำงาน
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์(DPU) โดยวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี(CIBA) เดินหน้าพัฒนาหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ตอบรับความต้องการของตลาดแรงงานยุคดิจิทัล เปิดรับสมัครเรียนการบัญชีมหาบัณฑิตและบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต(MBA) ปีการศึกษา2568 เน้นการอัปสกิลผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถรอบด้าน พร้อมนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน เพื่อผลิตบุคลากรคุณภาพสู่ภาคธุรกิจ เปิดรับสมัครแล้ววันนี้
ดร.อริสรา ธานีรณานนท์ ผู้อำนวยการหลักสูตรบัญชีมหาบัณฑิต วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า หลักสูตรปริญญาโทการบัญชีมุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียน ให้สามารถวิเคราะห์ งบการเงิน และวางแผนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือมีการเพิ่มทักษะของผู้บริหาร รวมถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล สร้างรายงาน และคาดการณ์ธุรกิจ รวมถึงการเรียนรู้ด้านBig Data และData Analytics นอกจากนี้ หลักสูตรยังให้ความสำคัญกับการบัญชีเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญของโลก ครอบคลุมประเด็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการคำนวณต้นทุนคาร์บอนเครดิตในภาคอุตสาหกรรม สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของวิชาชีพบัญชีในบริบทของยุคสมัย
“จุดเด่นของหลักสูตรการบัญชีมหาบัณฑิต คือ ใช้เวลาเรียนCoursework เพียง1 ปี เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ ทำให้ผู้เรียนสามารถนำวุฒิการศึกษาไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเนื้อหายังคงเข้มข้น และเรายังมีการปรับพื้นฐานสำหรับผู้ที่ไม่ได้จบสาขาบัญชีโดยตรง นอกจากนี้ หลักสูตรนี้เน้นการเรียนการบัญชีดิจิทัลและพัฒนาทักษะ10 ด้านใน10 รายวิชา อาทิ การวางแผนบัญชี เทคโนโลยีสำหรับวิชาชีพบัญชี การบริหารความเสี่ยงในองค์กร การบัญชีเพื่อความยั่งยืนโดยได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากหลากหลายกลุ่ม ทั้งเจ้าของกิจการ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานบริษัท ที่ต้องการอัพสกิลความรู้ด้านบัญชีดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ ๆ” ดร.อริสรา กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.ปิยะวิทย์ ทิพรส ผู้อำนวยการหลักสูตรMBA มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า หลักสูตรMBA ของDPU เปิดสอนมากว่า40 ปี มีจุดเด่นคือมุ่งเน้นการสร้างวิธีคิดแบบผู้ประกอบการในยุคดิจิทัล(Entrepreneurial Mindset) และเสริมแนวคิดด้านESG ซึ่งประกอบด้วยEnvironmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และGovernance (ธรรมาภิบาล) รวมถึงSDGs (Sustainable Development Goals) หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง17 เป้าหมาย ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญของยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังรองรับการเรียน3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย อังกฤษ และจีน มีการบูรณาการภาคทฤษฎีสู่ภาคปฏิบัติ ผ่านการจำลองโมเดลทางธุรกิจและกรณีศึกษาจริง ที่สำคัญอาจารย์ผู้สอนมีความเชี่ยวชาญ การันตีจากผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในฐานข้อมูลระดับชาติและนานาชาติ โดยสามารถเรียนจบได้ภายใน1.8 ปี และเลือกเรียนได้ทั้งวันเสาร์หรือวันอาทิตย์
“ผู้เรียนส่วนใหญ่มาจาก4 กลุ่มหลัก ได้แก่ พนักงานบริษัท พนักงานรัฐวิสาหกิจและข้าราชการ เจ้าของธุรกิจ และนักศึกษาจบใหม่ สำหรับเจ้าของธุรกิจที่เข้ารับการศึกษา จะได้รับองค์ความรู้ใน3 ศาสตร์หลักอันเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจได้แก่การบริหารจัดการการตลาดดิจิทัลและการเงินซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจทั้งทางด้านการยกระดับทักษะและการพัฒนาทักษะใหม่เพื่อส่งเสริมการเติบโตของกิจการในส่วนของพนักงานบริษัทวุฒิการศึกษาที่ได้รับมีความเป็นสากลสามารถต่อยอดการปฏิบัติงานในหลากหลายบทบาทหรือสามารถนำความรู้ด้านการบริหารไปใช้ในการประกอบธุรกิจส่วนตัวได้
อีกทั้งยังเป็นคุณสมบัติที่ได้รับการยอมรับในการสมัครเข้ารับราชการ เนื่องจากหลักสูตรมีความครอบคลุมและเปิดกว้างสำหรับทุกตำแหน่งงาน นอกจากนี้ หลักสูตรMBA ในปัจจุบันยังได้บูรณาการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือAI (Artificial Intelligence) เข้ามาเป็นเครื่องมือสนับสนุนการเรียนการสอน โดยเฉพาะในส่วนของการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ และมีการสอนการประยุกต์ใช้AI ในบริบททางธุรกิจด้วย” ผศ.ดร.ปิยะวิทย์ กล่าวในตอนท้าย
หลักสูตรปริญญาโททั้ง2 หลักสูตรเปิดรับสมัครแล้ววันนี้ โดยมีทุนส่วนลดพิเศษ20% สำหรับผู้ที่สมัครเรียนภายในวันที่31 พฤษภาคม2568 ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dpu.ac.th/th/course/profile/profile-master-of-accountancy-program-in-accountancy และ https://www.dpu.ac.th/th/course/profile/profile-master-of-business-administration-program-in-business-administration