โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“โบว์ ณัฏฐา” ชี้เหตุผลชัด ทำไมนายกฯควรลาออกทันที หลังคลิปเสียงสะเทือนสัมพันธ์กัมพูชา-กองทัพ

สยามรัฐ

อัพเดต 19 มิ.ย. เวลา 01.28 น. • เผยแพร่ 19 มิ.ย. เวลา 01.28 น.

วันที่ 19 มิ.ย.68 "โบว์" ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana ระบุว่า…

#เหตุผลที่นายกฯต้องลาออก

สิ่งที่จะไล่เรียงต่อไปนี้ไม่ได้เป็นไปด้วยอารมณ์หรือมีความเกลียดชังใดๆเจือปน ไม่ว่าจะต่อตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง แต่เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งกับสถานการณ์ปัจจุบัน

#ความผิดพลาดของนายกฯ ที่สะท้อนผ่านคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซนนั้น ไม่ได้อยู่ที่เจตนาในการคลี่คลายสถานการณ์ หรือแม้แต่ท่วงทำนองอันนอบน้อมของบทสนทนาที่พอเข้าใจได้

แต่ความผิดพลาดของนายกฯ อยู่ที่บริบทและเนื้อหาของการสนทนาที่แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่มีความสามารถจะ #บริหารราชการแผ่นดิน ได้ ไม่ว่าจะในการบริหารสถานการณ์ บริหารความสัมพันธ์ หรือบริหารกองทัพ

คลิปเสียงดังกล่าวถูกอัดเมื่อวันที่ #15มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่สองของการประชุม JBC การที่นายกฯไม่หยิบยกประเด็นใหญ่ที่กัมพูชาจะยกข้อพิพาทสี่พื้นที่ขึ้นศาลโลกมาพูดถึงเลย แสดงให้เห็นว่านายกฯสนใจที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องการปิดด่านเพื่อให้ได้ quick win หรือความสำเร็จเฉพาะหน้า มาผ่อนคลายสถานการณ์ทางการเมืองของตนก่อนเท่านั้น สังเกตได้จากการพูดย้ำไม่ต่ำกว่าสามรอบว่า #อิ๊งค์โดนหนักมาก และแม้จะเป็นการเลือกเรื่องที่อาจจะคิดว่าเป็นไปได้มาเจรจา ก็ยังไม่สามารถตั้งประเด็นให้เกิดอำนาจการต่อรองได้

สุดท้ายกลับกลายเป็นการ #รับโจทย์ จากฮุนเซนกลับมา และรับปากว่าจะทำให้กลาโหมยอมเปิดด่านได้ ไม่มีการพูดถึงปัญหาการวางอาวุธประชิดชายแดนของกัมพูชา ไม่สามารถเตรียมข้อต่อรองที่มีน้ำหนักล่วงหน้า

วันรุ่งขึ้นคือ #16มิถุนายน นายกฯที่เพิ่ง "รับโจทย์" มาจากฮุนเซน กลับโดนเล่นงานแต่เช้า เมื่อฮุนเซนประกาศกลางวุฒิสภา ขู่ไทยว่าหากไม่เปิดด่านเป็นปกติภายใน 24 ชั่วโมง กัมพูชาจะปิดด่านที่เหลือทั้งหมด ทุกอย่างที่คุยกันทางโทรศัพท์หมดความหมายเพียงชั่วข้ามคืน เป็นความตั้งใจวางยา ยั่วยุให้สถานการณ์เข้าใกล้การปะทะไปอีกหนึ่งก้าว

นายกรัฐมนตรีรีบเข้าประชุมที่ #บ้านพิษณุโลก ทันที แล้วออกมาแถลงข่าวอย่างไร้จุดหมาย ไม่ว่าจะเป็นการบอกว่าการประชุม JBC ประสบความสำเร็จ แจ้งเรื่องการตั้งคณะทำงาน การให้เหตุผลโต้คำขู่ของกัมพูชาว่าไทยไม่เคยปิดด่าน รวมถึงการตำหนิฮุนเซนว่าไม่ Professional ที่คุยหลังไมค์กันอย่างแล้วกลับออกมาโพสต์โซเชียลอีกอย่าง ก่อนทิ้งท้ายว่าโลกจะไม่ยอมรับคนที่ไม่รักษากติกา

ในขณะที่นายกฯไม่ได้กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาใดๆ หลังการแถลงข่าวกลับมีการบอกยกเลิกการประชุม #สมช. ที่กำหนดไว้ในบ่ายวันเดียวกัน แล้วใช้เวลาที่ว่างนั้นในการเรียกรองฯอนุทินเข้าพบ โดยมีการปล่อยข่าวว่าเป็นการเรียกเพื่อไปคุยเรื่องปรับ ครม. ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

#อะไรคือเรื่องสำคัญเร่งด่วนในสายตานายกรัฐมนตรี?

หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เห็น ผู้นำรัฐบาลบรรลุภารกิจในการยึดตำแหน่งตามบัญชาของพ่อนายกฯ ในขณะที่พ่อนายกฯกัมพูชาก็ไม่พอใจเนื้อหาในการแถลงข่าวที่ตนถูกถอนหงอกเมื่อเช้า นำสู่การปล่อยคลิปเสียงเพื่อทำลายนายกฯ และทำลายความสัมพันธ์กับประเทศไทยไปอีกขั้นในสองวันต่อมา

#ยุทธวิธีของฮุนเซนเป็นเรื่องน่ารังเกียจ #แต่วุฒิภาวะของนายกฯเป็นเรื่องน่ากลัว

โดยเฉพาะเมื่อนายกฯได้กล่าวถึงแม่ทัพภาคสองว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลนี้กับผู้นำต่างชาติ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์อันแท้จริง ว่านายกฯก็คงไม่พอใจกับปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารอย่างจงใจของแม่ทัพบ่อยครั้งที่สวนทางกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ตอกย้ำว่ากองทัพกับรัฐบาลไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันอย่างที่พยายามพูดบ่อยๆ และที่สำคัญคือ #รัฐบาลเพื่อไทยบริหารกองทัพไม่ได้ แม้ไม่พอใจความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชา ก็ทำได้แค่ไปขอความเห็นใจกับคู่กรณี

ซึ่งนี่คือความจริงที่น่ากลัวอย่างยิ่งสำหรับประเทศประชาธิปไตย

หลังคลิปเสียงถูกปล่อยออกมา กองทัพมีปฏิกิริยาในช่องทางต่างๆทันที ไร้ซึ่งความเคารพยำเกรงต่อนายกฯ แสดงความพร้อมที่จะแข็งข้อ

คงไม่ต้องให้เหตุผลเพิ่มว่าทำไมนายกฯจึงควร “ลาออก” วันนี้.

Bow Nuttaa Mahattana

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...