โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

ความจำมือถือเต็ม ทำเครื่องช้าจริงหรือไม่?

sanook.com

เผยแพร่ 13 ก.ค. เวลา 08.55 น. • Sanook
ทุกวันนี้มือถือกับความจำเป็นไม้เบื่อไม้เมาพอสมควร ต้องบอกว่ามือถือทุกวันนี้มีเทคโนโลยี แต่ความจำยังคงเท่าเดิม หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วถ้าความจำกำลังจะเต็มมันมีผลทำให้มือถือของเราช้าลงจริงไหม

ทุกวันนี้มือถือกับความจำเป็นไม้เบื่อไม้เมาพอสมควร ต้องบอกว่ามือถือทุกวันนี้มีเทคโนโลยี แต่ความจำยังคงเท่าเดิม หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วถ้าความจำกำลังจะเต็มมันมีผลทำให้มือถือของเราช้าลงจริงไหม วันนี้ Sanook Hitech มีคำตอบนี้กันครับ

ความจำมือถือเต็มทำให้มือถือช้าจริงไหม

คำตอบคือ"จริงครับ" และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้มือถือทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัดอย่างมาก เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ต้องแยก "ความจำ" ในมือถือออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เมื่อเหลือน้อยจะส่งผลให้เครื่องช้าได้ทั้งคู่ แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างกันได้แก่

screenshot_2025-07-13-11-10-0

1. พื้นที่เก็บข้อมูล (Storage / ROM) เต็ม

นี่คือ "ความจำ" ที่เราคุ้นเคยกันที่สุด ใช้สำหรับเก็บข้อมูลถาวร เช่น แอปพลิเคชัน, รูปภาพ, วิดีโอ, ไฟล์ต่างๆ และระบบปฏิบัติการ (iOS/Android)

ทำไมเมื่อ Storage เต็มแล้วเครื่องถึงช้า?

  • OS ไม่มีที่ "หายใจ": ระบบปฏิบัติการจำเป็นต้องมีพื้นที่ว่าง (Free Space) เพื่อใช้เป็น "พื้นที่ทำงานชั่วคราว" สำหรับสร้างไฟล์แคช (Cache), จัดการข้อมูล, และสลับการทำงานของแอปต่างๆ เมื่อพื้นที่นี้เหลือน้อยมาก (ต่ำกว่า 10-15%) ระบบจะทำงานติดขัดและช้าลงอย่างมาก
  • เขียนข้อมูลใหม่ได้ช้าลง: เทคโนโลยีหน่วยความจำในมือถือ (Flash Storage) จะทำงานได้เร็วที่สุดเมื่อมีบล็อกข้อมูลว่างๆ ให้เขียน แต่เมื่อความจำใกล้เต็ม การจะเขียนข้อมูลใหม่ลงไป จะต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนกว่า คือ อ่าน -> ลบของเก่า -> แล้วค่อยเขียนของใหม่ ซึ่งช้ากว่าการเขียนลงในที่ว่างๆ หลายเท่าตัว ทำให้การเปิดแอป, ถ่ายรูป, หรือบันทึกไฟล์รู้สึกหน่วงไปหมด
  • แอปสร้าง Cache ไม่ได้: แอปต่างๆ จะสร้างไฟล์ Cache เพื่อให้เรียกใช้งานครั้งต่อไปได้เร็วขึ้น เมื่อไม่มีที่ให้สร้าง Cache ทุกครั้งที่คุณเปิดแอป มันก็ต้องเริ่มโหลดข้อมูลใหม่ทั้งหมด ทำให้ช้าลง
  • อัปเดตระบบและแอปไม่ได้: ทำให้คุณพลาดการอัปเดตที่อาจมีการปรับปรุงประสิทธิภาพและแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องช้าหรือรวนได้

เหมือนกับโต๊ะทำงานของคุณ: ถ้าบนโต๊ะรกไปหมดด้วยเอกสารและของต่างๆ การจะหาของหรือเริ่มทำงานชิ้นใหม่ก็ย่อมทำได้ช้าและลำบากกว่าโต๊ะโล่งๆ ที่มีพื้นที่ให้วางของได้สบายๆ

img_20250713_111236

2. หน่วยความจำแรม (RAM) ไม่เพียงพอ

RAM (Random Access Memory) คือหน่วยความจำ "ชั่วคราว" ที่มีความเร็วสูงมาก ใช้สำหรับพักข้อมูลของแอปและระบบที่กำลัง "เปิดใช้งานอยู่" ในขณะนั้น ยิ่งมี RAM เยอะ ก็ยิ่งเปิดหลายแอปสลับไปมาได้โดยที่แอปไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง

ทำไมเมื่อ RAM ไม่พอแล้วเครื่องถึงช้า?

  • แอปต้องรีโหลดบ่อย: เมื่อคุณเปิดแอปใหม่ แต่ RAM ไม่พอ ระบบจะบังคับปิดแอปเก่าที่คุณไม่ได้ใช้ไปชั่วขณะเพื่อเอา RAM มาให้แอปใหม่ใช้ พอคุณสลับกลับไปที่แอปเก่าอีกครั้ง แอปนั้นก็ต้องเริ่มโหลดตัวเองใหม่ทั้งหมด (สังเกตได้จากหน้าจอเริ่มต้นของแอปจะเด้งขึ้นมาใหม่) ทำให้การสลับแอปไม่ลื่นไหลและเสียเวลา
  • การทำงานเบื้องหลังติดขัด: แม้คุณจะใช้แอปเดียว แต่เบื้องหลังมีระบบหลายอย่างที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา เมื่อ RAM ไม่พอ ระบบโดยรวมก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้เกิดอาการหน่วง กระตุก หรือค้างได้
  • อาการค้างเฉพาะจุด: เช่น แป้นพิมพ์ดีเลย์, กดแล้วไม่ไปทันที, หรือแอนิเมชันตอนเปิด/ปิดแอปกระตุก ก็มักมีสาเหตุมาจาก RAM ไม่เพียงพอในขณะนั้น

เหมือนกับขนาดของโต๊ะทำงาน: ถ้าโต๊ะทำงาน (RAM) ของคุณมีขนาดเล็ก คุณจะวางงานได้ทีละชิ้นสองชิ้น พอจะทำอีกงาน ก็ต้องเก็บงานเก่าเข้าลิ้นชักก่อน แล้วค่อยหยิบงานใหม่ออกมา ซึ่งเสียเวลามากกว่าคนที่มีโต๊ะทำงานใหญ่ๆ ที่วางทุกอย่างพร้อมทำงานได้ทันที

วิธีแก้ไขเบื้องต้น ทำได้อย่างไร?เมื่อ Storage (พื้นที่เก็บข้อมูล) เต็ม

  • ล้างไฟล์ขยะ (Clear Cache): เข้าไปที่ การตั้งค่า > แอปพลิเคชัน แล้วเลือกล้างแคชของแอปที่ใช้บ่อยๆ เช่น Facebook, LINE, Chrome, TikTok
  • ลบแอปที่ไม่ใช้งาน: สำรวจมือถือของคุณและลบแอปพลิเคชันที่ไม่ได้เปิดใช้นานแล้วออกไป
  • จัดการรูปและวิดีโอ: ย้ายไฟล์รูปและวิดีโอไปเก็บไว้ในบริการ Cloud (Google Photos, iCloud) หรือย้ายลงคอมพิวเตอร์/ฮาร์ดดิสก์ภายนอก
  • เช็กไฟล์ขนาดใหญ่: ใช้ฟีเจอร์จัดการไฟล์ในเครื่อง (File Manager) เพื่อค้นหาและลบไฟล์ขนาดใหญ่ที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟล์วิดีโอที่โหลดมาดูแล้ว หรือไฟล์ดาวน์โหลดต่างๆ

คำแนะนำ: พยายามรักษาพื้นที่ว่างในเครื่องให้มีอย่างน้อย 15-20% เสมอ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

เมื่อ RAM ไม่พอสิ่งที่ต้องทำมีดังนี้

  • รีสตาร์ทเครื่อง (Restart): เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีที่สุด! การรีสตาร์ทจะล้างข้อมูลใน RAM ทั้งหมด ทำให้เครื่องกลับมาทำงานลื่นไหลเหมือนเดิม ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
  • ปิดแอปที่ไม่ได้ใช้: กดปุ่ม Recent Apps (ปุ่มสี่เหลี่ยม หรือปัดจอขึ้นมาค้างไว้) แล้วปัดแอปที่ไม่ใช้งานทิ้งไป จะช่วยคืน RAM ให้ระบบได้
  • ลดการใช้ Widgets และ Live Wallpapers: สิ่งเหล่านี้ทำงานอยู่เบื้องหลังตลอดเวลาและใช้ RAM พอสมควร การลดจำนวนลงจะช่วยได้
  • อัปเดตแอปและระบบปฏิบัติการ: บางครั้งแอปเวอร์ชันเก่าอาจมีปัญหา "RAM ใช้เยอะเกินความจำเป็น" (Memory Leak) การอัปเดตจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้

สุดท้ายแล้วการที่ความจำของเครื่องเยอะแต่ไม่ดูแลก็สามารถทำให้ช้าได้ ดังนั้นเราควรจัดการความจำให้เหมาะสมไม่ให้ช้าเกินไปจนทำให้ไม่สามารถใช้งานงานได้ในอนาคตครับ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...